วันเสาร์, ตุลาคม 31, 2552

รถไฟฟ้ามาหานะเธอ


รถไฟฟ้ามาหานะเธอ

รถไฟฟ้ามาหานะเธอ
รถไฟฟ้ามาหานะเธอ
รถไฟฟ้ามาหานะเธอ







ตัวอย่างหนัง รถไฟฟ้ามาหานะเธอ เรื่องย่อ หนัง รถไฟฟ้า มาหานะเธอ


รถไฟฟ้ามาหานะเธอ (GTH)

กำหนดฉาย หนัง รถไฟฟ้ามาหานะเธอ 
: 15 ตุลาคม2552
ประเภท : romantic, comedy
นักแสดงนำหนัง รถไฟฟ้ามาหานะเธอ : เคน ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ ,คริส หอวัง,แพท อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา
ผู้กำกับหนัง รถไฟฟ้ามาหานะเธอ : อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม


 เรื่องย่อ หนัง รถไฟฟ้ามาหานะเธอ 

          สภาพจราจรในปี 2552 ยังเป็นปัญหาหนักอกของคนกรุงเทพฯ ด้วยแม้จะมีถนน สะพาน ทางด่วนใหม่ๆผุดขึ้นหลายต่อหลายสาย ผิวจราจรเหล่านั้นก็ยังติดขัดและไม่เพียงพอต่อความต้องการ...ถนนในกทม.ก็เหมือนหนุ่มหล่อแสนดี ที่มีน้อยและไม่เคยเพียงพอต่อความต้องการ!

          เหมยลี่ (คริส หอวัง) เป็นสาวอายุ 30 ที่มีพฤติกรรมป่วนประจำตัวอย่างหนึ่ง คือ การเมาในงานแต่งงานเพื่อน เพราะมันช่างตอกย้ำซ้ำเติมชีวิตโสดสนิทไร้ชายใดมาแผ้วพานของลี่ วันหนึ่งหลังลากสังขารกลับจากการส่งเพื่อนสาวสุดซี้เข้าห้องหอ ลี่ขับรถเสยเข้ากับแผงโจ๊กในตลาดโต้รุ่ง ส่งผลให้รถเก๋งคันงามของเธอถูกป๊าผู้ต่อต้านแอลกอฮอลล์ทุกชนิดขายทิ้ง โทษฐานเมาแล้วขับ

          ชีวิตที่ไม่มีชายหนุ่มคอยไปรับไปส่งอย่างลี่ จึงต้องออกไปผจญการจราจรสุดโหดของเมืองบางกอกเพียงลำพัง แต่ละวันลี่ต้องปากกัดตีนถีบ ขึ้นมอเตอร์ไซค์ ต่อรถตู้ โบกแท็กซี่ โหนรถเมล์ โดดลงเรือ ฯลฯ สารพันความเมื่อยล้าจากการเดินทางแบบเมก้าฮิตทำให้เวลานอนของลี่แปรปรวน

          คืนหนึ่งลี่ตื่นมากลางดึกและแอบขึ้นไปกินเบียร์บนดาดฟ้า โชคดีปนร้าย ลี่บังเอิญไปเจอลูกจ้างชายหญิงกำลังแสดง "หนังสด" กันอยู่ กลายเป็นคดีอื้อฉาวกลางดึกที่นำพาให้ลี่ได้พบกับ ลุง (เคน – ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์) วิศวกร Maintenance แห่งรถไฟฟ้า BTS

          การได้พบกับผู้ชายชื่อแปลกคนนี้แบบไม่เมา ในคืนต่อมาทำให้ลี่เริ่มรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมาเป็นครั้งแรกในสามสิบฝน ในหัวลี่อัดแน่นด้วยคำถาม "ผู้ชายที่ทั้งขาว ทั้งหล่อ ทั้งเท่ ไหงถึงมาซ่อนตัวทำงานรถไฟฟ้ากะดึกอยู่อย่างนี้"

          ลี่รู้สึกราวกับว่า ลุง คือ ขุมทรัพย์ที่เธอบังเอิญไปพบลายแทงเข้า หากเธอไม่ลงมือทำอะไร ไม่ทำในสิ่งที่ใจต้องการ เธออาจกลายเป็นหญิงโสดคนสุดท้ายในกรุงเทพมหานคร

          ลี่ตัดสินใจทำในสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนเคยคิด แต่ไม่กล้าลงมือ นั่นคือ การจีบผู้ชายก่อน!!

          แต่ทุกอย่างมันก็ไม่ง่ายสำหรับมือใหม่หัดจีบอย่างลี่ ไหนจะเวลาไม่ตรงกันจนเหมือนอยู่คนละโลกของเขากับเธอ ไหนจะถูก เพลิน (แพท - อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา) สาวน้อยข้างบ้านหักหลัง แปรพักตร์จากครูไปเป็นคู่แข่งความรัก

          
แต่ไม่ว่าจะต้องผจญอุปสรรคไหน ๆ ลี่ก็ไม่คิดถอดใจ ตั๋วรักรถไฟ(ฟ้า) เที่ยวสุดท้ายใบนี้ ลี่สาบานว่าจะไม่ยอมให้หลุดมือเด็ดขาด!

      
รถไฟฟ้า มาหานะเธอ
รถไฟฟ้า มาหานะเธอ
รถไฟฟ้า มาหานะเธอ
รถไฟฟ้า มาหานะเธอ
รถไฟฟ้า มาหานะเธอ
รถไฟฟ้า มาหานะเธอ
รถไฟฟ้า มาหานะเธอ
รถไฟฟ้ามาหานะเธอ

รถไฟฟ้ามาหานะเธอ

รถไฟฟ้ามาหานะเธอ


รถไฟฟ้ามาหานะเธอ


รถไฟฟ้า มาหานะเธอ

รถไฟฟ้ามาหานะเธอ
















รถไฟฟ้ามาหานะเธอ
รถไฟฟ้ามาหานะเธอ
รถไฟฟ้ามาหานะเธอ
รถไฟฟ้ามาหานะเธอ
รถไฟฟ้ามาหานะเธอ













16 อาการปกติ... ที่แม่มักคิดว่าลูกผิดปกติ

  เรื่องที่คุณแม่กังวลใจมากที่สุด มักหนีไม่พ้นอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับลูก โดยเฉพาะลูกที่เพิ่งจะถือกำเนิดขึ้นมาเป็นสมาชิกใหม่ แม้ความจริงจะเป็นเพียงอาการเล็กๆ น้อยๆ คุณแม่ก็มักตกใจและคิดว่าเป็นอาการที่ผิดปกติ มาดูกันสิว่ามีอาการปกติใดบ้าง ซึ่งมักเกิดขึ้นกับลูกน้อยวัยนี้ แล้วคุณแม่มักคิดว่าเป็นอาการผิดปกติกันค่ะ         อาการปกติของเจ้าตัวน้อย           1.อาเจียนหรือแหวะนม
          เด็กวัยนี้มักแหวะนมกันมาก ถือเป็นเรื่องปกติค่ะ เพราะหูรูดกระเพาะอาหารยังทำงานได้ไม่ดี จึงปิดไม่สนิท ทำให้แหวะนมเล็กน้อยได้ ดังนั้นหลังมื้อนมควรไล่ลมให้ลูก โดยจับนั่งตัวตรงบนตักหรืออุ้มพาดบ่าสัก 5-10 นาที หรือให้ลูกนอนยกศีรษะสูง และตะแคงขวาหลังดูดนมราวครึ่งชั่วโมง ถ้าให้ลูกกินนมขวด ควรอุ้มให้ลำตัวและศีรษะลูกสูงไว้ ถือขวดนมให้น้ำนมท่วมจุกนมตลอดด้วย แต่ถ้าลูกอาเจียนมากขึ้น รีบพาไปพบกุมารแพทย์ค่ะ

          2.แผลที่เพดานปาก
          แผลที่เพดานปากมักเกิดขึ้นกับลูกน้อยในช่วง 2-3 วันหลังคลอด ส่วนใหญ่เกิดจากการดูดนม ที่แรงไปนิดของลูกเองค่ะ ไม่ได้มีความผิดปกติร้ายแรงใดๆ อาการที่เกิดขึ้นนี้จะค่อยๆ ดีขึ้นเอง คุณแม่ไม่ต้องกังวลหรือให้การรักษาใดๆ นะคะ

          3.ลิ้นถูกตรึง
          ลิ้นวัยแรกเกิดมักสั้นจนดูเหมือนผิดปกติได้ ซึ่งเกิดจากเยื่อบุที่ยึดใต้ลิ้นกับพื้นของช่องปากสั้นหรือหนากว่าปกติ เมื่อโตขึ้นลิ้นก็จะยาวออก แล้วก็บางลงไปทางปลายลิ้นเอง ไม่ได้ถือเป็นเรื่องผิดปกติใดๆ เวลาร้องลูกก็สามารถแลบลิ้นพ้นริมฝีปากได้ เมื่อโตแล้วลูกก็กระดกลิ้นให้แตะเพดานได้ แลบลิ้นเลียริมฝีปากบนได้ ถือว่าปกติ ถ้ายังไม่แน่ใจพาลูกไปพบแพทย์ก็ดีค่ะ เพราะหากลิ้นถูกยืดกันจริงๆ แพทย์จะทำการผ่าตัดให้เมื่ออายุ 2-3 ปี

          4.ฝีจากวัคซีนวัณโรค
          วันแรกหลังคลอด วัยแรกเกิดจะถูกฉีดวัคซีนป้องกันวัณโรคถ้วนหน้าค่ะ อาจฉีดตำแหน่งหัวไหล่ข้างซ้ายหรือขวา หรือสะโพก พออายุสักหนึ่งเดือนก็มักเกิดฝีเล็กๆ แล้วก็แห้งกลายเป็นแผลบุ๋มเมื่ออายุสัก 2 เดือน คุณแม่ไม่ต้องดูแลหรือรักษานะคะ แต่ถ้าฝีมีขนาดใหญ่ แตก มีหนองไหลเป็นนานกว่า 2 เดือน เช็ดด้วยแอลกอฮอล์ 70% วันละหลายครั้งจนกว่าแผลแห้งค่ะ

          5.ปานแดงนูน
          มักเป็นที่ใบหน้า เป็นก้อนนูนมีขอบชัด นุ่ม สีแดง ส่วนใหญ่มักหายเอง โดยเมื่อลูกโตขึ้นปานจะเล็กลงเรื่อยๆ ผิวสีแดงจะกลายเป็นสีเทาซีด เด็กผู้หญิงและทารกเกิดก่อนกำหนดที่หนักน้อยกว่า 1,500 กรัม จะเป็นมากกว่าเพื่อนค่ะ อาจมีปานแดงเพียงอันเดียว แล้วโตตามตัวในอายุ 6-8 เดือน ซึ่งลูกมักโตเร็ว ช่วงนี้ผิวอาจเป็นแผลได้ ถ้าไม่ติดเชื้อ เลือดไม่ออกก็อย่ากังวลค่ะ แต่ถ้าอยู่ในตำแหน่งสำคัญ แล้วก้อนโตเร็วมาก มีเลือดออก ติดเชื้อ รีบไปพบแพทย์นะคะ

          6.กลากน้ำนม
          มักเป็นกันมากที่แก้มทั้งสองข้าง ลามไปที่ใบหน้า คอ ข้อมือ มือ ท้อง แขน ขา โดยผิวจะมีผื่นแดง มีน้ำเหลือง มักเป็นเมื่อหม่ำนมวัวค่ะ ดังนั้นให้นมแม่ดีที่สุด แต่ถ้าคุณแม่มีประวัติเป็นภูมิแพ้ ก็เลี่ยงอาหารที่ทำให้แพ้ เพราะจะถูกขับออกมาทางนมแม่ เช่น นมวัว ถั่วลิสง ถั่วเหลือง ไข่ อย่าให้อาหารเสริมกับลูกช่วง 6 เดือนแรก ไม่อาบน้ำบ่อยไม่ฟอกสบู่บ่อย ไม่ใช้น้ำอุ่นอาบ ไม่ใช้ผ้าหรือฟองน้ำถูผิวลูกแรง แล้วถ้ายังไม่ดีขึ้น พาลูกไปพบแพทย์ค่ะ

          7.สะดือจุ่น
          ทารกที่น้ำหนักตัวน้อยมักเป็นมากค่ะ เกิดจากวงรอบสะดืออ่อนแอ จึงปิดได้ไม่สมบูรณ์ อีกทั้งความดันในช่องท้องเพิ่มขึ้นเมื่อลูกไอ ร้องไห้ เบ่ง หรือบิดตัว ก็ทำให้เป็นก้อนนุ่มอยู่ข้างใต้สะดือ ก้อนที่ปูดออกมานี้ยุบได้ง่ายไม่ต้องเป็นกังวลค่ะ บางทีก็อาจมีก้อนปูดออกมาเหนือสะดือ ซึ่งก็จะหายได้เองหลังวัย 1 ปี ไม่ต้องกังวลนะคะ แล้วไม่ควรใช้แถบกาวเหนียวๆ ปิด หรือใช้เหรียญปิดทับก้อนปูดๆ นี้ เพราะไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้นค่ะ

          8.ร้องโคลิก หรือร้อง 3 เดือน
          มักพบในทารกต่ำกว่า 3 เดือน ซึ่งจะร้องซ้ำเป็นเวลาเดียวกัน เช่น ช่วงบ่ายหรือเย็น มักร้องต่อเนื่องเกิน 3 ชั่วโมงต่อวัน เป็นมากกว่า 3 วันต่อสัปดาห์ นานกว่า 3 สัปดาห์ ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดค่ะ อาจเพราะมีลมเข้าท้องมาก แพ้โปรตีนนมวัว ได้รับนมมากได้อาหารมีแป้งสูง ทำให้มีก๊าซในท้องมาก จึงท้องอืด แน่นท้อง ไม่มีการรักษาใดๆ ที่ได้ผลค่ะลองไล่ลมหลังมื้อนมทุกครั้งนะคะ ถ้าใช้นมขวดต้องอุ้มลูกให้ถูกต้อง ถือขวดนมให้ถูกอาจให้นอนคว่ำบนตัก หรือนอนทับบนกระเป๋าน้ำอุ่นก็อาจช่วยบรรเทาได้บ้างค่ะ

          9.ตัวเหลือง
          มักพบใน 2-4 วันหลังคลอด อาจเป็นเพราะได้รับนมแม่ไม่พอ ดูดนมได้น้อย ดังนั้นควรให้ลูกอยู่กับคุณแม่ตลอดนะคะ ให้ดูดนมแม่บ่อยๆ คือ มากกว่า 8 มื้อต่อวัน อาการนี้อาจเริ่มเป็นในช่วงปลายสัปดาห์แรก หรือ 4-7 วันในสัปดาห์ที่ 2-3 หลังคลอด เมื่อให้นมแม่ต่อไป อาการนี้ก็จะค่อยๆ ลดลงจนเป็นปกติในช่วงวัย 3-12 สัปดาห์ได้เองค่ะ แต่ในบางกรณีนมแม่ก็อาจทำให้ลูกตัวเหลืองได้เช่นกัน เนื่องจากตับยังทำงานไม่เต็มที่ ซึ่งในกรณีนี้จะไม่มีผลเสียแต่อย่างใด (ถ้าลูกกินมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว)

          10.ผิวหนังลอก
          ผิวหนังจะมีการลอกถือเป็นเรื่องปกติค่ะ ผิวหนังของทารกครบกำหนดใน 1-2 วันแรกจะยังไม่ลอกจนหลังอายุ 24-48 ชั่วโมง จึงเริ่มลอก มักพบที่มือและเท้า ผิวหนังที่ลอกจะหายไปในเวลา 2-3 วัน คุณแม่ไม่ต้องไปทำการรักษาใดๆ นะคะ ส่วนทารกเกิดก่อนกำหนดผิวหนังจะลอกช้ากว่า คือ 2-3 สัปดาห์หลังคลอดถึงจะลอกมีเหมือนกันที่ทารกมีผิวลอกออกมาเลยหลังคลอด มักพบในทารกที่คุณแม่ตั้งครรภ์เกินกำหนดค่ะ

          11.เขียวคล้ำ
          ปลายมือปลายเท้าลูกวัยแรกเกิดมักมีสีเขียวคล้ำ เนื่องจากกลไกการควบคุมเลือดฝอยยังทำงานไม่เต็มที่ อีกทั้งยังเกิดจากการที่ร่างกายลูกถูกบีบรัด ทำให้มีเลือดคั่ง มีจุดห้อเลือดจำนวนมาก โดยเฉพาะร่างกายที่เป็นส่วนนำขณะคลอดตามธรรมชาติ เช่น ใบหน้า ก้น ซึ่งจุดห้อเลือดเหล่านี้มักหายไปได้เองอย่างรวดเร็วใน 2-3 วันค่ะ

          12.ผิวหนังลายเหมือนร่างแห
          ช่วงที่เกิดมาใหม่ๆ ผิวเด็กวัยทารกแทบทุกคนมักมีลักษณะเหมือนลวดลายร่างแห บางทีก็มองดูเหมือนลายหินอ่อน เพราะหลอดเลือดฝอยและหลอดเลือดดำย่อยกำลังขยายตัวค่ะ ศูนย์ควบคุมหลอดเลือดยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์ หรือถ้าทารกอยู่ในที่ที่มีอุณหภูมิสิ่งแวดล้อมเย็นหรือร้อนไป ผิวก็มักมีอาการนี้เกิดขึ้นได้ เช่นกันค่ะ
    
          13.เลือดออกที่ตาขาว
          ภาวะนี้พบได้บ่อยในเด็กวัยแรกเกิด ไม่ถือว่าผิดปกติแต่อย่างใดค่ะ เลือดจะออกมามีลักษณะเป็นจุดๆ ที่ตาขาว หรือรอบๆ แก้วตา สาเหตุอาจเกิดขึ้นในขณะคลอดเกิดจากการที่ความดันในทรวงอกของลูกเพิ่มขึ้นอย่างทันทีทันใดในขณะที่ลูกผ่านออกมาทางช่องคลอด ซึ่งมักจะหายไปได้เองภายใน 2-3 สัปดาห์

          14.ตุ่มขาวในปาก
          การที่มีตุ่มเม็ดสีขาวเท่าหัวเข็มหมุดเกิดขึ้นกลางเพดานปาก เหงือก หัวนมปลายอวัยวะเพศชาย ถือเรื่องเรื่องปกติที่เด็กมักเป็นกัน อาจมีตุ่มจำนวนมากน้อยต่างกัน อีกทั้งตุ่มเล็กๆ นี้ก็ไม่ได้ขัดขวางการดูดนมของลูก ซึ่งปล่อยไว้ก็จะหลุดไปเอง อย่าไปขยี้หรือบ่งออกเชียวนะคะ เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ค่ะ

          15.ตัวแดงครึ่งซีก
          สาเหตุของภาวะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด มักเป็นกันมากในช่วง 4 วันแรกหลังคลอด และอาจพบได้จนถึงอายุ 3 สัปดาห์ มักเป็นกับทารกที่มีน้ำหนักตัวน้อย ส่วนทารกครบกำหนดอาจพบได้บ้าง โดยหน้าผาก ใบหน้า ลำตัว แขนขาจะมีสีแดงครึ่งซีก อีกซีกหนึ่งจะซีดลงจนเห็นแนวกึ่งกลางแบ่งซีกได้ชัด และมักเป็นอยู่นานหลายชั่วโมง

          16.ปากมีเม็ดพอง
          เด็กแรกเกิดมักมีภาวะขอบริมฝีปากเป็นเม็ดพองเล็กๆ เกิดขึ้นได้ทั้งในบริเวณขอบริมฝีปากบนและล่าง หรือพบเฉพาะที่กลางริมฝีปากบนก็ได้ค่ะ อย่ากังวลใจนะคะ เพราะเม็ดพองที่เกิดขึ้นนี้จะค่อยๆ แห้ง แล้วก็ลอกหลุดออกเป็นแผ่นไปเองในที่สุดค่ะ



ฉบับเดือนสิงหาคม 2552

วันศุกร์, ตุลาคม 30, 2552

Butterfly story‏


เรื่องนี้ไว้สอนสำหรับคนเป็นพ่อแม่โดยเฉพาะ อ่านแล้วค่อยให้ลูกๆอ่านต่อ
ในระหว่างทานข้าวกลางวัน วนิดาซึ่งเป็นซีอีโอ

ถามกิตติผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งที่รายงานตรงต่อเธอว่า
“ กิตติ พี่สังเกตว่าคุณไม่เคยปิดมือถือเลย แม้กระทั่งเวลาประชุม
แล้วพี่ก็เห็นคุณขอตัวออกไปจากที่ประชุมกลางคันเพื่อรับโทรศัพท์
พี่อยากรู้ว่าเป็นโทรศัพท์ของใครหรือ ทำไมมันสำคัญขนาดรอจนจบประชุมไม่ได้ พี่เห็นเป็นประจำเลยนะ ”
กิตติมีท่าทีอึดอัด เขาตอบว่า
“ ไม่มีอะไรหรอกครับ เรื่องส่วนตัวนะครับ ผมขอโทษ ”

วนิดายิ้มแบบผู้ใหญ่ใจดี เธอเงียบไปสักครู่จึงพูดต่อ
“ กิตติ เราสองคนทำงานด้วยกันมาพอสมควร

คิดว่าพี่เป็นพี่สาวของคุณก็ละกัน เพราะพี่อายุมากกว่าคุณสองสามปี
มีอะไรก็เล่าสู่กันฟังซิคะ เผื่อว่าพี่อาจจะแนะนำอะไรให้ได้บ้าง ”
วนิดาเลือกใช้แนวทางพี่น้อง แทนที่เธอจะตำหนิเขาโดยตรง

ในเรื่องพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในที่ประชุมแบบเจ้านายกับลูกน้อง
วิธีนี้ได้ผล! กิตติสารภาพออกมาแบบกระอักกระอ่วน
“ ก็...คือว่า...พี่อย่าโกรธผมนะครับ มันเป็นโทรศัพท์มาจากลูกสาวผมเอง
เธอเพิ่งไปเรียนไฮสคูลที่ออสเตรเลียเมื่อไม่กี่เดือน
โรงเรียนที่ลูกสาวผมเรียนนี้ค่อนข้างจะเข้มงวด แถมมีการบ้านจมเลย
ตอนลูกสาวผมเรียนที่นี่ ผมช่วยติวและทำการบ้านร่วมกับเธอบ่อยๆ
ลูกคนเดียวเธอคือดวงใจของผมเลยครับ ผมบอกเธอว่าไปอยู่นั่น
ติดขัดเรื่องการบ้านละก็โทรมาหาผมได้ทุกเมื่อไม่ว่าจะเป็นเวลาใด
ผมจะคอยช่วยเหลือเธอผมไม่ต้องการเห็นเธอล้มเหลว
ตอนค่ำเมื่อกลับบ้านผมก็แทบจะไม่ได้พักผ่อน
แต่จะไปช่วยเธอทำการบ้านแล้วก็แฟ็กซ์ส่งไปเรื่องคณิตศาสตร์บ้าง
ภาษาอังกฤษบ้าง ผมอยากให้เธอประสบความสำเร็จ
ผมต้องขอโทษที่บริหารเวลาไม่ค่อยได้เรื่อง ”
กิตติจบเรื่องลงด้วยท่าทีละอายใจ วนิดาแสดงความเห็นใจ
“ เรื่องของคุณมันฟังแล้วคุ้นๆมากเลย พี่พอจะจินตนาการออก
ถึงความลำบากใจของเธอ พี่เองก็มีลูกสาวเรียนปริญญาโทอยู่ที่อเมริกา
พี่เคยทำแบบคุณเหมือนกัน เพราะลูกสาวพี่จบตรี แล้วไปต่อโทเลย
จึงไม่มีประสบการณ์ในการทำงาน ดังนั้นพอทำกรณีศึกษาก็มักจะ
ไม่ทันเพื่อนเขา หรือไม่เข้าใจ แถมยังไม่กล้าถามอาจารย์อีก
พี่เลยต้องช่วยทำเคส แล้วก็อีเมล์ไปให้เธอ แต่ว่าตอนนี้พี่หยุดช่วยเธอแบบนั้นแล้วล่ะค่ะ ”
กิตติถามด้วยความประหลาดใจ
“ ทำไมล่ะครับ พี่ไม่รักเธอแล้วหรือ
หรือว่าพี่เห็นว่างานมีความสำคัญกว่าครอบครัวครับ ”
วนิดาตอบพร้อมกับยิ้มอย่างอารมณ์ดีว่า
“ พี่ยังรักลูก และเห็นคุณค่าของครอบครัวและงานเหมือนเดิม
พี่โชคดีที่มีเพื่อนชาวอเมริกันคนหนึ่ง เขาสังเกตเห็นวิธีที่พี่ช่วยลูกสาว
แล้ววันหนึ่งเขาก็ให้หนังสือเล่มหนึ่งชื่อ The Power of Failure
โดย Charles C. Manz และมีการแปลเป็นไทยในชื่อ วิกฤติคือโอกาส
โดยพสุมดี กุลมา เรียบเรียงโดย นราทิป นัยนา
เพื่อนอเมริกันเขาคั่นเรื่องๆหนึ่งให้พี่อ่านโดยเฉพาะเลย พี่จะเล่าให้เธอฟัง ”
.........
มีชายคนหนึ่งนั่งมองผีเสื้อที่กำลังดิ้นรนจะออกจากรังไหม
เจ้าผีเสื้อดิ้นรนไปซักพัก จนกระทั่งใยรังไหมเริ่มขาดเป็นรูเล็กๆ
ชายคนนั้นมองด้วยความสนใจ เจ้าผีเสื้อดูเหมือนจะหยุดไป ที่จริงผีเสื้อมันพักเพื่อที่จะดิ้นรนต่อไป
แต่ว่าชายคนนั้นคิดไปเองว่าผีเสื้อคงติดใยรังไหม ไม่สามารถจะออกมาได้ด้วยตนเอง
ด้วยความหวังดี เขาจึงนำกรรไกรขนาดเล็กมาตัดใยรังไหมนั้น
ทำให้รูมันขยายใหญ่ขึ้น เจ้าผีเสื้อเห็นรูขยายใหญ่ขึ้นมันก็คลานต้วมเตี้ยมออกมา
แต่เขาสังเกตว่าตัวมันมีขนาดเล็กกว่าปกติ ปีกเหี่ยวย่น แถมลำตัวของเจ้าผีเสื้อก็มีลักษณะบวมผิดปกติ
กลายเป็นว่าในขณะที่ผีเสื้อต้องดิ้นรนออกแรงตะเกียกตะกาย
เพื่อพยายามจะดันตัวมันออกจากรังไหมนั้น
เป็นกระบวนการธรรมชาติที่จะกระตุ้นให้ของเหลวชนิดหนึ่ง
ที่อยู่ในลำตัวผีเสื้อเคลื่อนที่มาสู่ปีก เพื่อทำให้ปีกแข็งแรงเพียงพอจะบินได้
ด้วยความปรารถนาดีของชายคนนั้น
ผีเสื้อตัวนี้ปีกจึงเหี่ยวย่นไม่แข็งแรงเพียงพอจะบินได้
แถมยังมีรูปร่างพิกลพิการ เพราะของเหลวที่ควรจะอยู่ที่ปีก ดันไปติดคั่งค้างอยู่ที่ลำตัว
เจ้าผีเสื้อตัวนี้ออกจากใยมาได้ด้วยความสบาย
แต่ต้องพิกลพิการ และบินไม่ได้ไปชั่วชีวิตของมัน
....อุปสรรคและความล้มเหลวในชีวิตของคน ก็คล้ายๆกันกับสิ่งที่เจ้าผีเสื้อเผชิญ
ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ ความก้าวหน้าในชีวิต การพัฒนาทักษะ ความกล้าหาญ
ความมุ่งมั่น ล้วนแล้วแต่น่าสงสารและน่าเห็นใจ
แต่จะได้คุณค่ามาก็ด้วยการล้มเหลวอย่างถูกวิธี
เราจะคาดหวังว่าจะประสบความสำเร็จในชีวิต
โดยไม่มีความล้มเหลวนั้นเป็นไปไม่ได้
เมื่อเราเผชิญอุปสรรค แล้วเราหลีกเลี่ยงที่จะแก้ไขหรือต่อสู้กับมัน
เท่ากับว่าเรากำลังเสียโอกาสสำคัญในการเรียนรู้บทเรียนที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในชีวิตของคน
กิตติฟังด้วยความสนใจ
“ โอ้โฮ เรื่องนี้จุดประกายน่าดูครับ
แต่ผมกลัวว่าลูกผมจะเกลียดผมนะซีครับ ”
วนิดาเสริมต่อ

“ มีคำพูดที่ว่า 'No pain No gain' "ไม่เจ็บ ไม่ได้เรียนรู้"
ที่จริงพวกเรานะผิดเองที่ป้อนลูกๆ เรามากไป
สำหรับกรณีของพี่ พี่อธิบายให้ลูกเขาเข้าใจด้วยการเล่าเรื่องนี้แหละ
หลังจากนั้น พี่ก็ขอโทษสำหรับการให้ความช่วยเหลือลูกแบบผิดๆในอดีต
ลูกๆ ของเราเขาฉลาดพอจะเข้าใจเรื่องราวเหล่านี้นะ ...
กิตติ คุณลองมองไปรอบๆตัวเราสิ
เรามีพนักงานที่มีความรู้ มาจากครอบครัวที่มีฐานะ
หลายคนที่เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ
พวกเขาไม่อดทนต่อปัญหาและอุปสรรค
คนที่ควรถูกตำหนิคือ พ่อแม่ของเขา
คุณอยากถูกคนอื่นเขาต่อว่าแบบนี้ในอนาคตไหมล่ะ
แถมลูกๆ ของเรายังอ่อนแอไม่สามารถจะฟันฝ่าปัญหาอุปสรรคได้

รถไฟฟ้า มาหานะเธอ




เรื่องย่อ


สภาพจราจรในปี 2552 ยังเป็นปัญหาหนักอกของคนกรุงเทพ ด้วยแม้จะมีถนน สะพาน ทางด่วนใหม่ ๆ ผุดขึ้นหลายต่อหลายสาย ผิวจราจรเหล่านั้นก็ยังติดขัด และไม่เพียงพอต่อความต้องการ
....ถนนใน กทม. ก็เหมือนหนุ่มหล่อแสนดี ที่มีน้อยและไม่เคยเพียงพอต่อความต้องการ



เหมยลี่ (คริส หอวัง) เป็นสาวอายุ 30 ปีที่มีพฤติกรรมป่วนประจำตัวอย่างหนึ่ง คือ การเมาในงานแต่งงานเพื่อน เพราะมันช่างตอกย้ำซ้ำเติมชีวิตโสดสนิทไร้ชายใดมาแผ้วพานของลี่ วันหนึ่งหลังลากสังขารกลับจากการส่งเพื่อนสาวสุดซี้เข้าห้องหอ ลี่ขับรถเสยเข้ากับแผงโจ๊กในตลาดโต้รุ่ง ส่งผลให้รถเก๋งคันงามของเธอถูกป๊าผู้ต่อต้านแอลกอฮอลล์ทุกชนิดขายทิ้ง โทษฐานเมาแล้วขับ 


ชีวิตที่ไม่มีชายหนุ่มคอยไปรับไปส่งอย่างลี่ จึงต้องออกไปผจญการจราจรสุดโหดของเมืองบางกอกเพียงลำพัง แต่ละวันลี่ต้องปากกัดตีนถีบ ขึ้นมอเตอร์ไซค์ ต่อรถตู้ โบกแท๊กซี่ โหนรถเมล์ ฯลฯ สารพันความเมื่อยล้าจากการเดินทางแบบเมก้าฮิต ทำให้เวลานอนของลี่แปรปรวน คืนหนึ้งลี่ตื่นขึ้นมากลางดึกและแอบขึ้นไปกินเบียร์บนดาดฟ้า โชคดีปนร้าย ลี่บังเอิญไปเจอลูกจ้างชายหญิงกำลังแสดง "หนังสด" กันอยู่ กลายเป็นคดีอื้อฉาวกลางดึกที่นำพาให้ลี่ได้พบกับ ลุง (เคน ธีรเดช) วิศวกร Maintenance แห่งรถไฟฟ้า BTS 


การที่ได้พบกับผู้ชายชื่อแปลกคนนี้แบบไม่เมา ในคืนต่อมาทำให้ลี่เริ่มรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมาเป็นครั้งแรกในสามสิบฝน ในหัวลี่อัดแน่นด้วยคำถาม "ผู้ชายที่ทั้งขาว ทั้งหล่อ ทั้งเท่ ไหงถึงมาซ่อนตัวทำงานรถไฟฟ้ากะดึกอยู่อย่างนี้" ลี่รู้สึกราวลุง คือ ขุมทรัพย์ที่เธอบังเอิญไปพบลายแทงเข้า หากเธอไม่ลงมือทำอะไร ไม่ทำในสิ่งที่ใจต้องการ เธออาจกลายเป็นหญิงโสดคนสุดท้ายในกรุงเทพมหานคร ลี่ตัดสินใจทำในสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนเคยคิดแต่ไม่กล้าลงมือ นั่นคือ การจีบผู้ชายก่อน แต่ทุกอย่างมันก็ไม่ง่ายสำหรับมือใหม่หัดจีบอย่างลี่ ไหนจะเวลาไม่ตรงกัน จนเหมือนอยู่คนละโลก ไหนจะถูกเพลิน (แพท อังศุมาลิน) สาวน้อยข้างบ้านหักหลัง แปรพักตร์จากครูไปเป็นคู่แข่งความรัก ไหนลุงจะมีถ่านไฟเก่าเป็นถึงนางเอกละครหลังข่าวอันดับหนึ่ง แต่ไม่ว่าจะต้องผจญภัยอุปสรรคไหน ๆ ลี่ก็ไม่คิดถอดใจ






























ขอบคุณ http://movie.kapook.com/view3269.html  และ http://www.thaicinema.org/kits157rodfai.asp