วันอาทิตย์, ธันวาคม 27, 2552

2010 Movies Preview


โดย...ชาร์ลี ไฟน์แมน 
25 Movies You Must See in 2010 / 25 หนังเด็ด ประจำปี 2010 ที่คุณต้องไม่พลาด!
        
ในโอกาสที่ปีเก่ากำลังจะผ่านไป ปีใหม่กำลังจะผ่านเข้ามา นี่คงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะเจาะสุดๆ แล้ว สำหรับการมองล่วงหน้าว่า ในปี 2010 ที่จะมาถึงนี้ จะมีหนังเรื่องไหนรอดูดเงินจากกระเป๋าสตางค์เราบ้าง และต่อไปนี้คือ 25 หนังเด็ด แห่งปี 2010 ที่เราคัดสรรมาฝากกัน จะมีเรื่องไหนบ้างนั้น ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย...



1. The Book of Eli 


  ประเดิมกันด้วยหนังหนังแอ็คชั่น/ไซไฟฟอร์มยักษ์ที่มีโลกอันเวิ้งว้างว่างเปล่าหลังสงครามนิวเคลียร์เป็นฉากหลัง พระเอกมาดเข้ม เด็นเซล วอชิงตัน มารับบทเป็น อีไล ชายหนุ่มที่เดินทางท่องไปทั่วอเมริกาพร้อมกับต้องปกป้องหนังสือเล่มหนึ่งเอาไว้ เพราะว่านี่คือคัมภีร์ที่จะช่วยกอบกู้มวลมนุษยชาติกลับคืนมา!   

คลิกดูตัวอย่างและข้อมูลหนัง



 

2. Percy Jackson and The Olympians : The Lightning Thief   



  หนังแอ็คชั่น/แฟนตาซีที่สร้างจากแฟรนไชส์วรรณกรรมเยาวชนซึ่งได้รับความนิยมไม่แพ้ แฮร์รี่ พ็อตเตอร์ และคงจะไม่มีผู้กำกับคนไหนที่จะเหมาะสมกับหนังเรื่องนี้เท่ากับ คริส โคลัมบัส ที่เคยสร้างปรากฏการณ์ให้กับ      แฮร์รี่ พ็อตเตอร์ สองภาคแรกมาแล้ว

คลิกดูตัวอย่างและข้อมูลหนัง




 


3. The Wolfman 
 

  เลื่อนแล้วเลื่อนอีก จนสุดท้ายก็มาลงจอช่วงวันวาเลนไทน์ (แต่นี่มัน... หนังสยองขวัญดราม่า นะ) สำหรับหนังมนุษย์หมาป่าฉบับรีเมคที่ได้ เบนิซิโอ เดล โทโร่ มารับบทนำ ความน่าสนใจของ The Wolfman เวอร์ชั่น 2010 ก็คือ นอกเหนือจาก เทคนิคทางด้านภาพที่จะต้องดูเนียนกว่าหนังเวอร์ชั่นต้นฉบับปี1941 แล้ว ผู้กำกับ โจ จอห์นสตัน ยังยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะด้วยว่า The Wolfman ฉบับของเขาจะมีทั้งความเข้มข้นและซับซ้อนกว่าเดิมหลายเท่า 

คลิกดูตัวอย่างและข้อมูลหนัง



 

4. Shutter Island 
 

  อีกหนึ่งหนังที่โดนโรคเลื่อนเล่นงาน โดยก็หน้านี้เคยถูกวางคิวให้เข้าฉายช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีก่อน แต่สุดท้ายก็ถูกโยกให้มาฉายช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์2010 นี่คือการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งระหว่าง ผู้กำกับมือเก๋า มาร์ติน สกอร์เซซี่ และพระเอกหนุ่มฝีมือเยี่ยม ลีโอนาร์โด ดิคาร์ปริโอ หลังประสบความสำเร็จทั้งเงินทั้งกล่องกับ The Departed ในหนังแอ็คชั่นทริลเลอร์เรื่องนี้ที่ว่ากันว่าจะทำให้คุณลุ้นระทึกตั้งแต่ต้นจนจบเลยทีเดียว! 

คลิกดูตัวอย่างและข้อมูลหนัง




 

5. Alice in Wonderland 

  แม้เคยถูกสร้างเป็นหนังและแอนิเมชั่นมาแล้ว แต่คงไม่มีเวอร์ชั่นไหนน่าสนใจเท่ากับ Alice in Wonderland เวอร์ชั่น แหวก” ของ ผู้กำกับ ทิม เบอร์ตันที่ตัดสินใจบิดเรื่องราวให้น่าสนใจขึ้นด้วยการให้ อลิซ เติบโตเป็นสาวสะพรั่งและถูกบังคับให้แต่งงาน จนต้องหนีเข้าไปในโพรงกระต่ายอีกครั้ง และที่น่าสนุกก็คือ อลิซ ดันจำไม่ได้ว่าตอนเด็กเธอเคยหลุดเข้ามาในดินแดนแห่งนี้แล้ว อีกอย่างหนึ่งที่เชื่อว่าหลายคนอยากเห็นก็คือ โลกมหัศจรรย์ในจินตนาการของทิม เบอร์ตัน จะออกมาจัดจ้าน มืดหม่น หรือวิจิตรพิสดาร แค่ไหน?   

คลิกดูตัวอย่างและข้อมูลหนัง



 

6. Green Zone 


  ยังจำความ มันส์ลุ้นระทึก ชนิดหายใจไม่ทั่วท้องในหนัง เจสัน บอร์น สองภาคหลังได้หรือเปล่า?ความรู้สึกแบบนั้นกำลังจะกลับมาให้ได้สัมผัสอีกครั้งในหนังแอ็คชั่น/ทริลเลอร์เรื่องล่าสุดซึ่งเป็นการร่วมงานกันของผู้กำกับ พอล กรีนกลาสส์ และ แม็ตต์ เดม่อน ที่มารับบทเป็น รอย มิลเลอร์ นายทหารที่ถูกส่งตัวไปยังอิรักเพื่อตรวจสอบอาวุธชนิดร้ายแรง ก่อนจะไปพบความลับบางอย่างซึ่งเป็นเหตุให้ การหักเหลี่ยม เชือนคม และการไล่ล่า เริ่มต้นขึ้น! 

คลิกดูตัวอย่างและข้อมูลหนัง




 

7. How to Train Your Dragon 
   ผลงานชิ้นใหม่ของดรีมเวิร์คส์ที่จะทำให้คุณสนุกเคล้าเสียงฮา ในบรรยากาศโลกย้อนยุคของเหล่าไวกิ้ง และมังกรแสนดุร้าย ที่สร้างจากหนังสือของ เครสซิด้า โคเวลล์ เล่าเรื่องของไวกิ้งหนุ่มวัยทีนที่ต้องพิสูจน์เลือดนักสู้ของตัวเองให้ทุกคนเห็น ด้วยการพิชิตเหล่ามังกรที่แสนดุร้าย แต่เมื่อเขาได้พบกับศัตรู เหตุการณ์ก็กลับตาลปัตร เพราะเจ้ามังกรยักษ์ที่ว่านี้ไม่ได้มีพิษสงอย่างที่คิด นอกเหนือจาก Shrek Forever After และ Toy Story 3 แล้ว นี่คือหนังอีกเรื่องที่คอแอนิเมชั่น พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง! 

คลิกดูตัวอย่างและข้อมูลหนัง



 

8. Clash of the Titans   


  หนังมหากาพย์สงครามเทพนิยายกรีกฉบับรีเมค ที่ได้พระเอกหนุ่มสุด  ฮ็อตอย่าง แซม เวิร์ธทิงตัน Terminator Salvation Avatar มารับบทเป็น เพอร์ซีอุส นักรบที่ต้องเผชิญหน้ากับเหล่าสัตว์ประหลาดทั้งเมดูซ่าแมงป่องยักษ์หมาป่าสองหัว ฯลฯ นี่คือโปรเจ็กต์ยักษ์ที่ทาง วอร์เนอร์ หมายมั่นปั้นมือว่าจะประสบความสำเร็จไม่แพ้หนังอย่าง 300 จริงหรือเปล่าต้องรอพิสูจน์กัน 

คลิกดูตัวอย่างและข้อมูลหนัง




 

9. ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช 3-4 

  ด้วยความยิ่งใหญ่ อลังการของอภิมหาโปรเจ็กต์ที่ชาวสยามประเทศตั้งตาคอย เป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้ ท่านมุ้ย - ม.จ. ชาตรีเฉลิม ยุคล พิถีพิถันในการสร้างหนังเรื่องนี้อย่างมาก ชนิดที่ว่าถ้าไม่เนี้ยบจริงๆ แล้วล่ะก็  จะไม่ยอมปล่อยออกมาฉายอย่างเด็ดขาด ทำให้หนังถูกเลื่อนคิวออกไปจากเดิมที่กำหนดไว้ว่าน่าจะฉายได้ประมาณปลายปีก่อน ซึ่งถ้าหากไม่มีอะไรผิดพลาด ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช  น่าจะฉายได้ราวๆ กลางปี 53 โดยเรื่องราวจะเน้นไปที่ สงครามยุทธหัตถี ซึ่งเราจะได้เห็นฉากรบที่ยิ่งใหญ่ตระการตา พร้อมทั้งฉากกระบวนพยุหยาตราทางชลมารคสุดอลังการ ที่รับรองว่าคุ้มค่าแก่การรอคอยอย่างแน่นอน! 

คลิกดูตัวอย่างและข้อมูลหนัง



 


10. A Nightmare on Elm Street 


  เห็นทีเหล่าวัยรุ่นทั้งหลายคงหลับกันไม่ลงอีกแล้ว เพราะตำนานนิ้วเขมือบสุดสยองกำลังจะกลับมาอาละวาดอีกครั้ง เมื่อเอ่ยถึงเฟรดดี้ ครูเกอร์ น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอหนังสยองขวัญทั้งหลาย คงดีใจกันตัวสั่นที่จะได้เห็นซี้เก่าคนนี้กลับคืนจอใหญ่อีกครั้ง อ่อ...เกือบลืมบอกไปว่าหนังเรื่องนี้อำนวยการสร้างโดย ไมเคิล เบย์ แห่ง Transformers ด้วยนะ 

คลิกดูตัวอย่างและข้อมูลหนัง




 

11. Iron Man 2 

  นี่คือหนังแอ็คชั่นฮีโร่ภาคต่อที่ถูกวางให้ฉายเปิดซัมเมอร์ปี 2010 หลังจากที่ภาคแรกได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลามว่าสามารถผสมผสาน สาระ และความบันเทิง ออกมาได้อย่างลงตัว จอน แฟฟโรว์ กลับมาทำหน้าที่ผู้กำกับเช่นเดิม รวมถึงนักแสดงนำหลักอย่าง โรเบิร์ต ดาวนี่ย์ จูเนียร์ และ   เกวนเน็ต พัลโทรว์ ร่วมด้วยทีมนักแสดงหน้าใหม่ที่เข้ามาสร้างสีสันอย่าง สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน (ในบทสายลับสาวรัสเซียสุดเซ็กซี่)มิคกี้ รู้ค (ในบท วิปแลช ศัตรูตัวฉกาจของ ไอรอน แมน และ ดอน ซีเดิล (มารับบท โรดี้ แทนที่ของ เทอร์เรนซ์ ฮาวเวิร์ด ซึ่งขอถอนตัวออกไป)  

คลิกดูตัวอย่างและข้อมูลหนัง



 


12. Robin Hood 


  การกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของผู้กำกับ-พระเอกคู่บุญ ริดลี่ย สก็อตต์ และรัสเซลล์ โครว์ โดยคราวนี้ได้หยิบเอาแคเร็กเตอร์ที่ทุกคนรู้จักกันดีอย่าง โรบิน ฮู้ด มาขึ้นจอใหม่ และได้สุดยอดมือเขียนบทอย่าง ไบรอัน     เฮลเกแลนด์มาปรับแต่งตำนานปรัมปราเรื่องนี้ ซึ่งผู้กำกับ ริดลี่ย์ สก็อตต์ บอกว่า โรบิน ฮู้ดฉบับของเขาจะเป็น โรบิน ฮู้ด ที่มีความสมจริงกว่าหนังเวอร์ชั่นก่อนๆ 

คลิกดูตัวอย่างและข้อมูลหนัง




 



13. Shrek Forever After 


  ก็ในเมื่อหนังสามภาคแรกทำรายได้ถล่มทลายซะขนาดนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่จะมีหนังแอนิเมชั่นยักษ์ตัวเขียวเรื่องที่สี่ออกมา ว่ากันว่าหนังภาคนี้จะมาพร้อมกับเรื่องราวที่กลับไปเอาใจผู้ชมกลุ่มเด็กๆ อีกครั้ง ลองคิดดูซิว่า จะอลเวงแค่ไหนถ้าเหล่ายักษ์ใจร้ายบุกเมืองฟาร์อะเวย์!?! 

คลิกดูตัวอย่างและข้อมูลหนัง



 


14. Prince of Persia : The Sands of Time 
 

  หนังแอ็คชั่น/แฟนตาซี ฟอร์มยักษ์ที่สร้างมาจากวีดีโอเกมดัง เจค          จิลเลนฮาน (ที่ฟิตหุ่นซะล่ำบึ้ก) มารับบทเป็น เจ้าชายแดสตัน กำกับโดย ไมค์ นิวเวลล์ จาก Harry Potter and the Goblet of Fire รับประกันความยิ่งใหญ่โดยผู้อำนวยการสร้างมือทอง เจอร์รี่ บรัคไฮเมอร์ แห่งPrivates of the Caribbean 

คลิกดูตัวอย่างและข้อมูลหนัง




 

15. Toy Story 3 
   ทิ้งช่วงห่างจากภาคสองไปนานถึง 11 ปี ในที่สุด Toy Story ก็กลับมาลงจออีกครั้งจนได้ และในเมื่อหายหน้าหายตาไปเป็นสิบๆ ปีแบบนี้ แน่นอนว่า แอนดี้ เจ้าของหุ่นเด็กเล่นในเรื่อง โตเป็นวัยรุ่นและกำลังจะก้าวสู่รั้วมหาวิทยาลัยแล้ว ที่นี้ตุ๊กตาคาวบอย วู้ดดี้ และหุ่นอัศวินอวกาศ บัซ ไลท์เยียร์ จะทำยังไงดีล่ะเมื่อพวกเขาและเพื่อนๆ แก็งค์หุ่นเด็กเล่นถูกทิ้งเอาไว้ในห้องเก็บของ ทอม แฮงค์สทิม อัลเลน และทีมพากย์จากสองภาคแรกกลับมากันครบ   

คลิกดูตัวอย่างและข้อมูลหนัง

16. Jonah Hex 

  สร้างจากการ์ตูนของดีซี คอมมิกส์ เล่าเรื่องของ โจนาห์ เฮ็กซ์   ( จอช   โบรลิน คาวบอยนักล่าหน้าบาก ซึ่งต้องต่อสู้กับจอมวายร้ายที่นับถือลัทธิวูดูและต้องการปลุกเหล่าผีดิบขึ้นมาป่วนโลกมนุษย์ ร่วมด้วยดาราสาวที่ฮ็อตที่สุดของพ.ศ.นี้อย่าง เมแกน ฟ็อกซ์ ในบทของ ไลล่า หญิงขายบริการสุดเอ็กซ์ที่ช่ำชองการใช้ปืนเป็นอาวุธ 

คลิกดูตัวอย่างและข้อมูลหนัง




 



17. The Twilight Saga : Eclipse   


  ไม่ปล่อยให้เหล่าสาวกต้องรอนาน หลังจาก New Moon ออกฉายได้ประมาณครึ่งปี แฟนๆ ก็ได้ดูภาค ต่อกันเลย โดยคราวนี้ผู้กำกับเปลี่ยนมือมาเป็น เดวิด สเลท ว่ากันว่านอกเหนือจากจะมีฉากแอ็คชั่นเพิ่มขึ้นแล้ว หนังภาคนี้จะเปิดเผยให้เราได้รู้ด้วยว่าเพราะอะไรเหล่า มนุษย์หมาป่า ถึงไม่ชอบขี้หน้าพวกแวมไพร์ 

คลิกดูตัวอย่างและข้อมูลหนัง



 


18. The Last Airbender 
 

  หลังจากล้มเหลวไม่เป็นท่ากับ The Happening (ทั้งๆ ที่หนังก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น) ผู้กำกับเอ็ม.ไนท์. ชยามาลาน กลับมาอีกครั้งกับหนังแอ็คชั่น/แฟนตาซีเรื่องนี้ซึ่งดัดแปลงมาจากหนังการ์ตูนเรื่อง Avatar : The Last Airbender โดยหลายคนที่ได้ดูเทรลเลอร์แรกซึ่งตัดออกมาชิมลาง ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า บางที่นี่อาจจะเป็นการกลับคืนฟอร์มของ ชยามาลาน เลยทีเดียว จะจริงหรือเปล่าอีกไม่นานได้รู้กัน! 

คลิกดูตัวอย่างและข้อมูลหนัง




 



19. Inception 


  อีกหนึ่งหนังคุณภาพที่หลายคนรอคอย กับผลงานชิ้นล่าสุดของผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน ถัดจาก The Dark Knight โดยหนังไซไฟทริลเลอร์เรื่องนี้ได้สุดยอดนักแสดงมาประชันบทบาทด้วยกันหลายคนทั้ง ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ เอลเลน เพจ เคน วาตานาเบ้ ซิลเลี่ยน เมอร์ฟี่ย์ ไมเคิล เคน และมาริยง โกติยาร์ด 

คลิกดูตัวอย่างและข้อมูลหนัง



 



20. Predators 
 

   แค่ได้ยินข่าวว่าจะมีคนเอา นักล่าหัวเดดร็อค กลับมาทำใหม่ ก็แทบจะอดใจรอดูไม่ไหวแล้ว ยิ่งพอรู้ว่า โรเบิร์ต โรดริเกวซ จะมานั่งแท่นอำนวยการสร้างและเขียนบทด้วยตัวเอง โปรเจ็กต์นี้ก็ยิ่งทวีความน่าสนใจเข้าไปใหญ่ โดยงานนี้จะได้ นิมร๊อด อันตัล (Vacancy) มาเป็นผู้กำกับ และนำแสดงโดย เอเดรี้ยน โบรดี้ 

คลิกดูตัวอย่างและข้อมูลหนัง




 



21. Salt 


  สลับสับเปลี่ยนตัวผู้กำกับและดารานำกันวุ่นวายน่าดูสำหรับโปรเจ็กต์นี้ ก่อนที่สุดท้ายจะมาลงตัวที่ ฟิลิป นอยซ์ และ แองเจลีน่า โจลี่ ที่มารับบทนำแทนทอม ครูซ (ใช่แล้ว คุณอ่านไม่ผิดหรอก หนังเรื่องนี้เปลี่ยนตัวเอกจากชายเป็นหญิง! เก๋มั้ยละ?) หนังเล่าเรื่องของ เอเวอลีน ซอลต์ โจลี่ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นสายลับให้พวกรัสเซีย เธอจึงต้องหนีจากการถูกตามล่าพร้อมๆ กับพิสูจน์ว่าเธอไม่ใช่คนขายชาติ 

คลิกดูตัวอย่างและข้อมูลหนัง


22. The Expendables   


  นี่คือโปรเจ็กต์ที่คอหนังแอ็คชั่นทั้งหลายเห็นแล้วต้อง ครางฮือ!!!” เพราะคงไม่มีหนังเรื่องไหนรวมสุดยอดแอ็คชั่นฮีโร่เอาไว้มากเท่านี้อีกแล้ว นำทีมโดย ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน (ที่เล่นเอง กำกับเอง)ดอล์ฟ ลุนด์เกรน บรู๊ซ วิลลิส อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ (2 รายหลังนี่มาเซอร์ไพรซ์ในบทรับเชิญ) นอกจากนั้น ยังมีพระเอกนักบู๊รุ่นน้องอย่าง เจสัน สเตแธม เจ็ต ลี มาร่วมวงด้วย หนังเล่าเรื่องของทีมทหารรับจ้างกลุ่มหนึ่งที่ต้องบุกทลายแก็งค์ค้ายาเสพติดในอเมริกาใต้ 

คลิกดูตัวอย่างและข้อมูลหนัง




 




23. Resident Evil: Afterlife 


  ไม่ว่าใครจะว่ายังไง โปรเจ็กต์นี้ก็ยังได้รับความสนใจจากคอหนังอยู่วันยังค่ำ และคราวนี้ยิ่งทวีความน่าสนใจขึ้นไปอีก เมื่อ พอล ดับเบิ้ลยู เอส    แอนเดอร์สัน ซึ่งปลุกปั้นวีดีโอเกมสุดฮิตเกมนี้ให้กลายเป็นหนังภาคแรก จะกลับมานั่งแท่นผู้กำกับอีกครั้ง แว่วๆ มาว่าหนังภาคนี้จะทำเป็น มิติซะด้วย! 

คลิกดูตัวอย่างและข้อมูลหนัง



 



24. Harry Potter and the Deathly Hallows : Part 1


  เดินทางมาสู่บทสรุปสุดท้ายที แต่นี่จะเป็นแค่เพียงครึ่งแรกของบทสรุปเท่านั้น ตามท้องเรื่อง แฮร์รี่ และเพื่อนๆ จะต้องเดินทางออกจาก ฮอกวอร์ตส์ เพื่อตามหาสิ่งของที่จะนำมาใช้ต่อกรกับ ลอร์ดโวลเดอร์มอร์ 

คลิกดูตัวอย่างและข้อมูลหนัง




 


25. The Chronicles of Narnia : The Voyage of the Dawn Treader 
 

  แม้ว่าทาง ดิสนี่ย์ ออกมาประกาศว่าจะไม่ขอสังฆกรรมกับโปรเจ็กต์นี้อีกแล้ว แต่เมื่อพิจารณาจากหนังภาคก่อนที่ทำเงินทั่วโลกไปกว่า $420 ล้าน ก็ถือเป็นรายได้ที่ไม่น้อยเลยทีเดียว และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ ทเว็นตี้ เซ็นจูรี่ ฟ็อกซ์ เข้ามารับช่วงโปรเจ็กต์นี้ต่อ ทำให้ อภินิหารตำนานแห่งนาร์เนีย ดำเนินต่อไปได้ และอย่างน้อยๆ แฟนหนังสือและแฟนหนังที่ตามดูกันมาตั้งแต่ภาคแรก คงกำลังรอหนังภาคนี้แบบใจจดใจจ่อเลยล่ะ จริงมั้ย

คลิกดูตัวอย่างและข้อมูลหนัง

สภาพคล่องธนาคารพาณิชย์ไทยปี 2553

สภาพคล่องธนาคารพาณิชย์ไทยปี 2553 … มีแนวโน้มลดลง ขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นหลัก

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้รวบรวมข้อมูลสินทรัพย์สภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยที่ประกอบด้วยธนาคารพาณิชย์ไทย 14 แห่ง ในปี 2552 ที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดเป็นข้อมูล ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2552 พร้อมทั้งประเมินแนวโน้มสภาพคล่องในปี 2553 ดังต่อไปนี้
ฐานะสภาพคล่องล่าสุดในปี 2552 … เพิ่มขึ้นจากปีก่อน
สภาพคล่องที่วัดจากการเปลี่ยนแปลงของยอดเงินฝากและสินเชื่อ ลดลงในเดือนพฤศจิกายน 2552 สอดรับกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดย ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2552 ยอดเงินให้สินเชื่อสุทธิ (หลังหักค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ) ของ 14 ธนาคารพาณิชย์ไทย มีจำนวน 5.69 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.08 แสนล้านบาท จาก 5.58 ล้านล้านบาท ณ สิ้นเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นขนาดการเพิ่มขึ้นที่มากกว่ายอดเงินฝากที่เพิ่มขึ้น 7.92 หมื่นล้านบาท จาก 6.36 ล้านล้านบาท ณ สิ้นเดือนตุลาคม มาเป็น 6.44 ล้านล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบกับสิ้นปี 2551 สภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ไทยยังปรับตัวเพิ่มขึ้นในปี 2552 อันเป็นผลหลักจากยอดเงินให้สินเชื่อสุทธิที่หดตัวมากกว่าเงินฝาก (เงินให้สินเชื่อสุทธิลดลงจากสิ้นปี 2551 จำนวน 1.23 แสนล้านบาท ขณะที่เงินฝากลดลง 4.23 หมื่นล้านบาท) หลังจากที่สินเชื่อเพิ่งจะเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนมากขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี
ส่วนสินทรัพย์สภาพคล่อง (รวมเงินสด เงินลงทุนสุทธิในตลาดเงินระยะสั้น และเงินลงทุนสุทธิในหลักทรัพย์)1 ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2552 แทบไม่เปลี่ยนแปลงโดยขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดย ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2552 สภาพคล่องดังกล่าวมีจำนวน 2,113.9 พันล้านบาท ปรับขึ้นเพียง 336 ล้านบาท จาก 2,113.5 พันล้านบาท ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2552 อันเป็นผลหลักจากการลดลงในองค์ประกอบหลักอย่างเงินลงทุนสุทธิในตลาดเงินระยะสั้น
ขณะที่เงินลงทุนสุทธิในหลักทรัพย์และเงินสดเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาข้อมูลสินทรัพย์สภาพคล่องในความหมายที่แคบลง คือ ไม่นับรวมเงินลงทุนสุทธิในหลักทรัพย์ หรือมาจากผลรวมเฉพาะของเงินสดและเงินลงทุนสุทธิในตลาดเงินระยะสั้น พบว่า มีจำนวน 7.84 แสนล้านบาท ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2552 ลดลงจำนวน 4.02 หมื่นล้านบาท จาก 8.24 แสนล้านบาท ณ สิ้นเดือนตุลาคม
การขยับขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าของสภาพคล่องในความหมายกว้างเกิดขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของสภาพคล่องในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่2 โดยสภาพคล่องในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นจำนวน 2.50 หมื่นล้านบาท มามียอดคงค้างที่ 1.40 ล้านล้านบาท ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2552 สวนทางกับสภาพคล่องในกลุ่มธนาคารขนาดกลางและกลุ่มธนาคารขนาดเล็กที่ลดลงจำนวน 2.30 หมื่นล้านบาท และ 1.66 พันล้านบาท มามียอดคงค้างที่ 4.91 แสนล้านบาท และ 2.18 แสนล้านบาท ตามลำดับ
เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2551 สินทรัพย์สภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ไทย 14 แห่ง ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2552 ยังคงเพิ่มขึ้นประมาณ 1.30 แสนล้านบาท โดยมาจากการเพิ่มขึ้นของสภาพคล่องในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่เป็นหลัก จำนวน 2.14 แสนล้านบาท ขณะที่ สภาพคล่องในกลุ่มธนาคารขนาดกลางและกลุ่มธนาคารขนาดเล็กลดลง 3.24 หมื่นล้านบาท และ 5.21 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ
แนวโน้มสภาพคล่องในปี 2553  ปัจจัยสำคัญอยู่ที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
สำหรับแนวโน้มในปี 2553 นั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า สภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยอาจมีทิศทางที่ปรับลดลงจาก ณ สิ้นปี 2552 โดยได้รับอิทธิพลหลักจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่คาดว่าอาจขยายตัวในกรอบประมาณร้อยละ 2.5-3.5 ในปี 2553 เทียบกับการหดตัวประมาณร้อยละ 3.1 ในปี 2552 ทั้งนี้ ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้นดังกล่าว คงจะมีอิทธิพลทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ไทยในระยะข้างหน้า ผ่านการปรับตัวของตัวแปรที่เกี่ยวข้องต่างๆ ได้แก่
ปริมาณสภาพคล่องที่ไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอาจมีลดลง
เนื่องจากสภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจที่กระจายอยู่ในตลาดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตลาดเงิน ตลาดทุน และสภาพคล่องที่หมุนเวียนอยู่ในมือของภาคธุรกิจและครัวเรือน การเปลี่ยนแปลงของสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจ ย่อมมีผลต่อสภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์ไทย เพราะภาคส่วนต่างๆ ยังคงอาศัยกลไกธนาคารพาณิชย์เป็นตัวกลางในการดำเนินธุรกรรมทางการเงินเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจ ที่สำคัญคือ ฐานะดุลบัญชีเดินสะพัดและดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายของประเทศ
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ระดับการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยอาจลดลงจากประมาณ 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ในปี 2552 มาที่ประมาณ 1.0-1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ บนพื้นฐานการคาดการณ์ว่าการนำเข้ามีแนวโน้มจะฟื้นตัวขึ้น ตามการฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุนในประเทศ แนวโน้มการปรับขึ้นของราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ ตลอดจนการฟื้นตัวของการส่งออกที่คงจะสนับสนุนความต้องการนำเข้าสินค้าประเภทวัตถุดิบและสินค้าทุน เพื่อผลิตและส่งออกต่อ ให้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย อนึ่ง การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่คาดว่าจะลดลงในปี 2553 ดังกล่าว สะท้อนว่า สภาพคล่องที่ไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ และตลาดธนาคารพาณิชย์ อาจมีปริมาณที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ในขณะที่ แม้ว่าประเทศไทยอาจจะได้รับอานิสงส์จากเงินลงทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศที่ยังมีแนวโน้มไหลเข้าสุทธิมายังภูมิภาคเอเชียอย่างต่อเนื่องอย่างน้อยในช่วงครึ่งแรกของปี 2553 อันเป็นผลจากพื้นฐานเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าโดยเปรียบเทียบกับภูมิภาคอื่น แต่กระแสการเคลื่อนย้ายเงินทุนดังกล่าวที่มักจะผันผวนหรือเปลี่ยนทิศอย่างรวดเร็ว ขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นของนักลงทุนเป็นหลัก ทำให้คาดว่าอานิสงส์ดังกล่าวอาจถูกจำกัดไว้โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการที่เศรษฐกิจไทยยังมีแรงเสียดทานจากปัจจัยความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ รวมถึงความไม่ชัดเจนของการลงทุนในบางสาขา
ความต้องการสินเชื่อที่น่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้น
การทยอยฟื้นตัวขึ้นของเศรษฐกิจไทย คาดว่าจะผลักดันให้ภาคธุรกิจและครัวเรือนมีความต้องการสินเชื่อ ทั้งเพื่อเป็นทุนหมุนเวียนและเพื่อใช้ในการขยายกิจการ/การลงทุน เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2553 หลังจากที่ยอดเงินให้สินเชื่อสุทธิของธนาคารพาณิชย์ไทยเริ่มจะฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2552 (ขยายตัวจากเดือนก่อนหน้าเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนพฤศจิกายน) เทียบกับที่หดตัวลงเป็นส่วนใหญ่ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2552 ทั้งนี้ ยอดสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ที่คาดว่าจะขยายตัวอยู่ในแดนบวกได้ในปี 2553 ก็หมายความว่าสภาพคล่องในมือของธนาคารพาณิชย์มีแนวโน้มจะถูกระบายออกไปหมุนเวียนอยู่ในมือของภาคธุรกิจเอกชนและภาคครัวเรือนมากขึ้น
การแข่งขันระหว่างเงินฝากกับทางเลือกการออมอื่นๆ ที่ยังมีแนวโน้มดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่าการระดมทุนด้วยการออกหุ้นกู้ของภาคธุรกิจเอกชนในปี 2553 อาจมีแนวโน้มจะลดความคึกคักลงจากปี 2552 เมื่อต้นทุนในตลาดการเงินปรับตัวสูงขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่การนำเสนอผลิตภัณฑ์กองทุนรวมที่ลงทุนในตราสาร/สินทรัพย์ต่างๆ ที่ให้ผลตอบแทนจูงใจ อาทิ ตราสารหนี้ต่างประเทศ หุ้น ทองคำ สินค้าโภคภัณฑ์ และอสังหาริมทรัพย์ ก็ยังคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนรายย่อย ตราบใดที่ตลาดยังไม่เพิ่มการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ อันจะทำให้เงินดอลลาร์ฯปรับแข็งค่าขึ้นและราคาสินทรัพย์อย่างหุ้น ทองคำ และสินค้าโภคภัณฑ์ มีโอกาสปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ในปี 2553 รัฐบาลก็ยังมีแผนจะออกพันธบัตรออมทรัพย์เพิ่มเติมอีกเพื่อระดมเงินไปใช้สำหรับโครงการลงทุนภายใต้ปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ส่งผลให้ในที่สุดแล้ว ผู้ออมอาจยังมีการโยกเงินฝากออกจากระบบธนาคารพาณิชย์ไปแสวงหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าอย่างต่อเนื่อง อันจะนำมาสู่ปริมาณสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ที่ลดลง
การปรับตัวของตัวแปรต่างๆ ดังกล่าว คงจะนำมาสู่ปริมาณสภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยที่ทยอยปรับตัวลดลงในปี 2553 อย่างไรก็ตาม ความรวดเร็วในการระบายสภาพคล่องออกไปจากธนาคารพาณิชย์ จะขึ้นอยู่กับความต่อเนื่องและชัดเจนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย โดยในกรณีที่เศรษฐกิจไทยสามารถฟื้นตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่องและปัญหาที่เกี่ยวกับการลงทุนสามารถคลี่คลายลงได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว การคาดการณ์ถึงสภาพคล่องที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต อาจจะผลักดันให้ธนาคารพาณิชย์พิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก (โดยน่าจะเริ่มจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะยาวก่อน) และนำมาสู่การแข่งขันทางด้านราคาในผลิตภัณฑ์เงินฝาก ซึ่งในท้ายที่สุดอาจมีผลในการช่วยให้สภาพคล่องชะลอการปรับลงได้
ในทางตรงกันข้าม หากโมเมนตัมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจขาดความต่อเนื่อง สภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ไทยก็อาจยังทรงตัวหรือทยอยปรับลดลง เนื่องจากผู้ออมคงจะมีการโยกเงินฝากออกไปลงทุนในทางเลือกการออมอื่นๆ ที่ให้ผลตอบแทนจูงใจอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่จังหวะเวลาของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์น่าจะถูกเลื่อนออกไป ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นกรณีใด ปริมาณสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ก็มีแนวโน้มปรับลดลงในปี 2553 และอาจมีผลทำให้วัฏจักรอัตราดอกเบี้ยของระบบการเงินไทยยังมีแนวโน้มอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านไปสู่จังหวะขาขึ้น ดังนั้น ภาคธุรกิจและครัวเรือนจึงควรที่จะเตรียมวางแผนรับมือกับต้นทุนทางการเงินที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต อันน่าจะช่วยให้การดำเนินธุรกิจและการจัดสรรเงินออมสามารถสร้างผลตอบแทนได้ตามที่คาดหวัง สอดรับกับแนวโน้มเศรษฐกิจในปี 2553 ที่น่าจะสดใสกว่าในปี 2552 ที่ผ่านมา
ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

เอ็กซิมแบงก์คาด เงินบาทปี 53 แข็งค่าต่ำกว่า 33 บาท

นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานกรรมการเอ็กซิมแบงก์ บอกว่า ปีหน้าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวขึ้นชัดเจน ซึ่งเป็นผลจากการที่ประเทศไทยมีการค้ากับกลุ่มประเทศในเอเชียมากขึ้น บวกกับมีการใช้จ่ายภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น 
โดยคาดว่า เศรษฐกิจจะเติบโตอยู่ในระดับ 3-5 % จากแรงขับเคลื่อนการลงทุนของภาครัฐ ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย คาดว่า รัฐบาลจะลงทุนเพิ่มมากขึ้น จากปีนี้ที่รัฐบาลลงทุนถึง 5.5-7.5 % และปีหน้าการลงทุนของรัฐจะเพิ่มขึ้นอีก 3-5 % ส่วนอัตราดอกเบี้ยคาดว่า จะปรับขึ้นได้เล็กน้อยในช่วงปลายปี ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนคาดว่า เงินบาทจะแข็งค่าขึ้น โดยอาจะแตะระดับ 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐได้ (Money Line News)

กลยุทธ์การปล่อยสินเชื่อ เอสเอ็มอีแบงก์ ปี 53


         กลยุทธ์การปล่อยสินเชื่อ เอสเอ็มอีแบงก์ ปี 53 กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (นายโสฬส สาครวิศว) กล่าวว่า กลยุทธ์การปล่อยสินเชื่อในปีหน้านั้น ธนาคารจะเพิ่มบทบาทของสาขาให้บริการครบวงจร (ONE STOP SERVICE) มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะลูกค้ารายย่อยที่ขอสินเชื่อวงเงินไม่เกิน 15 ล้านบาท ทั้งนี้ ผู้จัดการสาขาจะมีหน้าที่ตั้งแต่การหาลูกค้า ประเมินราคาหลักประกัน อนุมัติวงเงินสินเชื่อภายใน 45 วัน รวมทั้งคอยติดตามดูแลลูกค้าภายหลังจากที่ได้รับสินเชื่อไปแล้ว โดยธนาคารตั้งเป้าหมายด้านสินเชื่อจะมียอดสินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า20% หรือคิดเป็นเม็ดเงิน 12,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันธนาคารได้อนุมัติสินเชื่อแล้ว 43,960 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่กระทรวงการคลังกำหนดไว้ที่ 43,500 ล้านบาท และสูงกว่าปีก่อน 112% คาดว่าสิ้นปีนี้ธนาคารจะมียอดสินเชื่อคงค้างที่ 55,000 ล้านบาท ส่วนธุรกิจเป้าหมายของ ธพว.จะเน้นธุรกิจเชิงสังคมตามนโยบายรัฐบาล เช่น ธุรกิจโอท็อป แฟรนไชส์ หนี้นอกระบบ ธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจแปรรูปสินค้าเกษตร และธุรกิจเชิงสร้างสรรค์ เป็นต้น 
รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (นายสุรชัย กำพลานนท์วัฒน์)กล่าวว่า ขณะนี้ธนาคารได้กระจายอำนาจการอนุมัติวงเงินสินเชื่อไปสู่สาขา โดยผู้จัดการสาขาจะมีอำนาจในการอนุมัติวงเงินสินเชื่อไม่เกิน แสนบาท ส่วนวงเงินตั้งแต่ แสนบาท ถึงล้านบาท ผู้จัดการสาขาจะต้องอนุมัติร่วมกับผู้อำนวยการภาคและกรณีวงเงิน 2-15 ล้านบาท ผู้อำนวยการภาคจะต้องอนุมัติร่วมกับผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อ แต่ถ้าวงเงินเกินกว่า 15 ล้านบาท จะต้องส่งให้สำนักงานใหญ่พิจารณา นอกจากนี้ ธนาคารยังมอบอำนาจการประเมินราคาหลักประกันตามระเบียบกำหนด โดยจะจัดลำดับเครดิตของลูกค้าออกเป็น เกรด ได้แก่ เกรด A B C และ จะดูความสามารถการชำระหนี้ของลูกค้าเป็นหลัก กรณีที่เป็นลูกค้าชั้นดีอาจจะได้รับการอนุมัติวงเงินสินเชื่อสูงสุดไม่เกิน 125% ของมูลค่าหลักประกัน แต่ถ้าลูกค้าผ่านการวิเคราะห์สินเชื่อแล้ว ปรากฏว่าไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ได้ แม้จะขอวงเงินสินเชื่อเพียง 50% ของมูลค่าหลักประกัน ธนาคารก็ไม่สามารถอนุมัติวงเงินสินเชื่อให้ได้ (FOC NEWS)