วันอาทิตย์, มีนาคม 21, 2553

คนรักที่เกิดวันที่ 1
ภายนอกดูผิด คิดว่าเจ้าชู้ แต่เป็นคนที่มีความรักความจริงจังไม่ลวงหลอกใคร ชอบเป็นผู้นำมากกว่าผู้ตาม อยากให้คนที่รักเห็นคุณค่า และให้ความสำคัญแก่ตน ถ้าไม่สนใจขอลาแน่ๆเพราะเป็นคนที่หยิ่งทะหนงไม่น้อย

คนรักที่เกิดวันที่ 2
มีอารมณ์ที่หลากหลาย อ่อนไหว รักง่าย โกรธง่าย อาจจะอ่านยากสักหน่อย หวาดระแวง ไม่ค่อยไว้ใจใคร หมกมุ่น โหยหาความรัก แต่มักผิดหวังอยู่บ่อยๆขนาดตัวเองเป็นคนที่มีความรักและมักเอาใจใส่ต่อผู้อื่นเสมอ

คนรักที่เกิดวันที่ 3
เป็นคนที่รักใครรักจริง แต่ชอบเป็นผู้นำ ชอบบงการโดยเฉพาะแฟน ใจร้อนเป็นไฟ คบแฟนทีละหลายๆคน แต่ก็มีอยู่ในใจหนึ่งเดียว มีความคิดสร้างสรรค์ ไอเดียแปลกใหม่ เพื่อนฝูงห้อมล้อมชอบสังสรรค์ มีแฟนเยอะ ชอบความตื่นเต้นแปลกใหม่ หัวใจกระชุ่มกระชวย

คนรักที่เกิดวันที่ 4
เป็นผู้ที่มีความคิดเห็นแปลกแยกจากสังคม อ่อนไหวมากๆ ไม่ชอบถูกใครมาตีกรอบ ตกหลุมรักคนง่าย หลงคนง่าย อยู่คนเดียวไม่ได้นาน ยอดเจ้าชู้ ชอบมองคนที่มีความเพียบพร้อม หน้าตาดี มีความคิดแจ๋วเลย ยิ่งเป็นคนรู้สึกเยอะลึกซึ้งจะชอบเป็นพิเศษ คู่ส่วนใหญ่จะมีหน้าตาดี และไม่ค่อยจะอดทนกับคนที่ชอบหึงหวง ไม่สนับสนุนความคิดตน อยากได้คนที่ดูแลเอาใจใส่

คนรักที่เกิดวันที่ 5
มีความเป็นมิตรสูง มีเพื่อนฝูงมากมาย มักอยู่กับกลุ่มเพื่อน บางครั้งก็แอบมองแอบชอบเพื่อนในกลุ่มจนได้เป็นแฟนกันมีข้อดีข้อเด่นคือเป็นนักวิเคราะห์นักคิดและนักพูดที่มีพรสวรรค์ อยากมีความรักที่ไม่ต้องพูดมากคนที่ดูแลคอยเอาใจใส่จะพิชิตใจคนเกิดวันที่5ได้

คนรักที่เกิดวันที่ 6
เขาเป็นคนที่มีอารมณ์ศิลปะ ค่อนข้างอ่อนไหว มีความเป็นตัวเองสูง มีรสนิยมดี รักคนง่าย แต่ถ้าจะคบกับใครจริงๆจังๆนี่ยากหน่อย ช่างเลือกมากๆต้องการคนที่คอยเอาใจใส่ และตามใจปล่อยให้ทำอะไรตามใจได้บ้าง ถ้าให้อิสระกับเขา จะคบกันได้ยืนยาวแน่นอน

คนรักที่เกิดวันที่ 7
สติปัญญาดี มีความรู้หลายหลาก มีเสน่ห์ใครเห็นก็รัก ก็หลง แต่แปลกนะที่ต้องอกหัก ซ้ำรักอยู่บ่อยๆชอบอยู่เงียบๆไม่ค่อยเปิดตัว ชอบอยู่กับความเหงา ความเดียวดาย นั่งมองฟ้ามองผืนหญ้าตามประสาคนอารมณ์ศิลปิน ใครที่คิดจะมาเป็นคู่ ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเขา และห้ามคิดไม่ซื่อคิดนอกใจเด็ดขาด

คนรักที่เกิดวันที่ 8
มุมานะทำงานทำการ ขยันขันแข็ง จนบางทีอาจดูห่างเหินกับคนรัก เหมือนไม่ค่อยใส่ใจกัน รักใครไม่เป็น ติดเพื่อนฝูง ชอบเที่ยวกันเป็นกลุ่ม จนแฟนต้องขอเลิกเพราะขาดการเอาใจใส่ดูแลอย่างที่ควรจะเป็น ชอบคนง่าย รักใครก็จริงจัง ชอบคนที่ผ่อนคลายไม่ค่อยเครียด มีอิสระสูง ตามใจตัวเองบ้าง

คนรักที่เกิดวันที่ 9
ชอบคนที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ แต่ต้องยอมตามใจฉันนะ ฉันขอเป็นคนคิด เธอคอยเดินตามฉันก็แล้วกัน คนที่เกิดวันที่9เป็นคนที่มีความเป็นผู้นำอยู่ในสายเลือด ชอบทำงานหนักจนแทบไม่ได้หยุดหย่อน เครียดง่าย แต่เป็นคนที่นิสัยดีน่ะ ไม่ได้มองคนที่ความสวย ความหล่อ ชอบคนที่มีอะไรมากกว่านั้น มีความคิด ความอ่าน ที่เฉียบคม นี่ล่ะใช่เลย

คนรักที่เกิดวันที่ 10
เป็นคนดีคนหนึ่ง คอยดูแลแทกแคร์เอาใจแฟนได้เป็นอย่างดี ไม่มีขาดตกบกพร่อง เป็นคนที่มีความเชื่อมั่น คิดอะไรทำอะไรด้วยตัวเองเสมอ มีความจริงจัง ทำอะไรต้องสำเร็จ แต่ก็มีบางครั้งนะที่แอบมองคนอื่น แต่ก็มีเพียงคนเดียวอยู่ภายในใจ แต่ก็มีบางครั้งที่ดูเหมือนคนที่เห็นแก่ตัวไม่สนใจใครทั้งนั้น

คนรักที่เกิดวันที่ 11
ใครๆก็ชอบคนที่เกิดวันนี้ เพราะเขามีความอ่อนโยน รักใครๆได้อย่างจริงใจทั้งเพื่อนและแฟนไม่คิดร้ายกับใคร รักความสงบ แต่เมื่อมีปัญหากับคนรักกลับไม่ค่อยกล้าที่จะพูดคุยเปิดเผยความในใจ เพราะคาดหวังสูงในเรื่องแฟน อยากให้เธอทำความเข้าใจเอง ช่างคิด ขี้น้อยใจ และขึ้หึงไม่ใช่เล่น

คนรักที่เกิดวันที่ 12
มีเสน่ห์ต่อผู้พบเห็น บุคลิกดีเด่นเป็นที่รักของเพื่อนฝูง แต่เจ้าชู้ไม่เบาเลยนะ ควงคนโน้นที คนนี้ที เปลี่ยนรักเหมือนเปลี่ยนรถ เห็นหัวใจคนเป็นของเล่นหรือไงน่ะ รักใครทีละหลายคน แบ่งห้องหัวใจได้ไม่จำกัด แต่ก็มีใจมั่นคงกับคนในดวงใจเหมือนกันนะ ถ้าเขาคนนั้นคือตัวจริง

คนรักที่เกิดวันที่ 13
มองผิวเผินเขาเหมือนคนที่วางตัวสบายๆมีอิสระ มีความคิดที่ไร้กรอบ แต่ความเป็นจริงนั้นเขาค่อนข้างพิถีพิถันมีวินัยในการใช้ชีวิตมากเลยทีเดียว มีความรักมากกว่า3 ครั้งน่ะ ต้องเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ ชอบคนที่จริงจังกับชีวิตเหมือนกัน

คนรักที่เกิดวันที่ 14
ชอบบริหารเสน่ห์ ไม่ชอบอยู่นิ่งๆ คุยเก่ง มีคารมคมคาย แต่เครียดง่ายเหมือนกันนะ จะมีแฟนเยอะคบทีละหลายคน เพราะเป็นคนที่สบายๆเข้ากับคนง่าย มีความสนุกสนานร่าเริง หว่านเสน่ห์เสมอๆ เมื่อมีโอกาส

คนรักที่เกิดวันที่ 15
มีความเป็นเด็กอยู่ในตัว ชอบเล่นอยู่ในกลุ่มที่มีอายุน้อยกว่า แต่ไม่ได้คิดจะมีแฟนเด็กนะ แต่ถ้าเด็กคนนั้นมีความคิด ความอ่านดูเป็นผู้ใหญ่เกินอายุก็ไม่แน่เหมือนกัน ส่วนใหญ่คนที่มีอายุน้อยกว่าก็ชอบมาปิ๊งเหมือนกัน แต่ก็จะไม่ชอบตอบง่ายๆหรอก สเปกของเขานะมีอยู่ ต้องมีความชอบในศิลปะมีจุดยืนอุดมการณ์ ช่างคิด มองโลกแบบไม่ค่อยเครียด ร่าเริง

คนรักที่เกิดวันที่ 16
มีโลกส่วนตัวสูง แต่ก็อยากมีความรักน่ะ ทั้งๆที่
เวลาอยู่ในช่วงชีวิตที่สดใส มีความรัก กลับรู้สึกทุกข์และดูเศร้าๆแต่ก็มีความอ่อนหวาน อ่อนไหว ค่อนข้างโรแมนติก คนที่มีอารมณ์ลึกซึ้ง ดังเช่นศิบปินจะอยู่คู่กับคนเกิดวันที่16ได้ยาวนาน

คนรักที่เกิดวันที่ 17
เป็นคนที่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจจริงทุกๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน หรือการทำงาน ส่วนเรื่องแฟนนั้นถ้ารู้สึกชอบใครก็กล้าที่จะเข้าไปพูดคุยแต่เป็นคนติดเพื่อนเหมือนกันน่ะ บ่อยครั้งที่ต้องใช้จ่ายหมดไปกับเพื่อนฝูง ให้ความสำคัญกับเรื่องงานเรื่องการ นี่ถือเป็นข้อดีของคนที่เกิดในวันนี้เลยค่ะ

คนรักที่เกิดวันที่ 18
ฝักใฝ่ทางด้านการศึกษาหาความรู้ ถ้าเจอคนที่มีรูปร่างหน้าตาดี แต่ว่าไม่ค่อยคิดถึงเรื่องอนาคต คนที่เกิดวันที่18แบบคุณก็ไม่สนใจนะ ชอบคนที่มีความคิดแบบผู้ใหญ่ เป็นคนค่อนข้างมองชีวิตเป็นเรื่องที่จริงจัง ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ และก็อยากให้แฟนคิดแบบเดียวกันด้วย ไม่ใช้ชีวิตแบบไร้จุดหมายปลายทางไปวันๆ

คนรักที่เกิดวันที่ 19
เป็นคนที่มีความตั้งใจจริง แกมหยิ่งหน่อยๆมีความสามารถโดดเด่น และจะเลือกแฟนที่มีหน้าตารูปโฉมดี หรือไม่ก็ต้องมีความโดดเด่นเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่ส่วนตัวแล้วเป็นคนที่เอาใจใส่ใครไม่เป็น แต่อยากให้แฟนคอยดูแลตนเองแทน ทุ่มเทให้คนรักน้อยไปนิดน่ะ

คนรักที่เกิดวันที่ 20
ความอ่อนโยนและดูสบายๆไม่เรื่องมากทำให้ดูเป็นคนที่มีเสน่ห์ น่าสนใจ แต่กลับมีบุคลิกอีกมุมอีกด้านหนึ่งด้วย คือเป็นคนใจร้อน จะเรียกว่ามีสองคนอยู่ในร่างเดียวกันก็คงไม่ผิดนัก เปลี่ยนแฟนบ่อยๆ เพราอะไรไม่รู้ไม่ถูกใจก็ไม่อดทน เอาแต่ใจเหมือนกันนะ เวลามีแฟนก็จะเกร็งๆวางตัวไม่ค่อยเป็น เลยทำให้ชีวิตรักไม่ค่อยมีความสุขเท่าที่ควร

คนรักที่เกิดวันที่ 21
มีอารมณ์ร่าเริง สนุกสนาน ฉลาดเป็นกรด ชอบเฮฮากับเพื่อนฝูง ค่อนข้างจะเจ้าชู้ มีคนที่ดูๆกันอยู่หลายคน บางครั้งก็ทำให้เกิดอาการมึนตึ้บ ทำอะไรไม่ถูก ก็แฟนมันเยอะน่ะ มีแต่คนที่ถูกใจทั้งนั้นเลยเลือกไม่ถูก ถ้าเกิดรีบร้อนแต่งงาน รับรองว่าเกิดปัญหาแน่ ดังนั้นดูให้ดี ดูให้แน่ใจก่อนน่าจะดีกว่าน่ะ

คนรักที่เกิดวันที่ 22
มองไปข้างหน้า มีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนคิดทำอะไรๆอย่างมีสติ จะชอบคนที่มีอะไรในตัว โดดเด่นดูดีมีความสามารถ มองหารักแท้ มองหาคนที่จะมาร่วมแบ่งปัน ร่วมชีวิตกันอย่างยาวนาน ไม่อยากรักกันเล่นๆ รักแบบทดลอง แต่ก็ยังไม่พร้อมเรื่องการสร้างครอบครัว แต่งงานมีลูก เป็นครอบครัวในฝันแบบคนทั่วๆไป

คนรักที่เกิดวันที่ 23
เป็นคนชอบเที่ยว ชอบไปกับเพื่อนๆ สนุกสนานเฮฮากัน แต่ภายในใจก็คิด และเครียดกับชีวิตพอสมควร แต่เรื่องคู่เรื่องแฟนไม่น่าเป็นห่วง เพราะเป็นคนคุยเก่ง เจ้าคารมไม่เรื่องมาก คุยกับใครก็เป็นที่ถูกอกถูกใจ ต้องเพิ่มความอดทนเข้าไปอีกหน่อย จะได้ไม่ต้องอกหัก บาดเจ็บจากความรัก

คนรักที่เกิดวันที่ 24เป็นผู้ที่มีเพื่อนฝูงคนรองข้างต่างชื่นชม รักใคร่ เพราะความมีน้ำใจเอื้อเฟื้อ แบ่งปัน แชร์ความรู้สึกกันได้ แต่ก็หลงตัวเองเล็กน้อย ชอบให้คนมาคอยเอาใจ พูดคำหวานๆ ฟังแล้วมันรื่นหูดี ชอบเป็นช้างเท้าหน้า บงการแฟน และโชคดีที่ได้คนรักที่ดี แต่ตนเองก็ยังไม่รู้สึกพอใจ ใฝ่ฝันหาคนที่สมบูรณ์แบบตลอดเวลา

คนรักที่เกิดวันที่ 25
เป็นคนที่เด่นด้านความรู้สึกนะ ทั้งเรื่องแฟนและชีวิตการงาน รักเพื่อนอย่างจริงใจ ลึกซึ้งในความสัมพันธ์ แต่มักจมในความเศร้า ความทุกข์ เหตุผลนะหรือก็เพราะเป็นคนที่จริงจังมากเกินไปไง ไม่ได้เกิดจากอาการอกหัก หรือซ้ำรักแต่ประการใด รู้ไว้เลยว่าโลกนี้มันไม่สวยงาม อย่างที่คิดหรอก อะไรที่มันแย่ก็ต้องปล่อยวาง อย่าซีเรียส เหรียญมันยังมีสองด้านเลยจริงไหม

คนรักที่เกิดวันที่ 26
มีแบบแผน มีระเบียบ ทำงานเป็นระบบ มองหาความรักที่ยาวนาน เป็นครอบครัวที่มีความสุข แต่ช่างเลือก แม้ดูเหมือนจะเป็นคนที่ชอบคนง่าย ต้องเรียนรู้กันไป ผิดหวังบ้าง ก่อนที่จะเจอความรักที่จริงแท้ มั่นคงในภายหลัง

คนรักที่เกิดวันที่ 27
มีความปราดเปรื่อง รอบรู้หลายด้าน โดดเด่นในสังคม ชอบคนเก่ง คนที่มีความสามารถจะพบรักหลายครั้ง เพราะความรู้สึกที่ไว อ่อนไหวง่าย แต่ไม่ชอบคบกันเล่นๆ แบบกิ๊ก อยากได้คนที่พิเศษ คอยดูแลรักกัน จริงจัง มองเห็นอนาคต ไม่ใช่แค่ถูกใจกันไปวันๆรักกันไปงั้นๆ

คนรักที่เกิดวันที่ 28
มีความเป็นผู้นำสูง มีแฟนก็ชอบขีดเส้นทางหแฟนเดินตาม ต้องเชื่อฟัง คอยทำตามทุกอย่าง ความรักราบเรียบ ไม่ร้อนแรง บางทีอาจมีกิ๊ก แต่ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น เพราะมั่นคงในความรักกับคนเพียงคนเดียว

คนรักที่เกิดวันที่ 29
เป็นคนอ่อนน้อม ถ่อมตน ชะตาความรักมักมีอารมณ์มาเกี่ยวข้องเสมอ ช่างรู้สึก เอาแต่ใจ ประมาณว่ารักมากก็หวังมาก ทุ่มเทให้ความรักอย่างหมดตัวหมดใจ จึงเกิดอาการบาดเจ็บได้บ่อย อาจแค่เจ็บๆคันๆจนถึงอาการสาหัส

คนรักที่เกิดวันที่ 30
มีจินตนาการสูง เสน่ห์เหลือร้าย ดูมีความมั่นใจ ฉลาดแต่บางครั้งก็สนุกสนาน ไร้สาระแบบเด็กๆบ้าง เดี๋ยวดี เดี๋ยวเครียด ยากเกินเข้าใจ มองความรักเป็นเรื่องที่สวยงาม เป็นยาชูกำลัง แต่ก็ยังไม่พร้อมจะมีความรัก
จริงจังกับใครไม่เป็น

คนรักที่เกิดวันที่ 31
คล้ายๆกับจะเป็นคนที่มีจุดหมายในชีวิต แต่จริงๆแล้ว ก็ขาดความมั่นใจมากๆ ไม่กล้าที่จะคิด และตัดสินใจ กล้าๆกลัวๆยังไม่นิ่ง ไม่จริงจังกับอะไรนัก ความรักจึงดูไกลตัว ดูไม่จริงจังสักเท่าไหร่

โมกับ มะเร็งและการดำรงชีวิต‏

ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับโรคมะเร็งจาก รพ.จอห์น ฮอพกินส์


1. ทุกๆคนมีเซลล์มะเร็งอยู่ในร่างกายเซลมะเร็งเหล่านี้จะไม่ปรากฎด้วยวิธีการตรวจสอบตามมาตรฐานจนกระทั่งมันขยายตัวเพิ่มขึ้นในระดับพันล้านเซลเมื่อแพทย์บอกว่าไม่มีเซลมะเร็งในร่างกายผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับการรักษาแล้วมันหมายถึงว่าระบบไม่สามารถตรวจสอบเซลมะเร็งได้เพราะว่าจำนวนของมันยังไม่มากพอจนถึงระดับที่สามารถตรวจจับได้เท่านั้น

2. เซลล์มะเร็งเกิดขึ้นระหว่าง6 ถึงมากกว่า10 ครั้งในช่วงอายุของคนๆหนึ่ง

3. เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงเพียงพอเซลล์มะเร็งจะถูกทำลายและป้องกันไม่ให้เกิดการขยายตัวและกลายเป็นเนื้องอก

4. เมื่อใครก็ตามเป็นมะเร็งมันกำลังบอกว่าคนๆนั้นมีความบกพร่องหลายประการเกี่ยวกับโภชนาการซึ่งอาจเกิดจากยีน สิ่งแวดล้อม อาหารและปัจจัยอื่นๆในการดำรงชีวิต

5. เพื่อเอาชนะภาวะบกพร่องหลายประการเกี่ยวกับโภชนาการการเปลี่ยนแปลงประเภทของอาหารรวมทั้งสารอาหารบางอย่างจะช่วยให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น

6. การทำคีโมคือการให้สารเคมีที่มีความเป็นพิษกับเซลล์มะเร็งที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วแต่ขณะเดียวกันมันก็จะทำลายเซลล์ที่ดีที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในไขกระดูกทำลายระบบทางเดินอาหาร ฯลฯ และเป็นสาเหตุทำให้อวัยวะบางส่วนถูกทำลาย เช่น ตับ ไต หัวใจ ปอดฯลฯ

7.. การฉายรังสีแม้ว่าจะเป็นการทำลายเซลล์มะเร็งแต่ก็ทำให้เกิดอาการไหม้ เป็นแผลเป็น และทำลายเซลล์ที่ดีเนื้อเยื่อ และอวัยวะ

8. การบำบัดโดยคีโมและการฉายรังสีมักจะช่วยลดขนาดของเนื้องอกได้ในช่วงแรกๆอย่างไรก็ตามถ้าทำไปนานๆพบว่ามักไม่ส่งผลต่อการทำลายเซลล์เนื้องอก

9. เมื่อร่างกายได้รับสารพิษจากการทำคีโมหรือการฉายรังสีมากเกินไประบบภูมิคุ้มกันอาจปรับตัวเข้ากันได้หรือไม่ก็อาจถูกทำลายลงดังนั้นคนๆนั้นจึงอาจตกอยู่ในอันตรายจากการติดเชื้อหลายชนิดและทำให้โรคมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น

10. การทำคีโมและการฉายรังสีอาจเป็นสาเหตุทำให้เซลล์มะเร็งกลายพันธุ์ดื้อยา และยากต่อการทำลายการผ่าตัดก็อาจเป็นสาเหตุทำให้เซลล์มะเร็งกระจายไปทั่วร่างกาย

11. วิธีที่ดีที่สุดในการทำสงครามกับมะเร็งคือการไม่ให้เซลล์มะเร็งได้รับอาหารเพื่อนำไปใช้ในการขยายตัว

อะไรคืออาหารที่ป้อนให้กับเซลล์มะเร็ง

a. น้ำตาลคืออาหารของมะเร็งการตัดน้ำตาลคือการตัดแหล่งอาหารสำคัญที่จ่ายให้กับเซลมะเร็งสารทดแทนน้ำตาลอย่างเช่น"" นิวตร้าสวีต"" "" อีควล"" "" สปูนฟูล"" ฯลฯล้วนทำมาจากสารให้ความหวาน ซึ่งเป็นอันตรายสารทดแทนซึ่งเป็นกลางที่ดีกว่าคือน้ำผึ้งมานูคา (จากนิวซีแลนด์)หรือน้ำอ้อย แต่ในปริมาณน้อยๆเท่านั้นเกลือสำเร็จรูปก็ใช้สารเคมีในการฟอกขาว ควรหันไปเลือกใช้"" แบรก อมิโน "" หรือเกลือทะเลแทน

b. นมเป็นสาเหตุทำให้ร่างกายผลิตเมือกโดยเฉพาะในระบบทางเดินอาหารเซลล์มะเร็งจะได้รับอาหารได้ดีในสภาวะที่มีเมือกการใช้นมถั่วเหลืองชนิดไม่หวานแทนนมจะทำให้เซลมะเร็งไม่ได้รับอาหาร

c. เซลล์มะเร็งเติบโตได้ดี ในภาวะแวดล้อมที่เป็นกรดอาหารจำพวกเนื้อจะสร้างสภาวะกรดขึ้นดังนั้นจึงควรหันไปรับประทานปลาจะดีที่สุดรองลงไปคือรับประทานไก่แทนเนื้อและหมู ในเนื้ออาจมียาฆ่าเชื้อฮอร์โมนที่สร้างการเจริญเติบโตในสัตว์และเชื้อปรสิตบางประเภทตกค้างอยู่ ซึ่งล้วนเป็นอันตรายโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่เป็นมะเร็ง

d. อาหารที่ประกอบด้วยผักสด80% และน้ำผลไม้ พืชจำพวกหัว เมล็ดถั่วเปลือกแข็ง และผลไม้จำนวนเล็กน้อยจะช่วยทำให้ร่างกายมีสภาวะเป็นด่าง อาหารอีก 20% อาจได้มาจากการทำอาหารร่วมกับพืชจำพวกถั่วน้ำผักสดจะให้เอ็นไซม์ซึ่งสามารถดูดซึมได้ง่ายและซึมทราบสู่ระดับเซลล์ภายใน15 นาทีเพื่อบำรุงร่างกายและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลล์ที่ดีเพื่อให้ได้เอ็นไซม์ในการสร้างเซลล์ที่ดี ให้พยายามดื่มน้ำผักสด (ผักส่วนใหญ่รวมทั้งถั่วที่มีหน่อหรือต้นอ่อน)และรับประทานผักสดดิบ2-3 ครั้งต่อวันเอ็นไซม์จะถูกทำลายได้ง่ายที่อุณหภูมิ140 องศาF ( ประมาณ40 องศาC)

e. ให้หลีกเลี่ยงกาแฟ น้ำชา และช๊อกโกแลต ซึ่งมีคาเฟอีนสูงชาเขียวถือเป็นทางเลือกที่ดีและมีคุณสมบัติในการต้านมะเร็งน้ำดื่มให้เลือกดื่มน้ำบริสุทธิ์ หรือที่ผ่านการกรองเพื่อหลีกเลี่ยงท๊อกซินและโลหะหนักในน้ำประปาน้ำกลั่นมักมีสภาพเป็นกรด ให้หลีกเลี่ยง

12. โปรตีนจากเนื้อจะย่อยยากและต้องการเอ็นไซม์หลายชนิดมาช่วยในการย่อยเนื้อสัตว์ที่ไม่สามารถย่อยได้ในระบบทางเดินอาหารจะเกิดการบูดเน่าและมีความเป็นพิษมากขึ้น

13. ผนังของเซลล์มะเร็งจะมีโปรตีนห่อหุ้มไว้การงดหรือการรับประทานเนื้อสัตว์น้อยลงจะทำให้มีเอ็นไซม์เหลือมากพอมาใช้โจมตีกำแพงโปรตีนที่ห่อหุ้มเซลล์มะเร็งและช่วยให้เซลล์ของร่างกายสามารถกำจัดเซลล์มะเร็งได้ดีขึ้น

14. สารอาหารบางอย่างอาจช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ( สาร IP6 [inositol hexaphosphate หรือphytic acid], สารFlor-essence, สารEssiac, สารแอนตี้-อ๊อกซิแดนส์, วิตามิน, เกลือแร่, EFAs ฯลฯ)เพื่อช่วยให้เซลล์ของร่างกายสามารถกำจัดเซลล์มะเร็งได้ดีขึ้นสารอาหารอื่นๆเช่น วิตามินอีเป็นที่ทราบกันดีว่าทำให้เกิดการตายลงของเซลล์หรือกำหนดระยะเวลาการตายของเซลล์ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติของร่างกายในการกำจัดเซลล์ที่ถูกทำลายซึ่งไม่เป็นที่ต้องการ หรือไม่มีประโยชน์ออกไป

15. มะเร็งเป็นโรคที่สัมพันธ์กับจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณการป้องกันเชิงรุกและการคิดในเชิงบวกจะช่วยให้เราสามารถอยู่รอดจากการทำสงครามกับมะเร็ง....ความโกรธ การไม่รู้จักให้อภัย และความขมขื่นใจจะทำให้ร่างกายเกิดความตึงเครียดและมีสภาวะเป็นกรดเพิ่มขึ้นให้เรียนรู้ที่จะมีความรักและจิตวิญญาณแห่งการให้อภัยเรียนรู้ที่จะผ่อนคลายและมีความสุขกับชีวิต

16. เซลล์มะเร็งไม่สามารถเจริญเติบโตได้ในสภาวะที่มีอ๊อกซิเจนเป็นจำนวนมากการออกกำลังกายทุกวันและการหายใจลึกๆจะช่วยให้ร่างกายได้รับอ๊อกซิเจนเพิ่มขึ้นลงไปจนระดับเซลล์การบำบัดด้วยออกซิเจนถือเป็นวิธีการอีกอย่างที่ใช้ในการทำลายเซลล์มะเร็ง

เคล็ดลับ 10 ข้อให้คุณดูสดใสขึ้นทันตา

1. อิ่มกำลังดีกับมื้อเช้าแสนวิเศษ



เราต่างก็รู้เหมือนๆ กันว่า มื้อเช้าเป็นมื้อสำคัญที่สุด แต่หลายคนต้องรีบเร่งทำเวลาก่อนออกจากบ้าน จึงพลาดมื้อเช้าไปอย่างน่าเสียดาย แม้จะพยายามชดเชยด้วยเครื่องดื่มร้อนๆ หรือน้ำผลไม้สักแก้ว กับขนมขบเคี้ยวจำพวกแป้งทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นคุกกี้ ขนมปังหรือ ปาท่องโก๋ก็ตาม แต่พลังงานที่ได้รับก็ยังไม่เพียงพอให้คุณได้เต็มที่กับงานและทุกสิ่งที่ประเดประดังเข้ามาในวันนั้น



ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า หากคุณผ่านคืนวานอันเหนื่อยล้า และต้องการเรียกพลังกลับคืนมาโดยเร่งด่วน ต้องถือเป็นกฏเหล็กที่จะไม่งดมื้อเช้าในวันนั้น ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นมื้อหนัก อาหารเช้าชุดใหญ่อะไรเลย เพราะอาจรู้สึกว่าท้องไส้ยังไม่พร้อมสำหรับการย่อยอาหารปริมาณมากๆ ขอเพียงแต่พยายามเลือกกินอาหารให้ครบห้าหมู่ อย่างละนิดอย่างละหน่อยแล้วตบท้ายด้วยผลไม้สด และนมหรือโยเกิร์ตสักถ้วย ก็จะช่วยเรียกความกระปรี้กระเปร่ากลับคืนมาได้



2. สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ

เป็นทางออกง่ายๆ ที่หลายคนมองข้ามเวลาเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า หรือเกิดความเครียดในตัวมากๆ ให้ลองแก้ง่ายๆ ด้วยการสูดลมหายใจทางจมูกเข้าปอดลึกๆ กลั้นไว้ในช่องอกประมาณ 15-20 วินาที ก่อนจะปล่อยลมหายใจออกทางปากให้หมด ทำซ้ำเช่นนี้ประมาณ 3 ครั้ง คุณจะพบว่ารู้สึกสดชื่นขึ้น ทั้งนี้เป็นเพราะปกติแล้วคนส่วนใหญ่มักจะหายใจเข้าออกกันเพียงช่วงสั้นๆ ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เต็มที่ วิธีนี้จะทำให้ออกซิเจนเข้าปอดคุณอย่างเต็มที่ทำให้รู้สึกปลอดโปร่ง และเลือดลมในร่างกายไหลเวียนสูบฉีดดีขึ้น



3. ดื่มนมสด



นมสดแม้หนึ่งแก้วเล็กๆ มีโปรตีนชนิดที่ช่วยสร้างพลังงานให้คุณได้ถึง 3 กรัม ทำให้ร่างกายปรับตัวได้อย่างสมดุล นอกจากนี้ในนมสดก็ยังเป็นแหล่งแคลเซียมที่สำคัญต่อร่างกายอีกด้วย ในหนึ่งแก้วขนาด 100 กรัม มีแคลเซียมสูงถึง 120 มิลลิกรัม ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟันได้ดี แถมยังมีฟอสฟอรัสและวิตามินครบถ้วนทั้ง A,B.C, และ E อีกต่างหาก



4. แวบไปว่ายน้ำ
ข้อนี้อาจทำยากสักนิด แต่ถ้าคุณหาจังหวะแวบได้ ให้ลงว่ายน้ำสักประมาณ 15-20 นาที อย่างไม่ต้องหักโหมอะไรนัก จะช่วยให้คุณสดใสเปล่งปลั่งขึ้นอย่างประหลาด ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าเป็นเพราะน้ำในสระว่ายน้ำจะช่วยพยุงตัวไม่ให้คุณรู้สึกใช้กำลังมากเหมือนออกกำลังกายในยิม และความเย็นฉ่ำของน้ำจะทำให้รู้สึกสดชื่นกระฉับกระเฉงขึ้น แต่ถ้าหาเวลาไม่ได้จริงๆ อาจจะเลือกอาบน้ำฝักบัวแทนก็ได้ แต่ผลของการลงแหวกว่ายกลางสายธาราจะดีกว่ามาก
5. กล้วยช่วยได้
อย่ามองข้ามผลไม้พื้นบ้านธรรมดาๆ อย่างกล้วยไปได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นกล้วยหอมอร่อยเลิศเลยด้วยซ้ำ จะเป็นกล้วยพันธุ์ไหนก็ได้สักหนึ่งลูก จะช่วยคุณเรียกพลังกลับมาได้ในเวลาอันสั้น เพราะในกล้วยอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินที่สำคัญต่อร่างกาย ทั้ง A,B,C และ E รวมทั้งเหล็กแป้ง น้ำตาลธรรมชาติ นอกจากนี้ยยังมีโปแตสเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่สำคัญ ช่วยรักษาสมดุลของระดับน้ำและความชุ่มชื้นของเซลล์ผิวหนังกับเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกายอีกด้วย
6. นวดตัวพร้อมกลิ่นหอมบำบัดอารมณ์
อาจจะปลีกเวลาไปนวดตัวช่วงสั้นๆ โดยเลือกการนวดน้ำมันอโรมาที่กลิ่นหอมของน้ำมันจากธรรมชาติจะช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย และเรียกความสดใสกลับคืนมาได้ แต่หากหาเวลานวดไม่ได้จริงๆ อาจจะใช้วิธีจุดเตาขนาดเล็กในห้องที่ให้กลิ่นน้ำมันหอมระเหยเหล่านี้แทน ก็สามารถช่วยได้เช่นกัน
7. น้ำผลไม้สด

วิตามินซีในน้ำผลไม้ ซึ่งมีในปริมาณสูงอยู่แล้วโดยธรรมชาติจะช่วยเสริมสร้างพลังงานได้ในทันทีทันควัน เพราะน้ำตาลจากรสหวานของผลไม้ ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้เป็นพลังงานได้เลย โดยไม่ต้องย่อยหรือแปรสภาพเหมือนกับน้ำตาลที่ได้จากแหล่งอื่น นอกจากนี้ ยังมีสารต้านอนูมูลอิสระ ช่วยชะลอความแก่และริ้วรอยต่างๆ ได้ดีอีกด้วย ควรพยายามดื่มน้ำผลไม้อย่างน้อยวันละหนึ่งแก้วเป็นประจำหรือจะเป็นน้ำขิงร้อนๆ ก็จะช่วยสร้างความกระปรี้กระเปร่าอย่างเห็นผลทันทีเช่นกัน
8. ถั่วและผลไม้อบแห้ง
นี่ก็เช่นกันที่ไม่ควรมองข้ามเพราะทั้งถั่วและผลไม้อบแห้งทั้งหลายมีประโยชน์มากกว่าขนมขบเคี้ยวจำไว้แป้งนัก เนื่องจากอุดมด้วยธาตุเหล็ก ช่วยเสริมสร้างพลังงานและทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือดในร่างกายคล่องตัวขึ้น เป็นผลให้ผิวพรรณของคุณดูสดชื่นเปล่งปลั่งกว่าที่เคยเป็น บางคนถึงกับเชื่อว่า การกินอาหารจำพวกถั่วมากๆ จะช่วยลดขนาดของไฝ ขี้แมลงวัน หรือตุ่มเล็กตุ่มน้อยตามผิวหนังด้วยซ้ำไป แต่ในสายตาของแพทย์แล้ว ไม่ควรเลือกกินอาหารประเภทใดประเภทหนึ่งซ้ำกันนานๆ หรือในปริมาณที่มากเกินปกติ เพราะการกินที่ถูกต้องคือต้องให้คละหมู่หลากหลายประเภทอาหารเข้าไว้

9. ชื่นใจกับดอกไม้สวย
วิธีนี้ง่ายสุด เพียงแค่เดินหาซื้อหรือสั่งดอกไม้สวยๆหอมๆ สักช่อมาให้รางวัลกับตัวเอง โดยไม่ต้องรอโอกาสพิเศษที่ไหนหรือจากใครทั้งนั้น คุณก็จะได้รับความสดชื่น และรู้สึกเปี่ยมพลังขึ้นในทันทีที่สัมผัสกลิ่นหอม และได้ชื่นชมความงามของดอกไม้ช่อสวยหรือถ้าไม่ต้องการการสิ้นเปลืองจะเลือกเดินชมต้นไม้ดอกไม้ตามสวนสาธารณะะที่ได้ชื่อว่าเป็นปอดของกรุงเทพฯ อย่างเช่น สวนเบญจสิริ ย่านสุขุมวิท ก็ได้เช่นกัน หรือไม่ก็อาจจะซื้อต้นไม้กระถางเล็ก ๆ วางประดับบนโต๊ะทำงานสีเขียวอันสดชื่นของมันช่วยสร้างพลังให้กับคุณได้ในทุกครั้งที่มองเห็น

10.จิบชาสมุนไพร

การได้จิบเครื่องดื่มร้อนๆ รสชาติถูกใจ เช่น ชาสมุนไพร จะช่วยผ่อนคลายและเรียกพลังกลับคืนมาให้คุณได้ นอกจากนี้ชาบางชนิด เช่น ชากลิ่นสะระแหน่ ยังช่วยคลายเครียดและขับลมในกระเพาะอีกด้วย ซึ่งหากไม่ต้องการจิบชา อาจจะแค่หาใบสะระแหน่มาขยี้สูดดมกลิ่นของมันก็ช่วยคลายเครียดได้เช่นกัน เพียงเท่านี้คุณก็สามารถสร้างลุคใหม่ ที่ทั้งสดใสและมีสุขภาพดี พร้อมที่จะออกไปเริงร่ารับลมร้อนโดยไม่ต้องอายใคร

วันพฤหัสบดี, มีนาคม 18, 2553

ตำแหน่งสิวบอกโรค..

ถ้ามีสิวขึ้นที่...

หน้าผากด้านซ้าย และขวา เกี่ยวข้องกับระบบย่อยอาหาร กระเพาะปัสสาวะ และต่อมหมวกไต
สาเหตุ : เพราะมีความเครียดสูง ล้างหน้าไม่สะอาด อาจเพราะทารองพื้น หรือแต่งคิ้วมากเกินไป

หว่างคิ้ว อาจมีปัญหาในการย่อยแล็กโทส (คุณอาจจัดอยู่ในพวก ที่ดื่มนมไม่ได้)
สาเหตุ : เพราะรับประทานอาหารรสจัด หรือนอนดึกเกินไป

ใบหูทั้ง 2 ข้าง เกี่ยวข้องกับการทำงานของไต
สาเหตุ : ล้างแชมพู หรือสบู่ออกไม่หมด ใช้โทรศัพท์ มือถือมากเกินไป ดื่มกาแฟ แอลกอฮอล์ หรือรับประทานเนื้อสัตว์ มากเกินไป หรือหากมีปัญหาสิวอุดตันช่วงใบหู อาจแสดงว่าฟันกรามมีปัญหา หรือว่าเพิ่งผ่าตัดฟันมา หรืออาจเกิดจาก การมีรอบเดือน

แก้มส่วนบน เกี่ยวข้องกับไซนัส และปอด แก้มส่วนล่าง เกี่ยวข้องกับเหงือก และฟัน
สาเหตุ : สูบบุหรี่จัด หรือแพ้ควันบุหรี่ เป็นภูมิแพ้ เป็นหวัดเรื้อรัง หรืออาจใช้บลัชออน และรองพื้นไม่เหมาะสม แต่ถ้าเป็น ริ้วรอยลึกบริเวณโหนกแก้ม อาจบ่งบอกถึงปัญหา เรื่องปอดหรือการหายใจ ถ้ามีสิวแบบเป็น ๆ หาย ๆ ที่แก้มด้านล่าง อาจมีปัญหาเรื่องเหงือกและฟัน หรือโทรศัพท์ มือถือไม่สะอาด

รอบดวงตาทั้ง 2 ข้าง เกี่ยวข้องกับการทำงานของไต ปัญหาโรคภูมิแพ้
สาเหตุ : เครื่องสำอางที่ใช้อาจไม่เหมาะกับสภาพผิว หรือใส่แว่นตาที่เสียดสีมาก รอยคล้ำอาจเกิดจากการ มีสารพิษ ตกค้างในร่างกายมาก หรือพักผ่อนน้อย เปลือกตาหากมีความระคายเคืองอาจมาจากการเป็นภูมิแพ้ หรือขาดสารอาหาร

จมูก และเหนือริมฝีปาก เกี่ยวข้องกับการทำงาน ของหัวใจ และระบบสืบพันธุ์
สาเหตุ : หากมีผิวสีแดงเข้มที่จมูก อาจบ่งบอก ถึงโรคความดันโลหิตสูง การอุดตันหรือสีผิวไม่สม่ำเสมอ บอกถึงผลกระทบ จากฮอร์โมน เช่น กำลังมีประจำ-เดือน วัยทอง การใช้ยาคุมกำเนิด

ใต้ริมฝีปากด้านซ้าย และขวา เกี่ยวข้องกับการทำงาน ของรังไข่
สาเหตุ : อาจทำความสะอาดได้ไม่พอ หรือมาจากขาดความสมดุลทางฮอร์โมน

ปลายคาง เกี่ยวข้องกับกระเพาะอาหาร และลำไส้เล็ก
สาเหตุ : อาจกินอาหารรสจัดเกินไปจนลำไส้เป็นแผล หรือมีปัญหาในการดูดซึม

ลำคอ และหน้าอก
สาเหตุ : เกิดจากความเครียด


ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพผิว จากศูนย์สุขภาพผิวเลียวนาร์ด เดรก ได้นำเสนอแนวทางการป้องกันโดยมีหลักในการวิเคราะห์สภาพผิวแบบ Face Mapping นั้นจะเป็นการวิเคราะห์สภาพผิวที่ละเอียดกว่าการวิเคราะห์ผิวโดยทั่วไป  โดยแบ่งส่วนใบหน้า  ลำคอ และแผ่นอกออกเป็น 4 โซน

Face Mapping

          โซนที่ 1 และโซนที่ 3 ถ้ามีปัญหาสิวบริเวณนี้ คุณอาจมีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร ดังนั้นอาจต้องดื่มน้ำมากขึ้นหรือทานอาหารให้ครบ 5 หมู่

          โซนที่ 2  สิวบริเวณหว่างคิ้ว เกี่ยวกับตับ อาจมีปัญหาในการย่อยแลคโทส (ดื่มนมไม่ได้) การทานอาหารรสจัดหรือทานอาหารดึกเกินไป 

         
โซนที่ 4 และโซนที่ 10 ผิวบริเวณหูนี้เป็นผลพวงของไต หากรู้สึกร้อนที่หู คุณอาจต้องลดการรับประทานเนื้อสัตว์ลง

          โซนที่ 5 และโซนที่ 9  บริเวณแก้มทั้งสองด้าน โดยแก้มส่วนบนจะเกี่ยวข้องกับไซนัสและปอด ส่วนแก้มส่วนล่าง เหงือกและฟัน สาเหตุอาจเป็นเพราะสูบบุหรี่จัด หรือแพ้ควันบุหรี่ ภูมิแพ้ เป็นหวัดเรื้อรัง หรืออาจใช้บลัชออนและรองพื้นไม่เหมาะสม ถ้าเป็นริ้วรอยลึกบริเวณโหนกแก้มอาจบ่งบอกถึงปัญหาเรื่องปอดหรือการหายใจ ถ้ามีสิวแบบเป็นๆ หายๆ ที่แก้มด้านล่างอาจมีปัญหาเรื่องเหงือกและฟัน หรือโทรศัพท์มือถือไม่สะอาด

          โซนที่ 6 และโซนที่ 8 ตำแหน่งรอบดวงตาทั้ง 2 ข้าง เกี่ยวข้องกับไต และปัญหาภูมิแพ้ สาเหตุมาจากเครื่องสำอางที่ใช้อยู่ อาจไม่เหมาะสม หรือใส่แว่นตาที่เสียดสีมาก รอยคล้ำอาจเกิดจากการมีสารพิษตกค้างในร่างกายมาก หรือพักผ่อนน้อย เปลือกตาหากมีความระคายเคือง อาจมาจากการเป็นภูมิแพ้ หรือขาดสารอาหาร

          โซนที่ 7  ผิวบริเวณจมูกและริมฝีปาก แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หากมีสิวบริเวณนี้อาจหมายถึงผลกระทบของการตั้งครรภ์ การมีประจำเดือน การรับประทานยาคุมกำเนิด

          โซนที่ 11 และโซนที่ 13 หากผิวบริเวณนี้แตกระแหง สามารถบอกได้ว่าคุณกำลังมีปัญหาของฟันกราม หรือปัญหาเกี่ยวกับฟัน

          โซนที่ 12 สิวเรื่อๆ บริเวณคางนี้ สามารถบ่งบอกได้ว่าคุณกำลังมีปัญหาเรื่องลำไส้เล็ก ที่มีผลจากการรับประทานของเผ็ด

          โซนสุดท้ายโซนที่ 14 หากคุณมีสิวบริเวณนี้แล้วล่ะก็ แสดงว่าคุณกำลังเครียดสูง

          นี่เป็นเพียงแค่รายละเอียดเพียงเล็กน้อยของการวิเคราะห์สภาพผิวหน้าที่ทำให้รู้ได้ถึงสุขภาพภายในร่างกาย ซึ่งจะทำให้เราทราบได้ว่าจะต้องดูแลบำรุงทั้งสุขภาพภายในและภายนอกอย่างไร เพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพียงแค่นี้คุณก็จะมีทั้งสีหน้า แววตาและผิวพรรณที่เป็นสุขได้แล้ว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
  

วันเสาร์, มีนาคม 13, 2553

ข่าวประชาสัมพันธ์ : วันที่ 12 - 14 มีนาคม 2553‏

1. การบินไทย แจ้งการปิดทำการชั่วคราวของสำนักงานบัตรโดยสาร วันที่ 13 14 มีนาคม 2553
นายพฤทธิ์ บุปผาคำ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สำนักงานบัตรโดยสารสาขาหลานหลวง และสำนักงานบัตรโดยสารสาขาสีลม บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จะปิดทำการชั่วคราว ในวันเสาร์ที่ 13 มีนาคม และวันอาทิตย์ที่ 14 มีนาคม 2553
โดยผู้โดยสารสามารถติดต่อ สำนักงานบัตรโดยสาร สาขาวิภาวดีได้ ตามวันและเวลา ดังนั้น วันเสาร์ที่ 13 มีนาคม 53 เวลาทำการ 08.00 - 17.00 น.วันอาทิตย์ที่ 14 มีนาคม 53 เวลาทำการ 09.00 - 13.00 น. ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
THAI CONTACT CENTER หมายเลขโทร. 02-356-1111 ตลอด 24 ชั่วโมง
2. ขสมก. ปรับเปลี่ยนเส้นทางเดินรถระหว่างวันที่ 12 14 มีนาคม 2553
นายโอภาส เพชรมุณี ผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กระทรวงคมนาคม แจ้งข่าวว่า ขสมก.ได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับกรณีมีการชุมนุมปิดถนน โดยจัดแผนปรับเปลี่ยนการเดินรถ ในเส้นทางที่อาจมีผลกระทบต่อการเดินทางสัญจรไปมาของประชาชน ผู้ใช้บริการ อาทิ ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนราชดำเนินใน ถนนวิสุทธิกษัตริย์ ถนนพิษณุโลก ถนนกรุงเกษม ถนนศรีอยุธยา และถนนบริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1.
เส้นทางเดินรถจากถนนพหลโยธิน คือ สาย 26
, 29, 34, 39, 54, 59, 63, 74, 97, 204, 502, 503, 510 - เส้นทางที่เดินรถจากห้าแยกลาดพร้าว ให้ตัดกลับแยกประดิพัทธ์(สะพานควาย) โดยแยกซ้ายเข้าถนนอินทามระ ออกถนนวิภาวดีรังสิต หรือแยกขวาถนนประดิพัทธ์ แยกขวาถนนพระราม 6 วนกลับเส้นทางเดิม - เส้นทางเดินรถเลยแยกประดิพัทธ์ ให้ตัดเลี้ยวซ้ายถนนตัดใหม่ ออกถนนวิภาวดีรังสิต วนกลับเส้นทางเดิม - กรณีเดินรถเลยทั้ง 2 จุด ให้ตัดกลับเลี้ยวซ้ายแยกใต้ทางด่วนใกล้อนุสาวรีย์ชัยฯ ออกถนนวิภาวดีรังสิต กลับเส้นทางเดิม

2.
เส้นทางที่มาจา กถนนราชวิถี และถนนพระราม 6 คือ สาย 12
, 18, 97, 166, 509, 515, 522 - กรณีวิ่งมาจากถนนพระราม 6 เช่น สาย 166 และสาย 522 ให้ตัดแยกขวาเข้าถนนราชวิถี แยกซ้ายถนนสวรรคโลก แยกซ้ายถนนศรีอยุธยา แยกซ้ายถนนพระราม 6 กลับเส้นทางเดิม - กรณีวิ่งมาจากถนนราชวิถี ให้ตัดกลับแยกซ้าย หรือแยกขวาที่แยกตึกชัย วนกลับเส้นทางเดิม

3.
เส้นทางที่มาจากถนนราชวิถี จากสามเหลี่ยมดินแดง คือ สาย 12
, 13, 36, 54, 73, 168, 551 - กรณีวิ่งจากถนนอโศกดินแดง ให้ตัดกลับสามเหลี่ยมดินแดง วนกลับเส้นทางเดิม - กรณีวิ่งจากถนนวิภาวดีรังสิต ให้ตัดกลับใต้ทางด่วนดินแดง กลับเข้าเส้นทางเดิม

4.
เส้นทางจากถนนพญาไท คือ สาย 72
, 74, 204, 536 - กรณีวิ่งมาจากถนนพญาไท ให้แยกซ้ายถนนโยธี ออกถนนพระราม 6 วนกลับเส้นทางเดิม - กรณีวิ่งมาจากถนนศรีอยุธยา แยกขวาถนนพญาไท เข้าอนุสาวรีย์ชัยฯ ให้แยกซ้ายตัดกลับเส้นทางเดิม หรือวิ่งตรงไปเพื่อตัดเข้าเส้นทางเดิม ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้บริการ สอบถามเส้นทางรถเมล์ หรือแนะนำบริการได้ที่ศูนย์ Call Center หมายเลข 184 ตลอด 24 ชม. ระหว่างวันที่ 12 -14 มีนาคม 2553 หลังจากนั้นให้บริการตามปกติ ตั้งแต่เวลา 06.00 22.00 น. 

อัญมณีประจำราศี


ราศีเมษ
14 เมษายน-13 พฤษภาคม

มรกต, ไพลิน, ไทเกอร์'ส อาย, ซิทริน, ควอตซ์ใส



ราศีพฤษภ
14 พฤษภาคม-13 มิถุนายน

หยก, อเวนเจอรีน, กรีน ทูร์มาลีน, อความารีน และอาเกต



ราศีมิถุน
14 มิถุนายน-13 กรกฎาคม

โอนิกซ์, นิล, อ็อปซิเดียน, มุกดาหาร, อาเกต


ราศีกรกฎ
14 กรกฎาคม-13 สิงหาคม

อำพัน, เทอร์ควอยซ์ และอเวนเจอรีน


ราศีสิงห์
14 สิงหาคม-13 กันยายน

เพริโดต์ และโกเมน



ราศีกันย์
14 กันยายน -13 ตุลาคม

โรส ควอตซ์, คาร์เนเลียน และแจสเปอร์


ราศีตุลย์
14 ตุลาคม-13 พฤศจิกายน

โอปอล, ทัวร์มาลีน และอความารีน



ราศีพิจิก
14 พฤศจิกายน-13 ธันวาคม

โกเมน, ทับทิม และซิทริน


ราศีธนู
14 ธันวาคม-13 มกราคม

เทอร์ควอยซ์, มาลา ไคต์. อเมทิสต์ และลาพิส ลาซูลี


ราศีมังกร
14 มกราคม-13 กุมภาพันธ์

ซิทริน, ควอตซ์ใส, แคลไซต์ และมูนสโตน


ราศีกุมภ์
14 กุมภาพันธ์-13 มีนาคม

โกเมน, อเมทิสต์ และไพลิน



ราศีมีน
14 มีนาคม-13 เมษายน

อความารีน, แจสเปอร์ และอเมทิสต์

วันศุกร์, มีนาคม 12, 2553

เมื่อลูกแผลงฤทธิ์ เอาแต่ใจ

ในจีนมีนโยบายให้ทุกบ้านมีลูกคนเดียว โดยทั่วไปเราก็จะได้ยิน เรื่องการตามใจจนเสียเด็ก ผมเคยไปจีน จิตแพทย์เด็กที่นั่นก็บ่นเรื่องนี้เหมือนกัน แต่อีกครั้งผมเจอเด็กมหาวิทยาลัยที่เป็นลูกคนเดียวของบ้าน ตามนโยบายนี้เธอกลับมองอีกมุมหนึ่ง…

พร้อมตามใจ...ตัวการก่อจักรพรรดิน้อย

           ในมุมของเด็ก เธอเห็นว่าเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง ขนาดเธอเป็นลูกคนเดียวยังลำบากเลย ถ้าพ่อแม่มีลูกมากกว่านี้คงจะแย่ แล้วยังบอกอีกว่า การที่ทุกคนมีลูกคนเดียว ทำให้คนรุ่นเดียวกันกับเธอกลัวการมีลูก เพราะหลังแต่งงานสองคนผัวเมียจะต้องเลี้ยงคนถึงห้าคน คือพ่อแม่ฝ่ายตัวอย่างละสองกับลูกอีกหนึ่ง

           นั่นเป็นปัญหาที่คนนอกจะนึกไม่ถึง แต่ก็สะท้อนนะครับว่า การมีลูกคนเดียวไม่ใช่เหตุหลักของการตามใจ ถ้าฐานะไม่ดีอย่างไรก็ตามใจไม่ได้ ความพร้อมในการตามใจต่างหากน่าจะเป็นปัจจัยหลัก เรื่องนี้จึงไม่จำเป็นต้องเกิดในจีน ในไทยนั่นแหละตัวดี

           คนรุ่นผมที่อายุราวสามสิบกว่า ๆ ท่านที่รู้อายุจริงก็ขอนับเป็นรุ่นเดียวกันก็แล้วกัน คือรุ่นที่เคยเติบโตในยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง และยุคที่พ่อแม่ใช้ไม้เรียวกับการเจริญพรเป็นหลักในการเลี้ยงลูก พอมีลูกเองก็พยายามจะปรับพฤติกรรม ไม่ให้ลูกต้องประสบความลำบากอย่างเดียวกัน จึงเกิดการตามใจและการให้บริการแบบสุดประทับใจกับเด็ก ๆ ในยุคนี้

           เอาไปเอามาลูกกลายเป็นคนใหญ่ที่สุดในบ้าน พ่อแม่บังคับไม่ค่อยได้ ต้องโอ้โลมปฏิโลม เจรจาต่อรอง ใช้ไม้อ่อนไปเรื่อย ๆ แต่ลูกเล่นไม้แข็งทุกที ผลเสียจะมีสองอย่างคือ เป็นคนตามเอาแต่ใจตัวเอง และทำอะไรเองไม่ค่อยเป็น

ทางแก้จักรพรรดิน้อย

           อย่าให้อดีตของเรามากำหนดท่าทีจนเกินพอดี ความลำบากที่เราเคยได้รับจริง ๆ มีคุณค่า ทำให้เราแข็งแกร่งมาจนถึงทุกวันนี้ พยายามหาอะไรที่เข้ม ๆ เหมือนเดิม แต่มาในรูปแบบใหม่ให้ลูกบ้าง เช่น พาขึ้นรถเมล์ทั้งที่มีรถเก๋ง พาเดินตากแดดไปใกล้ ๆ บ้าน พาไปกินอาหารร้านรถเข็นแทนจะเข้าห้าง หรือพานั่งสามล้อไปสำเพ็งพาหุรัดบ้าง อย่างน้อยก็ได้อารมณ์และประสบการณ์

           อะไรที่ต้องบังคับก็บังคับ ตอนเล็ก ๆ ก็เอาเรื่องความเป็นระเบียบเรียบร้อยในบ้าน การดูแลตัวเอง กินข้าว อาบน้ำ ฯลฯ พอโตขึ้นหน่อยนึกอะไรไม่ออกก็อาศัยโรงเรียน เพราะโรงเรียนมีเรื่องต้องบังคับเยอะ อย่าไปหักกฎของโรงเรียนสมัยนี้เพื่อปกป้องลูก บางทีพ่อแม่ปฏิวัติระเบียบของโรงเรียนก็มี

           เทคนิคการบังคับสมัยใหม่ จะใช้กลวิธี กลอุบาย และการต่อรองก็ต้องใช้ตามสมัย แต่กระบวนท่าบังคับตรง ๆ หรือพ่อสั่งก็ต้องเป็นสั่งก็ยังทิ้งไม่ได้ คนที่ไม่เคยถูกบังคับย่อมยากที่จะรู้จักบังคับตัวเองในชีวิต มีบ่อยครั้งที่เราต้องบังคับตัวเรา บ่อยครั้งที่เราถูกบังคับจากสถานการณ์ แม้จะไม่เกิดเป็นประจำเหมือนตอนเราเป็นเด็ก แต่อย่างน้อยลูกต้องเข้าใจและรู้จักการบังคับ และถูกบังคับ

           อะไรที่ไม่ควรได้ ไม่เหมาะที่จะได้ ก็ไม่ควรมี ไม่ต้องตามใจหรือตามสมัยนิยม ไม่ต้องกลัวน้อยหน้าเพื่อน หัดให้ลูกพิจารณาจากประโยชน์ตามความจำเป็นจะดีกว่า ทำตามกลุ่ม

           ให้ลูกคบคน เพราะเพื่อน ๆ จะไม่ยอมและไม่คอยบริการเหมือนพ่อแม่ เด็ก ๆ จะคานกัน และเลียนแบบกันเอง คนที่ช่วยตัวเองเก่งกว่าและมีประสบการณ์มากกว่าคนอื่นจะเป็นพี่เบิ้ม และกลายเป็นต้นแบบให้คนที่ถูกประคบประหงม เราเพียงดูอยู่ห่าง ๆ คอยสังเกตการเลียนแบบที่เกิดขึ้น ให้ข้อชี้แนะถ้าเห็นออกนอกทาง แต่ถ้าพอรับไหวก็อย่าไปยุ่ง

ผลเสียของการเป็นจักรพรรดิ

           ใช้ทั้งห้ากระบวนท่าแล้ว เด็ก ๆ ก็คงจะไม่พัฒนาตัวเองจนเป็นจักรพรรดิหรือฮ่องเต้ประจำบ้าน แต่ถ้าไม่ทำสิครับน่าเป็นห่วง เด็กที่ถูกตามใจจนเคย จะขาดความยับยั้งชั่งใจ ไม่รู้จักคิด ขาดทักษะทางใจ ไม่สามารถอดทนรอคอย หรือใส่ใจความรู้สึกของคนอื่นได้ แล้วถ้าโตขึ้น เจอคนที่เขี้ยวกว่าจะถูกหลอกได้ง่ายด้วยการพะเน้าพะนอ เอาอกเอาใจ เด็กที่ช่วยตัวเองไม่ค่อยได้ ทำอะไรเองไม่ค่อยเป็น จะไม่มีความมั่นใจเวลาอยู่กับเด็กด้วยกัน ยิ่งถ้าพ่อแม่ฐานะดีมีพีเลี้ยงมาคอยดูแล มีคนรถมารับมาส่งจะดูมั่งคั่งในหมู่เพื่อน ๆ แต่จริง แล้วข้างในไม่แน่น ไปไหนมาไหน ไม่สมาร์ท

ขอขอบคุณข้อมูลจากหมอนุ