วันพุธ, กรกฎาคม 20, 2554

ประวัติพระสีวลี

พระสีวลี พระอรหันต์สาวกพระองค์หนึ่งที่มีผู้คนศรัทธาและกราบไหว้บูชาเป็น จำนวนมาก เนื่องด้วยเป็นเอตทัคคะและบารมีเป็นผู้เลิศด้วยลาภ มิว่าพระสีวลีจะจาริกไปที่แห่งใด ลาภสักการะย่อมบังเกิดมีแก่ท่านในที่นั้นเสมอ และหากหมู่พระภิกษุสงฆ์ต้องธุดงค์ในถิ่นกันดาร พระบรมศาสดาจะมีพระดำรัสให้พระสีวลีเดินทางไปด้วยเสมอ เนื่องด้วยเทพยดาทั้งหลายที่สถิตในป่า นาค ครุฑ และมนุษย์ทั้งหลาย จะจัดอาหารบิณฑบาตและจัดสถานที่พักไว้ถวายพระสีวลี และจากการที่เราสักการะกราบไหว้บูชาท่านจะนำมาซึ่งความสงบสุขร่มเย็น รวมถึงความสมบูรณ์พูนสุขด้วยโภคทรัพย์


กุศลบุญที่ทำให้เกิดลาภสักการะไหลมาเทมาอย่างมากมายนี้ เป็นเพราะในอดีตชาติพระสีวลี ท่านได้เคยสร้างบุญโดยการถวายน้ำผึ้งสดแก่พระวิปัสสีพุทธเจ้าพร้อมกับ หมู่สงฆ์ ด้วยอานิสงฆ์แห่งการถวายมหาทานแก่พระผู้มีจิตบริสุทธิ์ผุดผ่อง ผู้ซึ่งละแล้วจากกิเลสทั้งปวง รวมถึงการอธิษฐานจิตในอดีตชาติของพระสีวลี ที่จะขอเป็นเลิศเอตทัคคะทางด้านลาภในอนาคตกาล จึงส่งผลให้ทุก ๆ ชาติที่่ท่านเกิดมาย่อมเป็นผู้สมบูรณ์พร้อมไปด้วยลาภสักการะ มิรู้จักอับจนเลย

ก่อนที่พระสีวลีจะประสูติ ท่านต้องทนอยู่ในครรภ์พระมารดาคือพระนางสุปปวาสาพระราชธิดา แห่งพระเจ้ากรุงโกลิยะ นานถึง 7 ปี 7 วัน เนื่องจากในอดีตชาติท่านมีผลกรรมจากการล้อมกรุงพาราณสีไว้ 7 ปี ผลกรรมจากการที่ตัดขาดการสัญจร ราษฏรขาดแคลนอาหารและน้ำ จึงทำให้พระสีวลีต้องเสวยทุกขเวทนาในครรภ์พระมารดานานเพียงนั้น เมื่อเจริญวัยพระสีวลีมีจิตศรัีทธาใคร่จะบรรพชาอุปสมบท โดยได้ขอบวชในสำนักพระสารีบุตร พระสารีบุตรได้เตือนให้พระสีวลีระลึกถึงทุกข์ขณะที่อยู่ในครรภ์พระมารดา ท่านได้กำหนดจิตพิจารณาตามไป ว่าการเกิดทุกครั้งย่อมเป็นทุกข์ทุกครั้ง พอปลงผมเสร็จท่านก็บรรลุพระอรหันต์ทันที

เรามักจะพบพระสีวลีในปางธุดงค์ คือถือไม้เท้า แบกกลด สะพายบาตรและย่าม ซึ่งไม้เท้า หมายถึงถึงคนคอยช่วยเหลือ อุปถัมภ์ ค้ำจุน กลด หมายถึงความร่มเย็นเป็นสุข บาตร หมายถึงความอุดมสมบูรณ์ ทรัพย์สินเงินทอง และ ย่าม หมายถึงชีวิตจะพร้อมไปด้วยจัตุปัจจัยมิได้ขาดเลย แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นเรามิควรจะย่ามใจใช้จ่ายจนเกินพอดี พึงเก็บเล็กผสมน้อยอยู่เสมอเถิด

ท่านที่เกิดราศีพฤษภ หรือราศีวัว (เกิดระหว่าง 20 เมษายน ถึง 20 พฤษภาคม) และท่านที่ลัคนาสถิตราศีพฤษภ ควรที่จะบูชาพระสีวลี เนื่องจากมีดาวพระศุกร์เป็นดาวเจ้าเรือน นอกจากนี้ยังควรบูชา พระพุทธโสธร พระสังกัจจายน์ พระพิฆเนศ พระแม่ลักษมีเทวี เพื่อนำมาซึ่งความสำเร็จ และโชคลาภไม่ขาดสาย

คำบูชาพระสีวลี (พระฉิม)

อิมินา สักกาเรนะ สีวะลีเถรัง อภิปูชะยามิ

สีวะีลี จะ มหาเถโร อินโท พรัมมาจะ ปูชิตัง สัพพะลาภัง ประสิทธิเม เถรัสสะ อานุภาเวนะ สัพพะโสตถี ภะวันตุเม ฯ

นะชาลิติ นะชาลิติ นะชาลิติ



คาถาขอลาภพระสีวลี (ประจำวัน)

วันอาทิตย์ (ให้ภาวนา 6 จบ)

ฉิมพะลี จะ มหานามัง สัพพะลาภัง ภะวิสสะติ เถรัสสานุภาเวนะ สะทา โหนติ ปิยัง มะมะ ฯ

วันจันทร์ (ให้ภาวนา 15 จบ)

ยัง ยัง ปุริโสวา อิตถีวา ทูเรหิวา สะมีเปหิวา เถรัสสานุภาเวนะ สะทา โหนติ ปิยัง มะมะ ฯ


วันอังคาร (ให้ภาวนา 8 จบ)

ฉิมพะลี จะมหาเถโร โสะโห ปัจจะยาทิมหิ เชยยะลาโภ มหาลาโภ สัพพะลาภา ภะวันตุ สัพพะทา ฯ

วันพุธ (ให้ภาวนา 17 จบ)

ทิตติตถะภะเวราชา ปิยาจะ คะระตุเม เย สารัตติ นิรันตะรัง สัพพะสุขาวะหา ฯ


วันพฤหัสบดี (ให้ภาวนา 19 จบ)

ฉิมพะลี จะ มหาเถโร ยักขาเทวาภิปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ สัพพะทา ฯ


วันศุกร์ (ให้ภาวนา 21 จบ)

ฉิมพะลี จะ มหาเถโร เทวะตานะปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ มหาลาภัง กะโรนตุ เม ลาเภนะ อุตตะโม โหติ สัพพะลาภะ ภะวันตุ สัพพะทา ฯ



วันเสาร์ (ให้ภาวนา 10 จบ)

ฉิมพะลี จะ มหานามัง อินทาพรหมา จะ ปูชิตัง สัพพะลาภัง ประสิทฺธิเม เถรัสสานุภาเวนะ สะทา สุขี ปิยัง มะมะ ฯ

การบูชาพระสีวลีนั้น ให้บูชาด้วยน้ำผึ้ง ผลไม้สด ดอกไม้ขาว ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมหรือดอกบัวทุกชนิด อย่างละ 3 ดอก 5 ดอก หรือ 7 ดอก ก็ได้ น้ำสะอาด 1 แก้ว โดยลอยดอกมะลิไว้บนน้ำ แล้วจุดธูป 3 ดอก เทียนบูชา 1 เล่ม

การถวายผลไม้สด และน้ำผึ้งควรถวายในวันพฤหัสบดี ส่วนวันเสาร์ควรถวายอาหารจากทะเล หรืออาหารที่ปรุงจากต้นบัว แล้วอธิษฐานจิตขอให้โชคสำเร็จ สมหวัง และเมื่อท่านได้โชคได้ลาภสมดังหวังแล้ว จะต้องทำบุญเลี้ยงพระสักครั้ง

การสวดพระคาถาขอลาภพระสีวลี ถ้าสวดได้ทุกวัน จนครบ 7 วันได้ยิ่งดี ในกรณีทีท่านต้องการจะขอลาภเป็นพิเศษ อาทิ จะต้องติดต่อธุรกิจสำคัญใด ๆ ในวันนั้น ให้สวดคาถาบูชาพระสีวลี (พระฉิม) ก่อน แล้วต่อด้วย คาถาขอลาภพระสีวลีประจำวัน ตามกำลังวันของวันนั้น ๆ จะเป็นพระพุทธมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ตามจิตปรารถนา ค้าขายดี มีราศีดีนักแล


ที่มา : ผู้เขียน : มณฑ์วรัม (ุุ6 พฤษภาคม 2551)  http://sangsom.storythai.com/200806/entry-41

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น