วันอังคาร, ธันวาคม 21, 2553

วันหยุดทำการของสถาบันการเงิน ประจำปี พ.ศ. 2554

1. วันจันทร์ 3 มกราคม ชดเชยวันขึ้นปีใหม่


(วันเสาร์ที่ 1 มกราคม)

2. วันศุกร์ 18 กุมภาพันธ์ วันมาฆบูชา

3. วันพุธ 6 เมษายน วันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

และวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์

4. วันพุธ 13 เมษายน วันสงกรานต์

5. วันพฤหัสบดี 14 เมษายน วันสงกรานต์

6. วันศุกร์ 15 เมษายน วันสงกรานต์

7. วันจันทร์ 2 พฤษภาคม ชดเชยวันแรงงานแห่งชาติ

(วันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม)

8. วันพฤหัสบดี 5 พฤษภาคม วันฉัตรมงคล

9. วันจันทร์ 16 พฤษภาคม วันหยุดพิเศษ (เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายภาครัฐ)

10. วันอังคาร 17 พฤษภาคม วันวิสาขบูชา

11. วันศุกร์ 1 กรกฎาคม วันหยุดภาคครึ่งปี

12. วันศุกร์ 15 กรกฎาคม วันอาสาฬหบูชา

เริ่มตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นไป ธปท. เห็นควร กำหนดให้วันอาสาฬหบูชาซึ่งเป็นวันสำคัญต่อพุทธศาสนิกชนตามความเห็นของสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นวันหยุดทำการแทนวันเข้าพรรษา

13. วันศุกร์ 12 สิงหาคม วันเฉลิมพระชนมพรรษา

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

14. วันจันทร์ 24 ตุลาคม ชดเชยวันปิยมหาราช

(วันอาทิตย์ 23 ตุลาคม)

15. วันจันทร์ 5 ธันวาคม วันเฉลิมพระชนมพรรษา

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ

16.วันจันทร์ 12 ธันวาคม ชดเชยวันพระราชทานรัฐธรรมนูญ

(วันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม)


ที่มา : www.bot.or.th

วันพฤหัสบดี, ธันวาคม 09, 2553

ปฏิทิน 2011























บางเวลาที่สูญเสียไป..ไม่อาจสร้างใหม่โดยการขอโทษ

วันอาทิตย์ รักกับ วันอาทิตย์
คู่นี้หัวแข็งชอบบงการทั้งคู่ คบหารักใคร่กันอย่างเข้าอกเข้าใจแต่คู่นี้กลับรักกันไม่ค่อยหวานซึ้งเท่าไหร่นัก

วันอาทิตย์ รักกับ วันจันทร์
คู่ของความแตกต่างเพราะมีทั้งดาวดวงร้อนและดาวดวงความอ่อนโยน แต่ผสมกลมกลืนกันอย่างลงตัว เพราะเมื่อผสมกันแล้วอีกคนแข็งขัน อีกคนนุ่มนวล จึงไม่มีการปะทะกันอย่างรุนแรง รักกันอย่างลึกซึ้งผูกพันกันเป็นพิเศษเติมเต็มให้แก่กัน

วันอาทิตย์ รักกับ วันอังคาร
คู่รักคู่นี้มีความเหมือนกันหลายอย่าง เข้มแข็งอดทนด้วยกันทั้งคู่ เมื่อได้ครองรักกัน ทำทุกอย่างด้วยกัน และเกิดพลังร่วมแรงร่วมใจกันอย่างแข็งขันแต่ข้อเสียไม่ค่อยแสดงความหวานแหววแก่กัน รู้อยู่กันอยู่ก็แค่ภายในใจ คงไม่มีโอกาสได้เอ่ยคำว่ารัก เพราะทั้งคู่เป็นคนนิ่งๆเฉยๆเก็บเอาไว้ใจใจ เป็นส่วนใหญ่ แต่เมื่อมีลูก ลูกจะเป็นที่เชิดหน้าช ูตา และเป็นที่รักของพ่อแม่พร้อมกับผู้รอบข้าง

วันอาทิตย์ รักกับ วันพุธ
คู่นี้รักกันเหมือนเพื่อนสนิท ไปไหนมาไหนกอดคอลุยกันไปทุกที่ รักกันอย่างเข้าใจ เฮไหน เฮกัน มีความสุขสนุกกันได้ทุกที่ มีความเข้าอกเข้าใจกันได้มากมายขนาดนี้ ก็คงมีแต่
แฮปปี้ตลอดเวลา

วันอาทิตย์ รักกับ วันพฤหัสบดี
คู่รักนี้มักส่งเสริมกันได้อย่างดี เป็นแรงเชียร์แรงใจให้กันตลอดเวลาและคอยเป็นที่ปรึกษาในยามที่ท้อแท้ คอยช่วยคิดแก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาด คู่รักคู่นี้ใครๆก็ต้องชื่นชม

วันอาทิตย์ รักกับ วันศุกร์
คนรักกันที่มีความแตกต่างกันเป็นคู่ตรงข้าม อีกคนเป็นคนห้าวหาญ อีกคนเป็นคนหวานหยดงดงาม กลายเป็นความรักที่กลมกลืน หวานซึ้งตรึงใจ ใช้ความรักคอยชักนำชี้ทางสว่างให้สดใส การเงินการงานด้านธุรกิจก็เป็นไปได้สวย เพราะทั้งคู่คอยเกื้อหนุนเป็นแรงส่งเสริมกันและกัน

วันอาทิตย์ รักกับ วันเสาร์
คนที่เข้มแข็งมาอยู่ด้วยกัน ทำให้เกิดแรงที่ยิ่งใหญ่ไม่ใช้อารมณ์ทั้งคู่ มีปัญหาก็แก้ไขกันด้วยปัญญา และหัวใจ
แต่ที่ขาดหายไปก็คือความหวานซึ้ง โรแมนติกที่อยู่ค่อนข้างลึกในหัวใจ

คนเกิดวันจันทร์
วันจันทร์! รักกับ วันอาทิตย์
ความอ่อนโยนมาพบกับความเข้มแข็ง กลายเป็นคู่รักที่กลมกลืนอยู่บนพื้นฐานความเข้าอกเข้าใจ จากหัวใจที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้วแต่คน! ทั้งคู่จะได้พบกับความสุขที่แสนจะโรแมนติก

วันจันทร์ รักกับ วันจันทร์
คู่รักที่มีความเหมือน อ่อนโยนด้วยกันทั้งคู่ ผู้คนต่างชื่นชมยินดีในความกลมกลืนของทั้งคู่ แต่คู่ที่ดูกันเหมือนกันมากจนเกินไป ก็อาจกลายเป็นความรักที่พร้อมจะจบได้ทุกเวลา มีเพียงภาพลวงตาที่ดูสวยงามเท่านั้น

วันจันทร์ รักกับ วันอังคาร
คนสองคนเป็นคู่รักมีความต่างกันทั้งภายนอกและภายในแต่จะ! กลายเป็นคู่รักที่ชื่นมื่นรื่นรมย์ได้ดีอีกคู่หนึ่ง อีกคนเป็นความอบอุ่น เป็นที่พึ่งทั้งกายและใจ แต่อีกคนก็คอยดูแลเอาใจใส่ แต่ถ้าอยู่กันนานๆก็อาจมีเรื่องราวขัดแย้งกันแบบเล็กๆน้อยๆ จึงควรใช้เหตุผลเข้าหากันไว้ให้มาก

วันจันทร์ รักกับ วันพุธ
คู่รักเป็นเพื่อนแท้ทั้งคู่มีความคล้ายคลึงกันทั้งความรู้สึกและบุคลิกภาพ เป็นเพื่อนคู่คิด และคู่รักคู่ใคร่ มีความรักที่อ่อนหวาน งดงาม เต็มไปด้วยสติปัญญา เกิดความพอดีที่พอเหมาะพอควร ครองรักกันอย่างสุขสบาย ฐานะร่ำรวย


วันจันทร์ รักกับ วันพฤหัสบดี
คู่รักที่มีความสวยงามและมากด้วยความสามารถ อยู่ครองคู่กันจะช่วยส่งเสริมให้พบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ครองคู่กันอย่างมีสติ ไม่วู่วาม จึงทำให้ชีวิตพบกับความสุข
ความเจริญ แต่บางทีก็มีความขัดแย้งกันทางความคิดที่โต้แย้งกัน ต้องการเอาชนะกัน ลองหันมาคุยกันด้วยเหตุผลบ้างก็จะดีน่ะ


วันจันทร์ รักกับ วันศุกร์
เป็นคู่รักที่ดูเกื้อกูลอ่อนหวานอ่อนโยนด้วยกันทั้งคู่ คอยช่วยเหลือคอยเป็นกำลังใจให้กันและกัน แต่ก็หวั่นไหวต่อสิ่งเร้าที่อยู่รอบ! กายได้ง่ายทั้งคู่ หากจะเพิ่มพลังความรักให้กันอย่างจริงใจต้องเพิ่มความมั่นคง ความซื่อตรงในความรักให้มากขึ้น


วันจันทร์ รักกับ วันเสาร์
ความแข็งแรงกับความนุ่มนวลที่น่าจะเข้ากันได้ดีผสมผสานกันอย่างลงตัว แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นความรักที่เปราะบาง อ่อนแอ มีโอกาสที่จะแยกทางกันค่อนข้างมาก ทั้งๆที่ยังรักกันอาลัยกันอย่างสุดซึ้ง

คนเกิด วันอังคาร
วันอังคาร รักกับ วันอาทิตย์
คนสองคนนี้จะรักกันอย่างยาวนาน การใช้ชีวิตร่วมกันต่างคนก็ต่างเก่งกาจมีความสามารถรอบตัว รวมประสานเป็นเพื่อนคู่คิดกันได้ดี แม้จะดื้อบ้างแต่ก็คุยกันรู้เรื่อง ถึงไม่หวานแหววแต่รู้ใจกันน่ะ
วันอังคาร รักกับ วันจันทร์
คู่แตกต่างทั้งความรู้สึกนึกคิด และการดำเนินชีวิต แต่ก็เป็นคู่ที่หวานชื่น คอยช่วยเหลือดูแลเอาใจใส่กันและกันได้เป็นอย่างดี คอยเป็นที่พึ่งทั้งกายและใจ ดูอบอุ่นแน่นแฟ้นกันได้

วันอังคาร รักกับ วันอังคาร

คู่รักคู่นี้ดูไปด้วยกัน ได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ คืออีกคนก็ขี้อ้อน อ่อนไหวง่าย อีกคนก็แข็งหน่อยๆใจร้อนพอประมาณ แต่ก็รักกันอย่างซาบซึ้งกินใจ แม้จะผลัดกันง้อ ผลัดกันงอน แต่ก็คอยดูแลเอาใจใส่ ถนอมน้ำใจกันดี

วันอังคาร รักกับ วันพุธ
เป็นคู้รักที่รักกัน แต่ไม่สวีตหวานแถมมีปะทะกันขัดแย้งทางความคิดบ่อยๆ แต่รักจริงใจน่ะ คบหากันด้วยความเข้าใจ ถึงไม่สวีตตัวติดกัน แต่คบกันนานแน่ๆ

วันอังคาร รักกับวัน พฤหัสบดี
คู่นี้ขี้บ่นจู้จี้พอกัน คนหนึ่งดื้อเงียบอีกคนใจร้อน โผงผาง แต่เก่งหัวก้าวหน้าด้วยกันทั้งคู่ แบบว่าเพลงป๊อปกับเพลงลูกทุ่ง แต่มีอะไรช่วยเหลือดูแลกันอย่างดีที่สุด

วันอังคาร รักกับวันศุกร์
เป็นคู่ที่มีความตื่นเต้นท้าทาย เร้าใจเร้าอารมณ์ มีทั้งพ่อแง่แม่งอน ออเซาะฉะเลาะกันบ้างเป็นบางเวลา แต่ต่างก็เติมเต็มส่วนที่ขาดหายซึ่งกันและกัน ความขี้งอนและคิดมากของอีกฝ่ายหนึ่งไม่ปัญหามันคือยาบำรุง ผลัดกันงอนผลัดกั! นง้อ น่ารักดีไปอีกแบบหนึ่ง

วันอังคาร รักกับ วันเสาร์
คู่สองเกลอหัวแข็ง อารมณ์ค่อนข้างร้อนแรง ไม่ค่อยโรแมนติก คนรอบข้างพากันหูเฉาะเพราะคู่นี้มักทะเลาะกันบ่อยๆ แต่ไม่น่าเชื่อว่าทั้งคู่ก็ผูกพันอย่างลึกซึ้ง เพราะมีอะไรคล้ายๆกันและเข้าใจกันแบบทุกๆเรื่อง

คนเกิด วันพุธ
วันพุธ รักกับ วันอาทิตย์
เป็นคู่รักที่พูดคุยกันอย่างเข้าอกเข้าใจห้วงรักเลายเป็นสีชมพู คอย! ให้ข้อคิดและกำลังใจที่ดีต่อกัน เหมือนเพื่อนซี้ที่คอยดูแลห่วงใยกันตลอดไป

วันพุธ รักกับ วันจันทร์
เป็นคู่รักคู่คิดเป็นมิตรที่รู้ใจ อยู่ด้วยกันด้วยความเสมอภาคและเข้าใจ ไม่มีใครนำ ไม่มีใครตาม มีสติปัญญาที่เฉลียวฉลาดพอกันมีความรักที่อ่อนหวาน ชอบโรแมนติกเหมือนๆกัน แล้วชีวิตคู่จะพบกับความเจริญก้าวหน้า สุขสบายใจไร้ปัญหา ฐานะมั่นคง

วันพุธ รักกับ วันอังคาร
เป็นคู่รักเป็นคู่เพื่อน เสมือนคนรู้ใจ เมื่ออยู่ใกล้ๆกันจะรู้สึกผ่อนคลาย ไร้ความกังวล บางครั้งอาจไม่เข้าใจกัน แต่ก็ไม่รุนแรงเท่าไหร่ อยู่กันนานๆยิ่งเพิ่มความรู้สึกที่ดี และเข้าใจกัน มีชีวิตที่เรียบง่ายสบายๆอยู่ด้วยกันจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต

วันพุธ รักกับ วันพุธ
ความเหมือนที่เหมาะสมลงตัว เป็นที่พึ่งของกันและกันคอยกำลังใจกันในยามที่อ่อนแรง มีความรักความผูกพันกันอย่างลึกซึ้ง ใช้ชีวิตหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ! สู่ความเป็นเลิศ

วันพุธ รักกับ วันพฤหัสบดี
เป็นคู่ที่สติปัญญาฉลาดเฉลียว มีความรักที่น่าชื่นชมผลิดอกออกผลอย่างสวยงาม ใช้ชีวิตคู่กันอย่างราบรื่นไร้ปัญหาต่างคนต่างก็มีเหตุผลพูดคุยกันอย่างแบบเพื่อน ไม่นิยมความรุนแรงคอยดูแลห่วงใยกันเสมอมา

วันพุธ รักกับ วันศุกร์
ความรักที่มีแต่ความเบิกบานสนุกสนานรื่นเริง จะไม่มีความทุกข์ร้อนใดๆมากล้ำกลาย เพราะหัวใจที่เป็นอิสระและปล่อยวาง เป็นคู่ที่เปี่ยมด้วยความหวัง พลังศรัทธา ผู้คนต่างพากันชื่นชมแนวทางในการดำเนินชีวิตของคนทั้งคู่ที่เดินทางสายกลาง ไม่มากไปไม่น้อยไป

วันพุธ รักกับ วันเสาร์
เป็นคู่ที่อารมณ์อ่อนไหวสุดแสนจะโรแมนติกรักกันอย่างลึกซึ้งและ! เข้าใจ เป็นไปได้ทุกอย่างถ้าต้องการ คอยดูแลห่วงใยกันไม่เคยห่าง จะคอยส่งเสริมกันทำให้มีบารมีน่ายำเกรง

คนเกิด วันพฤหัสบดี
วันพฤหัสบดี รักกับ วันอาทิตย์
เป็นคู่รักที่ทรงพลัง โดดเด่น ผู้คนรอบข้างพากันชื่นชมยินดี คู่รักที่คอยดูแลช่วยกันผลักดันและให้พลังใจ ไม่ค่อยมีเรื่องให้ทะเลาะเบาะแว้งกัน อยู่กันแบบสบายๆ

วันพฤหัสบดี รักกับ วันจันทร์
คู่รักที่มากด้วยความสามารถ รอบรู้พอๆกันอีกทั้งยังมีรูปร่างหน้าตาที่ดูเด่น เมื่ออยู่ใกล้ๆกันแล้วจะพบแต่ความสุข ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน แต่มักจะผิดใจกันด้วยเรื่องเล็กๆน้อยๆจากความดื้อดึงของทั้งคู่


วันพฤหัสบดี รักกับ วันอังคาร
ดวงของคู่นี้เมื่ออยู่ใกล้กันก็จะมีความแตกต่าง แต่ทว่าปรับเปลี่ยนแนวคิดวิธีใช้ชีวิตให้ลงตัว อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขคอยส่งเสริม! เกื้อ หนุนกันเสมอมา มีทุกข์ก็ผลัดกันช่วยปลอบโยน แล้วมันก็ค่อยๆผ่อนคลายมลายหายไป และจะพบกับความเจริญก้าวหน้า แต่ไม่ค่อยสวีตหวานสักเท่าไหร่น่ะ

วันพฤหัสบดี รักกับ วันพุธ
คู่รักคู่นี้ สติปัญญาดีด้วยกันทั้งคู่ เมื่อรักกันก็จะพากันไปสู่จุดมุ่งหมายที่รุ่งเรืองเจริญก้าวหน้า เพราะใช้เหตุและผลในการใช้ชีวิตคู่ คอยดูแลห่วงใยกันทั้งในยามสุขและยามทุกข์ร้อนใจ

วันพฤหัสบดี รักกับ วันพฤหัสบดี
เป็นคู่ที่สติ! ปัญญาล้ำเลิศทั้งคู่ ความรู้ความสามารถเต็มเปี่ยม มีความคิดความอ่าน มีเหตุมีผลในการดำเนินชีวิต คอยท้วงคอยติงขัดแย้งกันด้วยเหตุด้วยผล จะเชิดชูส่งเสริมกันและกันให้ก้าวไกลได้อย่างมั่นคง

วันพฤหัสบดี รักกับ วันศุกร์
เป็นคู่รักที่รักกันอย่างอ่อนโยนและสดใส พูดคุยกันไปปรับความเข้าใจกันไป จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ทั้งคู่มีความคล้ายคลึงมากกว่าความแตกต่าง มอบความรักให้กันได้โดยไม่รู้เบื่อ ทำให้มีชีวิตที่สงบสุขฐานะมั่นคง
วันพฤหัสบดี รักกับ วันเสาร์
เป็นอะไรที่เข้ากันได้ดี แต่ในบางครั้งอาจมีบุคคลอื่นๆเข้ามาทำให้ไขว้เขวได้ง่ายๆ ถ้ามั่นคงในความรักที่มีให้กันจะทำให้ครองรักกันได้ยาวนาน และพบกับความมั่นคง ?? ีเงิน
ทองมากมาย

คนเกิด วันศุกร์
วันศุกร์รักกับ วันอาทิตย์
เป็นคู่ที่ตรงข้ามกันสิ้นเชิง คนหนึ่งก็หวานแหววและแสนดีส่วนอีกคนก็ร้อนแรง แต่พอมาอยู่คู่กันแล้วกลายเป็นคู่ที่เข้ากันได้ดี แจ่มแจ๋ว ไร้อุปสรรค คนสองคนจะประคองชีวิตรักแล้วก้าวเดินไปด้วยกัน ส่งเสริมกันในทุกๆด้าน แต่จะดีด้านการเงิน

วันศุกร์รักกับ วันจันทร์
เป็นคู่รักที่งดงามซาบซึ้งใจ แต่ก็หวั่นไหวง่ายหากมีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง หากครองชีวิตรั กกันชีวิตก็จะก้าวเดินอย่างมั่นคง เพียงแต่ต้องมั่นคงในความรักให้มากที่สุด

วันศุกร์รักกับ วันอังคาร
เป็นตัวแทนของความกล้าหาญ อีกคนก็เป็นตัวแทนของความงดงาม เมื่อได้ครองคู่อยู่ด้วยกันแล้วจะพบกับความท้าทาย ความตื่นเต้น เร่าร้อน และความสำเร็จ แต่จะเป็นคนชอบใจน้อย คิดมากกับคำพูดบางคำจนบางครั้งเครียด ต้องตามง้อกันอยู่ร่ำไป

วันศุกร์รักกับ วันพุธ
คู่สองคนนี้หากได้มาอยู่ด้วยกันจะมีความสุข สนุกสนาน ผู้คนในสังคมต่างพากันสนใจ และยินดี คนสองคนที่น่ารักเมื่ออยู่ด้วยกันอะไรๆมันก็ดูดีไปหมด

วันศุกร์รักกับ วันพฤหัสบดี
เป็นคู่ที่มีความรอมชอม อ่อนโยนเข้าใจกัน สามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่องๆ มีความเหมือนกันหลายๆด้าน หากรักและมั่นคงจะพานพบแต่ความสุขความเจริญ

วันศุกร์รักกับวันศุกร์
เป็นคู่รักที่หวานชื่นรื่นรมย์ ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างจริงใจ ตรงไปตรงมาน่ารักทั้งคู่ ถึงแม้นบางครั้งอาจขัดแย้งกันบ้าง แต่ไม่มีอะไรต้องหนักใจ เมื่อเกิดมาคู่กันแล้วก็ไม่แคล้วคลาดกันหรอก อยู่ด้วยกันจะพบแต่ความสุขความสำเร็จในชีวิต

วันศุกร์รักกับ วันเสาร์
เมื่อความอ่อนหวานมาอยู่กับความเข็มแข็ง มีความรักมอบให้กันอย่างไม่รู้เบื่อ แต่ก็มีความขัดแย้งกันบ่อยๆ ไม่ค่อยฟังกัน ต่างก็มีเหตุผลกับตัวเอง ส่วนในดวงชะตาก็ส่งเสริมกันจนร่ำรวยหากช่วยกันสองคน

คนเกิด วันเสาร์
วันเสาร์ รักกับ วันอาทิตย์
เป็นคู่ที่ทรงพลัง เมื่อมาอยู่คู่กันจะเกิดความแข็งแกร่งเป็นความรักที่มั่นคงยิ่ง เป็นความรักที่เข้าอกเข้าใจกัน นับถือให้เกียรติซึ่งกันและกัน แต่ขาดความศรัทธาสวีตหวานไปหน่อยน่ะ

วันเสาร์ รักกับ วันจันทร์
คู่รักที่แตกต่างกันคนละขั้ว เป็นความรักที่เหมือน! กับพี่ดูแลน้อง หรือผู้ใหญ่ดูแลเด็ก เป็นความรักที่เกือบสมบูรณ์แต่ยังขาดอะไรไปบ้างที่น่าจะช่วยทำให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

วันเสาร์ รักกับ วันอังคาร
เป็นคู่ที่แข็งแกร่ง และเจ้าทิฐิ มีความรักที่ผูกพันกันอย่างลึกซึ้งแต่ดูเหมือนว่าไฟกับน้ำมันนันยากที่จะอยู่ด้วยกัน เกิดเรื่องร้าวร้อนร้าย ทำให้จิตใจที่อ่อน! ยวบของคนทั้งคู่จะแหลกสลาย ความสุขที่ควรได้รับน้อยลง

วันเสาร์ รักกับ วันพุธ
คนสองคนที่มีจิตใจที่แสนจะอ่อนโยน เข้าอกเข้าใจกันเป็นอย่างดี ทำอะไรก็ถนอนน้ำใจกันเสมอ เป็นความรักที่ดีงามจะส่งเสริมพากันให้รุ่งโรจน์

วันเสาร์ รักกับวัน พฤ! หัสบดี
เป็นคู่รักที่เหมาะสมกันดี แต่ในทางเดินนั้นก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ มีคนนอกเข้ามาทำให้ความรักต้องสะดุด หากไม่ตั้งมั่นในรักที่มีต่อกันก็มีอันต้องยุติ แต่หากซื่อตรงต่อกันดี คงไม่มีปัญหาอะไรจะพบกับความสุข มีเงินทองมากมาย

วันเสาร์ รักกับวันศุกร์
คู่รักคู่นี้ดูแลเอาอกเอาใจกันหวานฉ่ำดื่มด่ำแต่เฉพาะในช่วงแรกรักเท่านั้น แม้คนหนึ่งจะอารมณ์ละเมียดมาก อีกคนก็เอาจริงเอาจังและเคร่งเครียดง่าย แต่ทั้งคู่รู้ดีว่าต่างก็รักกัน แม้จะไม่เห็นพ้องต้องกันไปซะทุกเรื่อง ที่จริงแล้ผูกพันกันไม่น้อย แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าพอนานๆ ไปก็มักจะขัดอกขัดใจกันเพราะบางแง่มุมที่แตกต่างกันนั้นแหละ เลิกกันยาก แต่ก็ไม่หวานชื่นตลอดเวลานักน่ะสิเพราะต่างก็อยากให้คนรักเป็นอย่างที่ตนอยากให้เป็น

วันเสาร์ รักกับ วันเสาร์
คนที่รักกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าคนคู่นั้นต้องเหมือนกันทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ก็รักกันได้ดีไม่มีที่ติ คอยช่วยเป็นกำลังใจให้กันได้ดีเยี่ยม เป็นธรรมดาที่ต้องมีขัดแย้งกันบ้างลิ้นกับฟัน แต่ถ้าครองรักกันได้แล้วละก็ ดวงชะตาส่งเสริมกันอย่างบริบูรณ ์ช่วยให้มีความมั่นคงในชีวิตรักได้.

วันอาทิตย์, ธันวาคม 05, 2553

เดินตามพ่อ

แม้ไม่อาจเทียบหนึ่งในล้าน ลูกขอตั้งปณิธาน

สานสิ่งที่พ่อสร้างไว้ จะขอเดินตาม รอยเท้าพ่อไป

เหนื่อยยากเพียงไหน ไม่ทำให้พ่อผิดหวัง…

กี่ล้านหยาดเหงื่อที่พ่อหลั่งเพื่อคนไทย กี่แสนนาทีล่วงไป

ที่พ่อเหนื่อยยากตรากตรำที่ ฝ่าลมฝน พ่อทนสู้ทำ

อาบเหงื่อต่างน้ำ นำทางเพื่อลูกเรื่อยมา

พ่อ เป็นมากกว่าพ่อคนไหน พ่อเป็นหนึ่งในใจตลอดเวลา

เป็นภาพจำ งดงามอยู่ในสายตา เป็นแรงศรัทธาแรงกล้าอยู่ในหัวใจ

แม้ไม่อาจเทียบหนึ่งในล้าน ลูกขอตั้งปณิธาน

สานสิ่งที่พ่อสร้างไว้ จะขอเดินตาม รอยเท้าพ่อไป

เหนื่อยยากเพียงไหน ไม่ทำให้พ่อผิดหวัง

พ่อ เป็นมากกว่าพ่อคนไหน พ่อเป็นหนึ่งในใจตลอดเวลา

เป็นภาพจำ งดงามอยู่ในสายตา เป็นแรงศรัทธาแรงกล้าอยู่ในหัวใจ

วันอังคาร, พฤศจิกายน 16, 2553

วันสำคัญของไทย

วันสำคัญ เดือนมกราคม



•วันที่ 1 มกราคม : วันขึ้นปีใหม่


•วันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคม : วันเด็กแห่งชาติ


•วันที่ 13 มกราคม : วันการบินแห่งชาติ


•วันที่ 14 มกราคม : วันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของชาติ


•วันที่ 16 มกราคม : วันครู


•วันที่ 17 มกราคม : วันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช


•วันที่ 17 มกราคม : วันโคนมแห่งชาติ


•วันที่ 25 มกราคม : วันกองทัพไทย


วันสำคัญ เดือนกุมภาพันธ์


•วันที่ 2 กุมภาพันธ์ : วันนักประดิษฐ์


•วันที่ 3 กุมภาพันธ์ : วันทหารผ่านศึก


•วันที่ 10 กุมภาพันธ์ : วันอาสารักษาดินแดน


•วันที่ 24 กุมภาพันธ์ : วันศิลปินแห่งชาติ


•วันที่ 25 กุมภาพันธ์ : วันวิทยุกระจายเสียงแห่งชาติ


•วันที่ 26 กุมภาพันธ์ : วันสหกรณ์แห่งชาติ


•ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 : วันมาฆบูชา


วันสำคัญ เดือนมีนาคม


•วันที่ 5 มีนาคม : วันนักข่าว/วันสื่อสารมวลชนแห่งชาติ


•วันที่ 8 มีนาคม : วันสตรีสากล


•วันที่ 13 มีนาคม : วันช้างไทย


•วันที่ 20 มีนาคม : วันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ


•วันที่ 22 มีนาคม : วันน้ำของโลก


•วันที่ 27 มีนาคม : วันกองทัพอากาศ


วันสำคัญ เดือนเมษายน


•วันที่ 1 เมษายน : วันออมสิน


•วันที่ 1 เมษายน : วันข้าราชการพลเรือน


•วันที่ 2 เมษายน : วันอนุรักษ์มรดกไทย


•วันที่ 6 เมษายน : วันจักรี


•วันที่ 13 14 15 เมษายน : วันสงกรานต์


•วันที่ 13 เมษายน : วันผู้สูงอายุ


•วันที่ 13 เมษายน : วันประมงแห่งชาติ


•วันที่ 14 เมษายน : วันครอบครัว


•วันที่ 22 เมษายน : วันคุ้มครองโลก


•วันที่ 24 เมษายน : วันเทศบาล


วันสำคัญ เดือนพฤษภาคม


•วันที่ 1 พฤษภาคม : วันแรงงานแห่งชาติ/วันกรรมกรสากล


•วันที่ 5 พฤษภาคม : วันฉัตรมงคล


•ข้างขึ้น เดือน 6 : วันพืชมงคล


•ขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 : วันวิสาขบูชา


•ขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 : วันต้นไม้แห่งชาติ


•วันที่ 31 พฤษภาคม : วันงดสูบบุหรี่โลก


วันสำคัญ เดือนมิถุนายน


•วันที่ 5 มิถุนายน : วันสิ่งแวดล้อมโลก


•วันที่ 9 มิถุนายน : วันอานันทมหิดล


•วันที่ 24 มิถุนายน : วันเปลี่ยนแปลงการปกครอง


•วันที่ 26 มิถุนายน : วันสุนทรภู่


•วันที่ 26 มิถุนายน : วันต่อต้านยาเสพติด


วันสำคัญ เดือนกรกฎาคม


•วันที่ 1 กรกฎาคม : วันสถาปนาลูกเสือแห่งชาติ


•ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 : วันอาสาฬหบูชา


•แรม 1 ค่ำ เดือน 8 ถึง ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 : วันเข้าพรรษา


•วันที่ 29 กรกฎาคม : วันภาษาไทยแห่งชาติ


วันสำคัญ เดือนสิงหาคม


•วันที่ 4 สิงหาคม : วันสื่อสารแห่งชาติ


•วันที่ 7 สิงหาคม : วันรพี


•วันที่ 12 สิงหาคม : วันแม่แห่งชาติ


•วันที่ 12 สิงหาคม : วันฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ


•วันที่ 18 สิงหาคม : วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ


วันสำคัญ เดือนกันยายน


•วันที่ 1 กันยายน : วันสืบ นาคะเสถียร


•วันที่ 6 กันยายน : วันทรงดนตรี


•วันที่ 15 กันยายน : วันศิลป์ พีระศรี


•วันที่ 16 กันยายน : วันโอโซนโลก


•วันที่ 20 กันยายน : วันเยาวชนแห่งชาติ


•วันที่ 20 กันยายน : วันอนุรักษ์รักษาคูคลองแห่งชาติ


•วันที่ 24 กันยายน : วันมหิดล


วันสำคัญ เดือนตุลาคม


•แรม 15 ค่ำ เดือน 10 : วันสารทไทย


•ขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 : วันออกพรรษา


•วันที่ 13 ตุลาคม : วันตำรวจ


•วันที่ 14 ตุลาคม : วันประชาธิปไตย


•วันที่ 19 ตุลาคม : วันเทคโนโลยีของไทย


•วันที่ 21 ตุลาคม : วันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติ


•วันที่ 21 ตุลาคม : วันพยาบาลแห่งชาติ


•วันที่ 21 ตุลาคม : วันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ


•วันที่ 21 ตุลาคม : วันรักต้นไม้ประจำปีของชาติ


•วันที่ 23 ตุลาคม : วันปิยะมหาราช


•วันที่ 24 ตุลาคม : วันสหประชาชาติ


•วันที่ 31 ตุลาคม : วันออมแห่งชาติ


•วันที่ 31 ตุลาคม : วันฮาโลวีน/Halloween


วันสำคัญ เดือนพฤศจิกายน


•ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 : วันลอยกระทง


•เสาร์สัปดาห์ที่ 2 เดือนพฤศจิกายน : วันคนพิการ


•14 พฤศจิกายน : วันบิดาแห่งฝนหลวง


• 20 พฤศจิกายน : วันกองทัพเรือ


•25 พฤษจิกายน : วันวชิราวุธ - วันประถมศึกษา


•27 พฤศจิกายน : วันสาธารณสุขแห่งชาติ


วันสำคัญ เดือนธันวาคม


•1 ธันวาคม : วันต้านเอดส์โลก วันเอดส์โลก


•4 ธันวาคม : วันสิ่งแวดล้อมไทย


•5 ธันวาคม : วันพ่อแห่งชาติ


•5 ธันวาคม : วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ


•10 ธันวาคม : วันรัฐธรรมนูญ


•16 ธันวาคม : วันกีฬาแห่งชาติ


•25 ธันวาคม : วันคริสต์มาส (Merry Christmas)


•26 ธันวาคม : วันคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติ


•28 ธันวาคม : วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 11, 2553

MMS INN Hot News

ลักษณะบริการ :: “MMS INN Hot News” สรุปข่าวเด่นข่าวร้อน รอบวันผ่าน MMS โดยทีมข่าว INN

รูปแบบบริการ :: ภาพ เสียง และข้อความข่าวผ่าน MMS ส่งตรงถึงมือคุณ 3 ครั้ง/วัน

หมายเหตุ :: บริการนี้ไม่ต้องเสียค่าบริการ GPRS ในการรับข่าวผ่าน MMS

ค่าบริการ :: 49 บาท/เดือน (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

Call Center INN :: 02-730-2424


รุ่นที่รองรับ (ดูรุ่นที่รองรับ)

• Nokia / Panasonic / Sony Ericsson / I-Mobile / Samsung / LG / Motorola /

PDA & Pocket PC Dopod,HP,Laser,O2 / Asus / BenQ / Siemens / Innostream / Mitsubishi / Sagem

หมายเหตุ : เครื่องโทรศัพท์แต่ละรุ่นจะมีวิธีการเปิด MMS ที่แตกต่างกัน ดังนั้นหากมีปัญหาการเปิดดูข่าวผ่าน MMS

สามารถดูคู่มือการใช้งานโทรศัพท์รุ่นที่ท่านใช้อยู่ หรือสอบถาม Call Center ของโทรศัพท์ยี่ห้อที่ท่านใช้อยู่



AIS Call Center 1175 Nokia Careline 02-2552111

Sony Ericsson 02-2483030 Samsung 02-6893232

Motorola 02-3518666 Panasonic 02-7319940

I-Mobile 02-9755555 LG 02-8785757


เงื่อนไขการให้บริการ

1. ผู้ที่สนใจใช้บริการ MMS INN Hot News จะต้องเปิดบริการ MMS กับทางเครือข่าย AIS ก่อนโดย ส่งรูปภาพ

จากเครื่องโทรศัพท์ของท่านไปที่ 99099 (ไม่เสียค่าใช้จ่าย)

2. การสมัครบริการ AIS กด *452288811 แล้วโทรออก

2 .การต่ออายุสมาชิก

2.1 ระบบ Post Paid ระบบจะส่งข้อความแจ้งวันหมดอายุ ล่วงหน้า 2 วัน ถ้าท่านต้องการยกเลิกบริการ กด *452288899 แล้วโทรออก

แต่หากท่านไม่กดยกเลิก ระบบจะทำการต่ออายุให้โดยอัตโนมัติ

2.2 ระบบ Pre-paid ระบบจะส่งข้อความแจ้งวันหมดอายุ ล่วงหน้า 2 วัน ถ้าท่านต้องการยกเลิกบริการ กด *452288899 แล้วโทรออก

แต่หากท่านไม่กดยกเลิก ระบบจะทำการต่ออายุให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งหากมีเงินคงเหลือไม่เพียงพอต่อการชำระค่าบริการ ภายใน 30 วัน ระบบจะทำการยกเลิกให้โดยอัตโนมัติเช่นกัน


3.การชำระค่าบริการ

3.1 Pre Paid => ระบบตัดค่าบริการทันทีหากมีการกดสมัครบริการ

3.2 Post Paid => ระบบตัดค่าบริการตามรอบบิลของท่าน


4. การยกเลิกบริการระหว่างเดือน จะมีผลระงับบริการให้ในวันรุ่งขึ้น โดยขอสงวนสิทธิ์ในการคืนค่าบริการ ส่วนที่เหลือของเดือนนั้น



Q&A

Q : MMS INN Hot News เป็นบริการแบบใด

A : บริการข่าวด่วนผ่าน MMS ทุกวัน วันละ 3 ครั้ง



Q : หากท่านต้องการสอบถามว่าโทรศัพท์มือถือของตน สามารถรับบริการ MMS INN Hot News ได้หรือไม่ สามารถติดต่อที่ได้ที่ใด

A :ติดต่อสอบถามได้ที่ AIS Call Center โทร. 1175



Q : สมัครบริการ MMS INN Hot News ได้อย่างไรบ้าง

A : MMS INN Hot News มีวิธีการสมัครดังนี้ AIS สมัครบริการ กด *452288811 แล้วกดโทรออก



Q : หากท่านสมัครใช้บริการ MMS INN Hot News แล้วยังไม่ได้รับข้อความภายใน 24 ชั่วโมง สามารถติดต่อแจ้งปัญหาได้ที่ใด

A :ติดต่อสอบถามได้ที่ AIS Call Center โทร. 1175



Q : MMS INN Hot News มีค่าบริการรายเดือนเท่าไร

A : 49 บาท/เดือน (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)



Q : รับบริการข่าว MMS INN Hot News เสียค่าบริการ GPRS ในการรับ MMS หรือไม่

A : ผู้ใช้บริการ MMS INN Hot News ไม่เสียค่าบริการ GPRS แต่หากมีการ Forward MMS ดังกล่าวไปยัง เลขหมายอื่น

จะต้องเสียค่าบริการ ตามอัตราค่าบริการของแต่ละเครือข่าย



Q : MMS INN Hot News มีวิธีการยกเลิกบริการอย่างไร

A : AIS ยกเลิกบริการกด *452288899 แล้วกดโทรออก



Q : หากท่านรับบริการ MMS INN Hot News และได้รับ MMS ไม่สมบูรณ์เกิดจากสาเหตุใด

A : การที่ท่านได้รับ MMS ไม่สมบูรณ์ อาทิ ได้รับภาพและข้อความ แต่ไม่มีเสียง หรือ ได้รับข้อความและเสียงแต่ไม่มีภาพ

หรือปัญหาอื่นๆ อาจเกิดจาก Memory ของโทรศัพท์เต็ม ดังนั้นขอให้ท่านตรวจสอบ Memory ของโทรศัพท์ก่อน

และทำการลบข้อความ หากยังไม่ได้รับ MMS ที่สมบูรณ์ท่านสามารถสอบถาม ได้ที่ AIS Call Center โทร.1175



Q : ต้องการสอบถามเกี่ยวกับบริการ MMS INN Hot News สามารถติดต่อได้ที่ใด

A : ติดต่อสอบถามได้ AIS Call Center โทร. 1175



Q : หากใช้บริการโทรศัพท์เครือข่ายอื่นๆ นอกจาก AIS สามารถสมัครบริการ MMS INN Hot News ได้หรือไม่

A :ขณะนี้เปิดให้บริการ MMS INN Hot News เฉพาะเครือข่าย AIS เท่านั้น ในอนาคตจะทำการขยายไปยังเครือข่ายอื่นๆ

จะประชาสัมพันธ์ให้ทราบอีกครั้ง

วันเสาร์, ตุลาคม 30, 2553

ปริญญาสองใบ...น่าอ่าน

ที่เมืองไทยปีที่แล้วมีข่าวเกรียวกราวมาก

คือมีดาราคนหนึ่งซึ่งมีชื่อดังมาก

เป็นคนดำเนินรายการคนค้นคน

ดร.อภิวัฒน์ วัฒนางกูร

มาเรียนที่อเมริกา

เป็นคนเพอร์เฟคชั่นนิส

ทำงานทุกอย่างต้องดูดีที่สุด แม้กระทั้งล้างจาน

ล้างเสร็จแล้วแกต้องเอามาดมดู

ว่าสะอาดจริงมั้ย

กลับไปเมืองไทยก็ไปเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย

มีแฟนก็จีบดาวมหาวิทยาลัยเลย

ต้องให้ดีที่สุด

เวลาแกไปเสนองานอะไรต่าง ๆ เขียนไว้สามแผน

แผนที่หนึ่งลูกค้าไม่ซื้อ

แกเสนอแผนที่สอง

แผนที่สองลูกค้าไม่ซื้อแกเสนอแผนที่สาม

ใครไปดีลงานกับแกติดทุกราย แกมีบ้าน

มีรถ มีลูก มีภรรยา มีธุรกิจ

มีชื่อเสียงทุกอย่าง แกมีทุกอย่าง

หลังจากที่ทำงานแบบไม่ได้พักเลย วันหนึ่งแกไปพัก

ที่ปากช่อง ตื่นขึ้นมากลางวันล้มฟุ๊บลงไป

ภรรยาพาเข้าโรงบาล ตรวจพบมะเร็ง

พอพบปุ๊บเป็นระยะสุดท้ายเลย จริง ๆ เค้าก็เตือนตลอด

แต่พอไม่มีเวลาไปตรวจมันก็แก้ไม่ได้

แกไปนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล

แล้วก็สารภาพให้รายการคนค้นคน บันทึกชีวิตแก

ก่อนจะเสียชีวิต แกก็ไปนอนให้พ่อแม่เช็ดเนื้อเช็ดตัว

แกก็บอกว่าสังเวชตัวเองมากแทนที่ลูกจะได้ดูแลพ่อแม่

กลับมาเป็นว่าพ่อแม่ต้องมาดูแลลูก

ก่อนจะเสียชีวิตแกให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์คมชัดลึกบอกว่า

พ่อผมเคยบอกว่าเกิดเป็นคนต้องได้ปริญญาสองใบ

ปริญญาใบที่หนึ่ง ' ปริญญาวิชาชีพ '

เราจะต้องทำมาหากินเป็น กินอิ่ม นอนอุ่น

พูดง่าย ๆ ล้วงไปในกระเป๋าแล้วมีเงินใช้ อยากจะนอนบ้านที่เป็นของตัวเอง นี้คือปริญญาวิชาชีพ

ปริญญาใบที่สอง ' ปริญญาวิชาชีวิต ' คือวิชาธรรมะ

สำหรับจะดูแลชีวิตให้ดำเนินอยู่ในทางสายกลาง



ซึ่งเป็นปริญญาใบที่สองที่พ่อแกบอกไว้

แกบอกว่า ผมสอบตกโดยสิ้นเชิง

ผมเป็นดอกเตอร์จากอเมริกาได้ปริญญาวิชาชีพ

แต่ปริญญาวิชาชีวิตสอบตก เพราะอะไร

เพราะทำงานจนป่วยตาย

ก่อนที่จะเสียชีวิตแกได้สารภาพว่าผมได้เตรียมทุกอย่าง

บ้าน รถ มอบมันให้กับลูกและภรรยา

แต่ในวันที่ผมมีทุกสิ่งทุกอย่าง

ผมกลับลืมมอบหนึ่งอย่างให้กับลูกและภรรยา

สิ่งนั้นคือสิ่งที่ผมลืมและทำให้ผมล้มเจ็บใหญ่ครั้งนี้

สิ่งที่ว่านี้คือผมลืมมอบตัวเองเป็นของขวัญให้กับลูกและเมีย

เพราะทำงานหนักจนกระทั่งป่วยตาย

นี่คือปริญญาวิชาชีวิต

ธรรมะเราจะต้องมี ถ้าเราไม่มีธรรมะ

เราจะกลายเป็นหุ่นยนต์เท่านั้นเอง

ที่ทำงานแทบล้มประดาตายแล้วสุขภาพไม่ดี

ดังนั้นเมื่อเราทุกคนทำงานแล้ว

อย่าลืมชั่วโมงสุขภาพของตัวเองในแต่ละวันนะ

แต่ละวันควรจะมี ให้ดูแลตัวเอง

ดูจิต ดูใจตัวเอง ว่าเรา เอ๊ะ มันทุกข์

มันทุกข์มากเกินไปรึเปล่า

แบกเรื่องโน้นเรื่องนี้ เกินไปหรือเปล่า

พยายามลดลงในแต่ละวัน ๆ

เพื่อที่ว่าอะไร

เพื่อที่ว่าเราจะได้ปริญญาสองใบในชีวิต

หนึ่งปริญญาวิชาชีพ

เราทำมาหากินจนประสบความสำเร็จร่ำรวยมั่งคั่ง

มีเงินมีทองใช้มีบ้านอยู่

แต่ต้องไม่ลืมปริญญาใบที่สอง

คือวิชาธรรมะ

สำหรับจะดูแลชีวิตให้ดำเนินอยู่ในทางสายกลาง

ไม่ทุกข์เกินไปไม่เดือนร้อนเกินไป

ทำอะไรให้พอดี พอดีอยู่ดีมีสุข

อยากเที่ยวให้ได้เที่ยว อยากพักให้ได้พัก

อยากทำบุญให้ได้ทำบุญ

ลูกหลานมาหา ก็ให้ได้มีเวลากับลูกกับหลานบ้าง

อย่าวิ่งไปจนซ้ายสุด ขวาสุด

และมารู้สึกตัวอีกที ก็ล้มเจ็บใหญ่ไม่ดี เพราะอะไร

เพราะว่าสิ่งสูงค่าทีสุดในชีวิตของเรา

เคยมีคนไปทูลถามพระพุทธเจ้า

ว่าอะไรคือสิ่งสูงค่าที่สุด บางคนก็ตอบเงิน

บางคนก็ตอบเพชร บางคนก็ตอบทอง

บางคนก็ตอบอำนาจ บางคนก็ตอบราชบัลลังก์

พระพุทธเจ้าบอกไม่ใช่ สิ่งสูงค่าที่สุดในชีวิตของพวกเธอคือสุขภาพและชีวิต

สุขภาพก็คือการที่เราไม่เจ็บไข้ได้ป่วย

คนที่สุขภาพดีดื่มน้ำธรรมดาก็อร่อยนะ

และก็ชีวิตของเรา
..................ไม่มีใครทำให้คนทุกคนรักเราได้.....................

.......อาจจะมีคนชอบในตัวเรา10คน แต่ก็มีคนเกลียดเรา100คน........

...............แคร์คนที่แคร์เรา ไม่แคร์คนที่ไม่แคร์เรา..............

..............มีมิตรแท้เพียงหนึ่ง ดีกว่ามีเพื่อนกินเป็น100.............

สุดมือสอยก็ปล่อยมันไป

เมื่อคุณชี้แจงไปแล้ว เขาก็ควรจะยอมรับฟัง แต่เมื่อเขาไม่ฟัง และคุณก็ได้ทำหน้าที่ของตนเองอย่างดีที่สุดไปแล้ว ก็คงต้อง “ปล่อยมันไป”

ในโลกนี้ มีเรื่องอะไรต่อมิอะไรหลายอย่างที่เราไม่สามารถให้เวลากับมัน หรือไม่สามารถทำในสิ่งนั้นให้ดีที่สุด แต่แล้วเราก็ต้องปล่อยให้สิ่งเหล่านั้นผ่านไป เพราะหากเรามัว แต่จะ“นับเม็ดทรายในแม่น้ำคงคา” เวลาของคุณคงไม่พอเป็นแน่

(มีความหมายว่า จะพยายามทำให้คนทั้งโลกรู้สึกพอใจตัวเองในทุกเรื่อง)

ดังนั้น ทำอะไรก็ตาม ควรทำเท่าที่เราทำได้ เมื่อทำอย่างดีที่สุดแล้ว คนเขาไม่เห็นว่าดีก็ต้อง “ปล่อยมันไป”

เลือกทำในสิ่งที่เห็นว่า เราถนัดที่สุด และมีความสุขที่จะทำก็พอแล้ว

อะไรก็ตาม ที่เราไม่ถนัด หรือถึงถนัด...แต่ไม่มีความสุขที่จะทำ ก็อย่าทำ

เรามีเวลาไม่มากนักหรอกที่จะแบกสารพัดภาระในโลกนี้ ควรมองไหล่ของตัวเองดูสักหน่อยว่า พร้อมจะแบกเป้หลังที่มีน้ำหนักมากน้อยเพียงใด อย่าแบกอะไรที่เกินกำลังของตัวเองเพราะไม่เพียงแต่มันจะทำให้คุณเป็นทุกข์ แต่บางทีอาจมีผลต่อการยืนตรงๆ อย่างยาวนานของคุณด้วย
ราชบัณฑิตยสถาน แบ่งประเทศไทยออกเป็น 6 ภาค โดยใช้เกณฑ์ด้านภูมิศาสตร์[2] ซึ่งเป็นการแบ่งที่ใช้อย่างเป็นทางการ และมีใช้ทั่วไปในแบบเรียน


ภาคเหนือ มี 9 จังหวัด

1.จังหวัดเชียงราย

2.จังหวัดเชียงใหม่

3.จังหวัดน่าน

4.จังหวัดพะเยา

5.จังหวัดแพร่

6.จังหวัดแม่ฮ่องสอน

7.จังหวัดลำปาง

8.จังหวัดลำพูน

9.จังหวัดอุตรดิตถ์


ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มี 19 จังหวัด

1.จังหวัดกาฬสินธุ์

2.จังหวัดขอนแก่น

3.จังหวัดชัยภูมิ

4.จังหวัดนครพนม

5.จังหวัดนครราชสีมา

6.จังหวัดบึงกาฬ (รอการจัดตั้งอย่างเป็นทางการตามพระราชบัญญัติจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. 25..)

7.จังหวัดบุรีรัมย์

8.จังหวัดมหาสารคาม

9.จังหวัดมุกดาหาร

10.จังหวัดยโสธร

11.จังหวัดร้อยเอ็ด

12.จังหวัดเลย

13.จังหวัดสกลนคร

14.จังหวัดสุรินทร์

15.จังหวัดศรีสะเกษ

16.จังหวัดหนองคาย

17.จังหวัดหนองบัวลำภู

18.จังหวัดอุดรธานี

19.จังหวัดอุบลราชธานี

20.จังหวัดอำนาจเจริญ


ภาคกลาง มี 21 จังหวัด (กรุงเทพมหานครไม่ถือเป็นจังหวัด)



1.จังหวัดกำแพงเพชร

2.จังหวัดชัยนาท

3.จังหวัดนครนายก

4.จังหวัดนครปฐม

5.จังหวัดนครสวรรค์

6.จังหวัดนนทบุรี

7.จังหวัดปทุมธานี

8.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

9.จังหวัดพิจิตร

10.จังหวัดพิษณุโลก

11.จังหวัดเพชรบูรณ์

12.จังหวัดลพบุรี

13.จังหวัดสมุทรปราการ

14.จังหวัดสมุทรสงคราม

15.จังหวัดสมุทรสาคร

16.จังหวัดสิงห์บุรี

17.จังหวัดสุโขทัย

18.จังหวัดสุพรรณบุรี

19.จังหวัดสระบุรี

20.จังหวัดอ่างทอง

21.จังหวัดอุทัยธานี


ภาคตะวันออก มี 7 จังหวัด


1.จังหวัดจันทบุรี

2.จังหวัดฉะเชิงเทรา

3.จังหวัดชลบุรี

4.จังหวัดตราด

5.จังหวัดปราจีนบุรี

6.จังหวัดระยอง

7.จังหวัดสระแก้ว


ภาคตะวันตก มี 5 จังหวัด

1.จังหวัดกาญจนบุรี

2.จังหวัดตาก

3.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

4.จังหวัดเพชรบุรี

5.จังหวัดราชบุรี


ภาคใต้ มี 14 จังหวัด


1.จังหวัดกระบี่

2.จังหวัดชุมพร

3.จังหวัดตรัง

4.จังหวัดนครศรีธรรมราช

5.จังหวัดนราธิวาส

6.จังหวัดปัตตานี

7.จังหวัดพังงา

8.จังหวัดพัทลุง

9.จังหวัดภูเก็ต

10.จังหวัดระนอง

11.จังหวัดสตูล

12.จังหวัดสงขลา

13.จังหวัดสุราษฎร์ธานี

14.จังหวัดยะลา

วันพุธ, ตุลาคม 27, 2553

เธอคือดวงใจของฉัน

ใครอาจจะไม่เข้าใจ


ว่าความสัมพันธ์ของเรานั้นมันเป็นเช่นไร

และใครอาจจะเข้าใจผิด

และคงคิดไปและคงเข้าใจตามที่เห็น


* คงมีเพียงเราสองคน ท่ามกลางหมู่ดาวมากมาย ที่รู้กันในใจ

มันจำเป็นด้วยหรือ ที่ต้องอยู่ในกฎเกณฑ์

ที่ใครบางคนกำหนดว่ารักเป็นอย่างไร


** ไม่ต้องรู้ว่าเราคบกันแบบไหน

ไม่อาจหาคำๆไหนมาเพื่ออธิบาย

ไม่ต้องรักเหมือนคนรักก็สุขหัวใจ

เพียงแค่เราเข้าใจ ก็เหนือคำอื่นใดในโลกนี้


เราอาจจะแยกกันอยู่ ไม่นอนด้วยกันทุกคืนทุกวันอย่างคู่ใคร

อย่างน้อยมีเธอที่เข้าใจ แม้จะไม่มีผู้ใดเข้าใจความ

วันพุธ, กันยายน 15, 2553

สมเด็จพระสังฆราชสุก ไก่เถื่อน

พระอาจารย์ของสมเด็จโต พรหมรังสี

คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: 2.jpg
Views: 70
Size: 185.6 KB
ID: 543110   คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: สมเด็จพุฒาจารย์.JPG
Views: 47
Size: 26.2 KB
ID: 543111  
 
สมัยเมื่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (พระอาจารย์โต พรหมรังสี) ท่านบวชเป็นพระภิกษุใหม่ ๆ ยังไม่มีสมณศักดิ์ใดๆ นั้น ท่านเรียนพระปริยัติจนแตกฉานที่วัดมหาธาตุ สนามหลวง โดยมีพระสังฆราชสุกไก่เถื่อน เป็นพระอาจารย์ วิธีการเรียนของท่านก็แปลกกว่าวิธีของพระภิกษุรูปใด ๆ นั่นคือ ท่านจะกำหนดล่วงหน้ามาว่า วันนี้ท่านจะเรียนจากหน้าไหนถึงหน้าไหนในหนังสือ พอมาถึงสำนักเรียน ก็จะเปิดหนังสือออกแล้วแปลไปเรื่อยโดยไม่ติดขัดจนจบหน้าที่กำหนดไว้ ต่อหน้าพระพักตร์สมเด็จพระสังฆราชสุกฯ พอจบท่านก็กราบแล้วกลับวัดระฆัง จนกระทั่งวันหนึ่ง สมเด็จพระสังฆราชสุก ฯ มีรับสั่งว่า

“พอแล้ว หยุดเรียนเสียที คุณแตกฉานพอแล้ว” เจ้าอาวาสวัดระฆัง คือสมเด็จพระพุทธโกษาจารย์ (นาค) สงสัยเห็นภิกษุโต ไม่ข้ามไปเรียนที่วัดมหาธาตุอีก ท่านก็ร้อนใจข้ามฝั่งมาเฝ้าสมเด็จพระสังฆราชสุกฯ เพื่อถามสาเหตุ สมเด็จพระสังฆราชสุกฯ มีรับสั่งว่า'

“ขรัวโต ลูกศิษย์เธอ เขามาแปลหนังสือให้ฉันฟัง เขาไม่ได้มาเรียนหนังสือกับฉันหรอก”

นี่แสดงถึงภูมิปัญญาของสมเด็จโตฯ ว่าเลิศเพียงใด และเมื่อไม่ได้ข้ามฝั่งไปเรียนพระปริยัติแล้ว ท่านก็เรียนด้วยตัวเองของท่านเองโดยวิธีพิศดารคือ ตอนสายของทุกวัน หลังจากเสร็จกิจทำวัตรแล้ว ท่านจะถือหนังสือเข้าไปในพระอุโบสถวัดระฆัง ไปถึงก็วางหนังสือกับพื้น แล้วกราบพระประธาน ๓ ครั้ง จากนั้นก็หยิบหนังสือออกมากาง เปิดหน้าที่กำหนดไว้แล้วแปลเรื่อยไปจนจบ ท่านก็ปิดหนังสือก้มกราบพระประธาน ๓ ครั้ง แล้วกลับขึ้นกุฏิ ท่านแตกฉานในพระปริยัติอย่างยิ่ง แต่ท่านไม่เคยคิดเข้าสอบเอาเปรียญ แต่กลับมุ่งศึกษาทางด้านวิปัสสนาธุระ ซึ่งสมัยก่อนผู้ที่ศึกษาทางด้านนี้ก็มักจะมีชื่อเสียงทางด้านวิปัสสนาธุระ ที่เต็มไปด้วยคาถาอาคม มีอภินิหารมหัศจรรย์ที่แสดงออกด้วยอิทธิวัตถุมงคลเครื่องรางของขลัง ที่ท่านได้สร้างกันขึ้น

ในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีสมเด็จพระสังฆราชฝ่ายขวาและฝ่ายซ้าย ฝ่ายขวาสถิตที่วัดมหาธาตุ จะแตกฉานทางด้านคันถธุระหรือทางด้านปริยัติ ส่วนฝ่ายซ้ายจะสถิต ณ วัดป่าแก้ว ซึ่งเชี่ยวชาญทางวิทยาคม มีเวทมนต์คาถาศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งสมัยนั้น มีเกจิอาจารย์สำคัญที่มีชื่อจารึกอยู่ในประวัติศาสตร์ อาทิ หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด สมเด็จพระวันรัต (วัดป่าแก้ว) ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นต้น

ซึ่งการศึกษาด้านวิปัสสนาธุระของพระภิกษุสงฆ์ไทยนั้น ได้สืบทอดมาจนถึงรัชกาลที่ ๒ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระองค์ทรงโปรดส่งเสริมการศึกษาทางด้านนี้มาก (สายวิชชากรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ) ได้เจริญรุ่งเรื่องที่สุดในสมัยรัชกาลที่ ๒ สมเด็จโตฯ ผู้สร้างพระเครื่องพระสมเด็จอันเลื่องลือยิ่งนักนั้น ท่านก็ได้ศึกษาด้านวิปัสสนาธุระมาอย่างเชี่ยวชาญ ท่านเก่งทั้งทางคันถธุระและวิปัสสนาธุระ เรียนพระปริยัติจนไม่มีอาจารย์สอนได้ และเก่งวิปัสสนา ซึ่งหาได้ยากยิ่งในพระภิกษุรูปเดียวกัน เพราะปกติทั่วไป มักจะเก่งคนละอย่าง ไม่มีพระภิกษุรูปใดที่เก่งทั้ง ๒ ด้านเฉกท่าน

พระอาจารย์ที่สอนวิทยาคมให้แก่สมเด็จโตฯ องค์แรก ตั้งแต่สมัยที่ท่านยังเป็นสามเณรอยู่ก็คือ พระอริญญิก (แก้ว) เจ้าอาวาสวัดอินทรวิหาร พระอาจารย์องค์ต่อมาคือ สมเด็จพระสังฆราชสุก ไก่เถื่อน ที่ท่านได้สมญานามนี้ เพราะท่านสามารถแผ่เมตตาจนกระทั่งไก่ป่าที่เปรียวและตื่นง่าย เชื่องเป็นไก่บ้านเข้ามาจิกข้าวที่ท่านเสกให้กินได้ สมัยนั้นสมเด็จพระสังฆราชสุก ไก่เถื่อน มีชื่อเสียงเลื่องลือมาก ท่านทรงเป็นพระกรรมวาจารย์ของ รัชกาลที่ ๒ และเป็นอุปัชฌาจารย์ของ รัชกาลที่ ๓ และรัชกาลที่ ๔ เมื่อทรงผนวชเป็นสามเณรด้วย

คัดจาก : หนังสือ “ประวัติสมเด็จโตฯ” จากบันทึกของมหาอำมาตย์ตรี พระยาทิพโยธา (สอน โลหนันท์) และหนังสือ “อภินิหาร สมเด็จโตฯ” โดย ฟ้า วงศ์มหา, ปราโมทย์ ทัศนาสุวรรณ

วันจันทร์, กันยายน 13, 2553

นพ. สุพล เจริญจิตต์กุล

นพ. สุพล เจริญจิตต์กุล



ความชำนาญพิเศษ : อายุรกรรมสมองและระบบประสาท


เฉพาะทาง : โรคพาร์กินสัน และการเคลื่อนไหวผิดปกติ


เพศ : ชาย


ที่ตั้ง : รพ กรุงเทพ


ภาษา : ไทย, อังกฤษ


ความสนใจพิเศษ : โรคพาร์กินสัน และการเคลื่อนไหวผิดปกติ, โรคปวดศีรษะ



การศึกษา :


2002 อนุมัติเวชศาสตร์ครอบครัว, / มหาวิทยาลัยมหิดล


2001 Clinical Fellow in Parkinson and Movement Disorder, / Institute of Neurology University of London, UK


2000 Diplomate in Clinical Neurology, / Institute of Neurology University of London, UK


1991 วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญสาขาอายุรกรรมประสาท, / สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์


- ประกาศนียบัตรชั้นสูงทางคลีนิก สาขาอายุรศาสตร์ / มหาวิทยาลัยมหิดล


- แพทยศาสตร์บัณฑิต, / Fatima College of Medicine, Philippines



ตารางออกตรวจ :


อาทิตย์ 08:00 - 12:00


จันทร์ 08:00 - 15:00


อังคาร 08:00 - 15:00


พุธ 08:00 - 12:00


พฤหัสบดี 08:00 - 12:00


ศุกร์ 08:00 - 15:00

วันจันทร์, สิงหาคม 30, 2553

การ์ตูนทศชาติชาดก พระเวสสันดร

การ์ตูนทศชาติชาดก พระวิธูรบัณฑิต

การ์ตูนทศชาติชาดก พระนารทฤาษี

การ์ตูนทศชาติชาดก พระนารทฤาษี

การ์ตูนทศชาติชาดก พระจันกุมาร

การ์ตูนทศชาติชาดก พระภูริทัตต์

การ์ตูนทศชาติชาดก พระมโหสถ

การ์ตูนทศชาติชาดก พระเนมิราช

การ์ตูนทศชาติชาดก พระมหาชนก

การ์ตูนทศชาติชาดก พระเตมีย์

MV รักเธอชั่วนิรันดร์ - OST. Hiroshima Sky

รักเธอชั่วนิรันดร์ OST.ฟ้ากับตะวัน

อยู่ตรงนี้ ที่มีเธอ


แค่มองหันมาก็เจอ ได้เจอะหน้ากัน

แต่คงไม่มีวันเวลาใดๆเลย วันเวลาที่สองใจ

จะหันมา เข้าหากัน


หากว่าเธอ ใกล้เข้ามา

ความรักมันยิ่งผ่านให้เกิดเหงาใจ

ยิ่งต้องคอยแกล้งทำเย็นชา ไม่คิดอะไร

คุยไปพลาง ก็ช้ำไปพลาง

เหมือนว่ารักระหว่างเรา ไม่เคยมี


หากฟ้านั้นยืนเคียงคู่ตะวัน รักของฉันและเธอก็คงเหมือนเก่า

ได้แค่มองเป็นของคู่กัน แต่ไม่เคยจะอยู่ร่วมกัน

ได้แค่ผ่านกันไป แล้วมอง

ได้แค่มองกลับมาแล้วถอนใจ

เมื่อไรที่สองเราจะเข้าใจ เมื่อไรจะเข้าใจ


หากว่าเธอ ใกล้เข้ามา

ความรักมันยิ่งผ่านให้เกิดเหงาใจ

ยิ่งต้องคอยแกล้งทำเย็นชา ไม่คิดอะไร

คุยไปพลาง ก็ช้ำไปพลาง

เหมือนว่ารักระหว่างเรา ไม่เคยมี


หากฟ้านั้นยืนเคียงคู่ตะวัน รักของฉันและเธอก็คงเหมือนเก่า

ได้แค่มองเป็นของคู่กัน แต่ไม่เคยจะอยู่ร่วมกัน

ได้แค่ผ่านกันไป แล้วมอง

ได้แค่มองกลับมาแล้วถอนใจ

เมื่อไรที่สองเราจะเข้าใจ เมื่อไรจะเข้าใจ


มองเป็นของคู่กัน แต่ไม่เคยจะอยู่ร่วมกัน

ได้แค่ผ่านกันไป แล้วมอง

ได้แค่มองกลับมาแล้วถอนใจ

เมื่อไรที่สองเราจะเข้าใจ รักกันชั่วนิรันดร์

วันเสาร์, สิงหาคม 28, 2553

โรงพยาบาลธรรมชาติ‏

 ๑. ไขมันในเลือดสูง แทนที่จะหายามากินให้ปวดหัว ตับพังก็หากระเทียมสดมากินสักวันละ ๑๐ กลีบกับกินหอมหัวใหญ่สดวันละครึ่งหัว

๒. ปวดหัว ให้หาผักคะน้าหรือปวยเล้ง (แมกนีเซียม) กินวันละ ๕ ขีดและกินปลาทูอีกวันละ ๒ ตัว (น้ำมันปลาลดการอักเสบได้) หรือจะชงโกโก้กินหน่อยก็ช่วยได้ค่ะ

๓. เป็นหวัด ไอ จามบ่อย ให้หมั่นแปรงลิ้นและกินกระเทียม, หอม, พริกให้มากเข้าไว้

๔. ภูมิแพ้ แค่กินฝรั่งวันละ ๕ ชิ้นกับเมล็ดฟักทองวันละ ๑ กำมือ (สังกะสี)

๕. แพ้ฝุ่นละออง ไรฝุ่น หาโยเกิร์ตแบบรสธรรมชาติและนมเปรี้ยวไม่หวานจัดมากิน

๖. โรคหืดหอบ ไอเรื้อรัง กินต้มยำไก่, กินหัวหอมใหญ่, หอมแดง, ต้นหอมและเอาหอมซุกไว้ใต้หมอน

๗. นอนไม่หลับ ตักน้ำผึ้งกินก่อนนอนสักวันละ ๒ ช้อนโต๊ะ ถ้าหาน้ำผึ้งไม่ได้ใช้น้ำตาลทราย ๒ ช้อนโต๊ะแทน ถ้าอยากให้หลับสบายเพิ่มเติมขี้เหล็กและมะรุมเข้าไปหน่อย

๘. ไขข้ออักเสบ หาปลาเนื้อมันกินวันละ ๒ ขีด เช่นปลาทู, ปลาสวาย, ปลาแซลม่อน, ปลาซาร์ดีน, ปลาทูน่าหรือแม้แต่ปลากระป๋อง

๙. กระเพาะปัสสาวะอักเสบบ่อย ให้กินน้ำกระเจี๊ยบไม่หวานจัดวันละ ๓ มื้อ หรือน้ำแครนเบอรี่ของฝรั่งในปริมาณเท่ากัน ( เปรี้ยวจัดมาก)

๑๐. ท้องอืด แก๊สมาก ให้กินกล้วยหักมุกปิ้งหรือขิงบ่อย ๆ

๑๑. ท้องผูก ชงน้ำผึ้งดื่มวันละ ๓ ช้อนโต๊ะและให้กินน้ำมะขามต้มติดเนื้อมาก เช้า เย็น

๑๒. โรคกระเพาะอาหาร หากล้วยหักมุกปิ้งกิน, กินกล้วยหรือกินผักกระ หล่ำปลีให้มาก

๑๓. เวียนหัว คลื่นไส้ง่าย ให้หาอาหารทำจากขิงรับประทาน เช่น ปลาผัดขิง ไก่ผัดขิง, น้ำขิง, ชาขิงหรือเต้าฮวย

๑๔. วัยทอง วูบวาบ อารมณ์ปรวน ให้กินปลาทูน่าให้มากและกินเต้าหู้เหลืองวันละ ๑ แผ่น ถ้ากินเต้าหู้แล้วเบื่อให้สลับกับถั่วลิสงวันละ ๑ กำมือก็ได้

๑๕. หงุดหงิดง่าย ให้กินอาหารร่าเริง คือ ข้าวเหนียวดำ ข้าวโพด กลอย กล้วยหอมและปลาทูน่า

๑๖. กระดูกพรุน ให้กินงาดำวันละ ๔ ช้อนโต๊ะ (ได้แคลเซียมเท่ากับเม็ดใหญ่) มะม่วงจิ้มกะปิและสับปะรดซึ่งมีธาตุสมานกระดูดอยู่มาก ( แมงกานีส)

๑๗. ความจำไม่ดี ให้กินปลาทูวันละ ๒ ขีด หอยแครงและหอยนางรมซึ่งมีธาตุสังกะสีช่วยสมองได้

๑๘. มะเร็งเต้านม ให้กินบร็อคโคลีหรือคะน้าวันละ ๕ ขีด

๑๙. มะเร็งปอดทางเดินหายใจ ให้กินเสาวรส ฝรั่ง ส้ม มะนาว มะขามป้อม มะละกอ มะม่วง ให้มาก เพราะวิตามินซีช่วยสมานหลอดเลือดในปอดได้ดี แต่ต้องระวังวิตามินเอโดยเฉพาะผู่ที่ยังสูบบุหรี่อยู่

๒๐. ท้องเสีย ลำไส้แปรปรวน กินแอปเปิ้ลเขียววันละ ๑-๒ ผล หรือน้ำแอปเปิ้ลเขียวปั่นทั้งกาก จะเป็นการล้างพิษในตัวด้วย

๒๑. เจ็บอก โรคหัวใจ หลอดเลือดตีบ กินปลาทะเล น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิน ผลอโวคาโดเพราะเหล่านี้มีไขมันดีไปช่วยขับตะกรันน้ำมันเก่าออก ถ้าชอบดื่มชาให้หาชาเขียวสดมาชงดื่มเองวันละถ้วย

๒๒. ความดันสูง ต้องตัดบุหรี่และอาหารเค็ม ลองหาข้าวโอ๊ตไม่ขัดสีมากินและผักขึ้นฉ่ายสดหรือปั่นก็ได้ จะช่วยคุมความดันให้ดีขึ้น

๒๓. เบาหวนถามหา ให้เลี่ยงแป้งกับน้ำตาลและกินผักเขียวจัดอย่างคะน้า บร็อคโคลี ผักโขมให้มาก ถ้าอยากหวานให้กินส้มโอและฝรั่งเพราะมีน้ำตาลอยู่น้อยมาก

วันอังคาร, สิงหาคม 24, 2553

วนิดา

 พันตรี ประจักษ์ มหศักดิ์ (เจษฎาภรณ์ ผลดี) ถูกเชื้อเชิญจากเสด็จในวังให้ลงแข่งกีฬาขี่ม้าโปโล เพื่อให้ราชนิกูลชั้นสูงได้มาแข่งขันประลองกำลัง ฝีมือในการขี่ม้าโปโลของประจักษ์เป็นที่โจษจันไปทั่วว่าเก่งฉกาจ เพราะเขาเป็นถึงหัวหน้าทหารม้ารักษาพระองค์ พิสมัย (รินลณี ศรีเพ็ญ) ว่าที่คู่หมั้นของประจักษ์ และเป็นคุณข้าหลวงของเสด็จ ภูมิใจในตัวประจักษ์ยิ่งนัก ซ้ำยังชอบโอ้อวดว่าเธอกับประจักษ์จะแต่งงานกันในเร็ววันนี้

อีกด้านหนึ่ง ไม่ใกล้ไม่ไกลกันนั้น วนิดา วงศ์วิบูลย์ (ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ) กำลังหัดขับรถเป็นครั้งแรก เธอชวนเพื่อนซี้อย่าง สุมาลี(สิรีอัญ สิริไพศาลเอก) และ กัลยา(ธนีญา กิติธรรมนุภาพ) มาเป็นเพื่อนนั่งรถ สองสาวกลัวสุดขีดกรี๊ดกร๊าดไปตลอดทาง ทำเอาวนิดาสะดุ้งเป็นระยะๆ พาจะเฉี่ยว ชน หลายรอบ ทันใดนั้นมีรถสวนออกมา วนิดาไม่เห็นเลยชนเข้าให้อย่างจัง และเจ้าของรถที่วนิดาชนก็คือ ประจักษ์ มหศักดิ์

วนิดาหน้าเสียแต่ไม่ยอมรับผิด ทำให้ประจักษ์ไม่พอใจ และไม่ถูกชะตาวนิดาอย่างแรง !! (เพราะเข้าใจว่าผู้หญิงอย่างวนิดา เอะอะก็คงใช้เงินในการแก้ปัญหา) วนิดาหวังว่าจะไม่เจอผู้ชายคนนี้อีก แต่ผิดคาด วนิดากับประจักษ์มาพบกันอีกทีในสนามม้า วนิดากำลังขี่ม้าข้ามสิ่งกีดขวาง ดูสง่างาม มนตรี (พิษณุ นิ่มสกุล) เพื่อนสนิทกับประจักษ์ถึงกับอึ้งกิมกี่ เกิดความประทับใจ แต่ประจักษ์กลับไม่ชอบในความกล้าหาญ และ ก๋ากั่นของเธอ

วนิดาเป็นสาววัยแรกรุ่นเพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัยมาหมาดๆ ความสวยของเธอเป็นที่หมายปองของหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ แต่ไม่มีหนุ่มไหนที่สามารถเอาชนะใจเธอกับ นายดาว วงศ์วิบูลย์ (มนตรี เจนอักษร) พ่อของเธอไปได้ หนุ่มแต่ล่ะคนที่เข้ามาไม่ได้รักที่ตัววนิดา หากแต่รักที่เงิน ทำให้นายดาวกีดกันทุกวิถีทาง และกลัวเหลือเกินว่าลูกสาวจะเลือกคู่ผิด นายดาวจึงตัดสินใจที่จะหาสามีให้วนิดา และเมื่อเปิดค้นรายชื่อบรรดาลูกหนี้มากมายของเค้า เค้าก็สะดุดตากับคนๆ หนึ่งเข้า เค้าก็คือ ประจวบ มหศักดิ์ (สรวิชญ์ สุบุญ) น้องชายของประจักษ์นั่นเอง

นายดาว วงศ์วิบูลย์เรียกประจวบมาหาที่บ้าน พร้อมยื่นข้อเสนอว่าจะยกหนี้ทั้งหมดให้ ถ้าประจวบยอมแต่งงานกับวนิดา ดาวต้องการให้วนิดาได้เป็นฝั่งเป็นฝากับผู้รากมากดีตระกูลดังอย่าง “มหศักดิ์” ประจวบไม่ยอม นายดาวขู่ว่าถ้าประจวบไม่ตกลงแต่งงานกับลูกสาวของตน ก็จะฟ้องศาล เล่นงานให้ชื่อเสียงของมหศักดิ์ย่อยยับป่นปี้ทันทีที่เรื่องนี้รู้ถึงหูของคุณนายน้อม มหศักดิ์ (ดวงตา ตุงคะมณี) ลมก็แทบจับ เพราะเธอเกลียดตระกูลนี้หยั่งกับอะไรดี เรื่องเกิดมาตั้งแต่สมัยที่ มณฑา (เดือนเต็ม สาลิตุล)ย่าของวนิดา ผู้เป็นภรรยาสุดที่รักของพระยามหศักดิ์ธำรง (สุเชาว์ พงษ์วิไล) มณฑาเป็นกุลสตรีไทยที่เพียบพร้อม เป็นที่รักใคร่ของพระยามหศักดิ์ธำรงและคนอื่นๆ คุณนายน้อมอิจฉา จึงสร้างเรื่องโกหกว่ามณฑามีชู้ ทำให้พระยามหศักดิ์ธำรงค์โกรธ จึงขับไล่มณฑาออกจากบ้านมหศักดิ์ตัดขาดจากกัน มณฑาต้องไปอาศัยอยู่กับน้องชายซึ่งก็คือนายดาว

คุณนายน้อมยืนยันเสียงแข็งว่าจะไม่ขอร่วมวงพงศ์ไพรกับตระกูลวงศ์วิบูลย์เด็ดขาด และขอให้ประจักษ์ช่วย แต่น้องสร้างหนี้ไว้มากมาย จนประจักษ์ไม่อาจช่วยเหลือได้ ประจวบไม่อยากแต่งงาน เพราะมีคนรักอยู่แล้วคือ ปราณี (พิมพ์อักษิพร วินโกมินทร์) ประจวบตัดสินใจลาออกจากราชการ และ หนีลงใต้เพื่อไปหาเงินมาใช้หนี้ แต่นายดาวไม่ยอม ในเมื่อน้องชายหายตัวไป ก็ต้องให้พี่ชายอย่างประจักษ์แต่งงานกับวนิดาแทน ประจักษ์ปฏิเสธเสียงแข็ง แต่คุณนายน้อมเองที่กลัวชื่อเสียงวงศ์ตระกูลเสียหาย จึงเกลี้ยกล่อมให้ลูกชายยอมแต่งงาน เพื่อแก้ปัญหาไปก่อน ระหว่างที่รอประจวบหาเงินมาใช้หนี้ ประจักษ์จึงต้องเสียสละตัวเองเพื่อรักษาภาพพจน์ของตระกูลโดยการแต่งงานกับวนิดา

ด้านวนิดา...ทันทีที่รู้ข่าวจากนายดาวผู้เป็นพ่อก็เกิดอาการไม่พอใจ นายดาวพยายามเกลี้ยกล่อมและบอกว่าประจักษ์ชอบพอในตัววนิดาจึงให้ผู้ใหญ่มาสู่ขอ นายดาวบรรยายสรรพคุณของประจักษ์เสียจนดีเลิศ วนิดาโดนหว่านล้อมจนต้องตอบตกลงที่จะแต่งงานกับประจักษ์ ประจักษ์บอกข่าวนี้ให้กับพิสมัยว่าที่คู่หมั้นให้รับรู้ ทันทีที่พิสมัยรู้ก็ถึงกับหัวฟาดหัวเหวี่ยงไม่พอใจ และรู้สึกเสียหน้า เพราะใครๆ ก็รู้ว่าว่าที่ภรรยาของประจักษ์ในอนาคตคือเธอ ประจักษ์พยายามพูดโน้มน้าว ปลอบโยน และให้คำมั่นสัญญาว่าถ้าประจวบหาเงินมาใช้หนี้นายดาวหมดเมื่อไหร่ จะหย่ากับวนิดาทันที

ประจักษ์มาพบกับนายดาวอีกครั้งเพื่อตกลงกันก่อนที่พิธีแต่งงานจะถูกจัดขึ้น สิ่งที่นายดาวต้องการจากประจักษ์ก็คือ.....(1) ประจักษ์ต้องยินยอมให้วนิดาใช้นามสกุลมหศักดิ์ (2) ถ้ามีการหย่าร้างเกิดขึ้นระหว่างที่ประจวบยังใช้หนี้ไม่ครบ นายดาวมีสิทธิ์ฟ้องร้องต่อศาลได้ทันที ประจักษ์ตกลง ก่อนจะที่บอกความต้องการของตัวเองกลับไปเช่นกัน (1) เมื่อประจวบหาเงินมาใช้หนี้นายดาวจนครบ เค้าจะหย่าขาดกับเธอทันที (2) เค้าจะไม่ล่วงเกินวนิดา เค้ากับวนิดาจะแยกห้องนอนกัน (3) ไม่มีการจัดงานแต่งงานใหญ่โต ประกาศให้คนรู้ จะเลี้ยงกันแค่คนในครอบครัวเท่านั้น นายดาวตอบตกลงเช่นกัน ก่อนจะให้ประจักษ์ลงนามในสัญญาเอาไว้เป็นหลักฐาน

ในที่สุดวันแต่งงานก็มาถึง งานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย วนิดาแต่งกายด้วยชุดไทยเดินลงมา ทันทีที่ทั้งสองคนเจอหน้ากันก็แทบช็อค เพราะจำกันได้ว่าเคยเจอกันมาก่อน วนิดาเหวี่ยงใส่นายดาวทันทีจะยกเลิกงานแต่งงาน นายดาวจึงขอร้องให้ประจักษ์ไปปรับความเข้าใจกับวนิดาและขอโทษเรื่องที่ผ่านมา ประจักษ์จะไม่ยอม แต่พอโดนขู่เรื่องสัญญาก็ต้องจำยอม วนิดายอมเข้าพิธีแต่งงานต่อ

พิธีเสร็จประจักษ์จะพาวนิดากลับบ้านมหศักดิ์ ประจักษ์พอแต่งงานเสร็จ ก็หนีหน้าวนิดา ออกไปทำงานตลอด ทำให้วนิดาโมโหมาก เพราะไม่รู้เหตุผลของการแต่งงานครั้งนี้ หลังจากวันนั้น วนิดากับประจักษ์ ก็เป็นเหมือนไม้เบื่อไม้เมา ต่างไม่มีใครยอมใคร คุณนายน้อมกับพิสมัยกลับมาบ้านมหศักดิ์ ก็หาเรื่องกลั่นแกล้งวนิดา แต่เธอก็ไม่ยอมใครเหมือนกัน ทำให้คนกลางอย่างประจักษ์ต้องคอยห้ามทัพตลอด สุดท้ายประจักษ์ตัดสินใจย้ายไปอยู่บ้านพักทหารกับวนิดา วนิดาไม่ได้รู้สึกเหงาอะไร สนุกกับการทำบ้าน ทำสวน ปลูกผักผลไม้ ประจักษ์เริ่มเห็นความดีของวนิดาหลายๆอย่าง วนิดาได้ไปรู้จักกับสองพี่น้องที่ปลูกบ้านอยู่ในสวนหลังบ้านมหศักดิ์ คือ อำพัน (ศิระ แพทย์รัตน์) กับ อำไพ (พริมรตา เดชอุดม) แม่ของสองพี่น้องเคยเป็นคนรับใช้ของมณฑามาก่อน ทำให้ทั้งสองคนเข้ากับวนิดาได้ง่าย อำพันกับอำไพ รู้จักประวัติของบ้านมหศักดิ์เป็นอย่างดี และรู้ด้วยว่ามณฑาถูกกล่าวหาว่ามีชู้ วนิดาให้อำไพเล่าเรื่องสมัยที่ย่าเธออยู่ที่นี่ให้ฟัง ระหว่างที่ประจักษ์ไปทำงาน วนิดามักมาอยู่กับอำพัน อำไพที่บ้านสวน น้อมเห็นเข้าก็รีบใส่ไฟให้ประจักษ์ฟัง สร้างเรื่องว่าวนิดามีชู้ สนิทสนมกับอำพันจนเกินงาม ประจักษ์ไม่เชื่อ แต่ก็หึงที่วนิดาไปสนิทสนมกับผู้ชายคนอื่น ประจักษ์แสดงความเป็นเจ้าของวนิดามากขึ้น และเริ่มชวนวนิดาออกไปกินข้าว ดูหนัง ฟังเพลง ตามประสาสามี ภรรยา ทำให้วนิดาแปลกใจ แต่ป้าทอง จวง ไปล่ชอบใจ เพราะอยากให้วนิดากับประจักษ์รักชอบพอกันจริงๆ

อำพันต้องไปสัมมนาที่ชะอำ จึงชวนอำไพกับวนิดาไปด้วย วนิดาอยากไปอยู่แล้วเลยจะไปบอกประจักษ์ แต่กลับเห็นประจักษ์อยู่กับพิสมัยท่าทางเหมือนสวีทกันอยู่ วนิดาไม่พอใจ เลยเขียนจดหมายเสียบไว้ที่ประตู ก่อนจะ

ออกไปกับอำไพแต่เช้า น้อมเห็นจดหมายของวนิดาเข้าเลยแอบขโมยมาเก็บไว้ ทำให้ประจักษ์เข้าใจวนิดาผิด และรีบตามวนิดาไปชะอำ น้อมกับพิสมัยห้ามก็ไม่ฟัง

ประจักษ์มาถึงชะอำ จะลากวนิดากลับบ้าน แต่วนิดาไม่ยอมกลับ ประจักษ์เลยตัดสินใจค้างคืนด้วย ห้องพักมีอยู่แค่ห้องเดียวทำให้ทั้งสองคนต้องนอนห้องเดียวกัน ท่ามกลางความอึดอัดสุดๆ วนิดาแอบหนีไปขี่ม้าคนเดียว ประจักษ์ตามไป วนิดาเร่งหนีประจักษ์ทำให้ตัวเองตกม้า ม้าวิ่งหนี วนิดาหาทางกลับบ้านพักไม่เจอ วนิดาหลงทาง ประจักษ์เป็นห่วงวนิดาสุดๆ เขาไม่สนใจฟ้าฝนที่กำลังจะตกหนัก ขี่ม้าตามหาวนิดาจนต้นไม้หล่นทับเป็นไข้ วนิดาตามจนเจอพากลับมาดูแลรักษา ประจักษ์รู้สึกดีที่วนิดาห่วงใยดูแล ประจักษ์รู้หัวใจของตัวเอง ด้านพิสมัยก็คอยแกล้งและใส่ร้ายวนิดาจนประจักษ์เริ่มเห็นธาตุแท้ของอดีตคนรัก

วนิดากับประจักษ์เริ่มเปิดใจให้กัน จนน้อมทนไม่ไหว เลยวางแผนคิดจะรวบหัวรวบหางลูกชายให้พิสมัยในงานวันเกิดครบรอบ 60 ปีของตัวเอง น้อมรู้นิสัยของประจักษ์ดีว่าถ้าเกิดเรื่องไม่งามขึ้น ก็พร้อมจะรับผิดชอบ
ที่มา : http://www.thaitv3.com/

วันจันทร์, สิงหาคม 09, 2553

13 วิธี ในการเพิ่มความสุขให้กับชีวิต

การสร้างความสุขให้กับตนเอง จริงๆ แล้วทำไม่อยากหรอกครับ แต่ขึ้นอยู่กับว่า คนเราจะทำหรือปล่าวเท่านั้น วันนี้ผมมีข้อแนะนำมาฝาก สำหรับการสร้างความสุขให้ตนเองแบบง่ายๆ ลองทำดูนะครับ


1. ดื่มน้ำทุกชั่วโมง เวลาทำงานเรามักยุ่งจนลืมดื่มน้ำ ทางแก้คือ วางแก้วน้ำหรือขวดน้ำไว้ใกล้มือแล้วจิบบ่อยๆ พบว่าหากปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำจนน้ำหนักตัวลดลงแม้แค่ 2 เปอร์เซ็นต์ จะมีผลให้ให้ความจำระยะสั้นและทักษะการแก้ปัญหาลดลง เมื่อไรที่รู้สึกกระหายน้ำ นั่นคือสัญญาณเตือนว่าขาดน้ำแล้ว



2. ยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เสมอ แต่ต้องเป็นรอยยิ้มที่มาจากใจด้วยนะ เพราะจะช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองส่วนรับรู้ความสุข หากวันไหนรู้สึกเศร้าจนยิ้มไม่ออก โทรศัพท์ไปหาเพื่อนที่มุขเยอะหรืออยู่ใกล้คนอารมณ์ดีเข้าไว้ จะทำให้คุณยิ้มได้ เพราะคนเรามีแนวโน้มเลียนแบบอารมณ์ของคนที่พูดคุยด้วย

3. เช็คท่าทางของตัวเอง ขณะนั่งทำงานเรามักโน้มตัวไปข้างหน้าโดยไม่รู้ตัว ทำให้กล้ามเนื้อหลังส่วนบนยืดขึ้นจนอาจบาดเจ็บได้ ทางที่ดี ทุก 2 - 3 ชั่งโมง คุณควรเช็คท่านั่งของตัวเองเพื่อบุคลิกและสุขภาพที่ดี ท่าที่เหมาะสมคือ นั่งให้สะโพกและไหล่อยู่ในแนวตรงกัน ไม่ต้องถึงกับหลังตรงมากเกินไป ต้นขาขนานพื้น โดยให้ข้อเท้าอยู่ล้ำหัวเข่าออกไปเล็กน้อย หากต้องนั่งทำงานเป็นเวลานานควรผ่อนคลายกล้ามเนื้อวันละ 2 - 3 ครั้ง โดยนั่งหลังตรง กางแขนทั้งสองขึ้นด้านข้างระดับไหล่ งอศอกให้มือทั้งสองแตะศีรษะ แล้วบีบสะบักหลังเข้าหากัน ค้างไว้ 3 วินาที ทำซ้ำ 3 ครั้ง



4. คิดจินตนาการเรื่องดีๆ ก่อนนอน ใช้เวลาก่อนแค่ 2 - 3 นาที วาดฝันเรื่องที่ทำให้คุณมีความสุข เช่น ทริปสุดสนุกช่วงพักร้อน ดินเนอร์ใต้แสงเทียนกับหวานใจ หรือคำชมจากเจ้านาย เทคนิคนี้ช่วยให้หลับได้เร็วและสนิทมากขึ้น ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจและสมาธิ

5. ผูกมิตรเพื่อนใหม่ แม้คุณจะเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ไม่ว่ากับเพื่อนร่วมงาน หัวหน้างานหรือแม้แต่กับแม่บ้าน ก็ไม่ควรละเลยการทำความรู้จักผู้คนใหม่ๆ ด้วย เพราะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจมากขึ้นและเปิดโลกทัศน์ของตนเอง ที่สำคัญคือ เป็นผลดีต่อหัวใจ พบว่าคนที่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นมีความดันโลหิตต่ำกว่าคนไม่เข้าสังคม ซึ่งมักจัดการความเครียดด้วยวิธีที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิตและระดับคอเลสเตอรอลเพิ่มขึ้น

6. ใกล้ชิดธรรมชาติ จะลงมือพรวนดิน ใส่ปุ๋ย รดน้ำต้นไม้ หรือแค่เดินชมนกชมไม้ก็ให้ประโยชน์ทั้งนั้น ผลการศึกษาในอังกฤษพบว่า หากได้สูดกลิ่นไอดินจะทำให้สมองหลั่งสารความสุขชื่อ “เซโรโทนิน” (serotonin) ออกมามากขึ้น ถ้าบ้านของคุณมีพื้นที่ไม่มากนักปลูกไม้ประดับหรือสมุนไพรไว้ในบ้านก็ได้ นอกจากสร้างความสดชื่นแล้ว ยังสามารถนำมาปรุงอาหารจานสุขภาพ ซึ่งอุดมไปด้วยสารแอนติออกซิแดนท์อีกต่างหาก

7. ฟังเพลงขณะเดินทาง ฟังดนตรีจังหวะสบายๆ บรรเทาความเครียดได้ เพราะช่วยให้ระบบประสาทผ่อนคลาย ป้องกันไม่ให้ระดับฮอร์โมนความเครียด ความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มสูงจนเกินไป ยิ่งร้องตามไปด้วยยิ่งส่งผลดี พบว่า การร้องเพลงช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันและลดฮอร์โมนความเครียด คอร์ติซอล (cortisol) แถมยังเป็นการปลดปล่อยอารมณ์ นอกจากนี้ขณะร้องเพลงเราจะสูดหายใจลึกขึ้น จึงเพิ่มปริมาณออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายเพื่อสร้างแอนติบอดีต่อสู้โรคหวัด

8. กินอาโวคาโด จะกินสดๆ หรือกินเมนูที่มีส่วนผสมของอาโวคาโดก็ดีต่อสุขถาพทั้งสิ้น เพราะในอาโวคาโดมีสารซึ่งช่วยฆ่าเซลล์บางชนิดที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และปกป้องเซลล์ดีไม่ให้กลายเป็นเนื้องอก จึงเป็นปราการป้องกันโรคมะเร็งได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้อาโวคาโดยังเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอล รวมถึงมีสารแอนติออกซิแดนท์ที่ดีต่อหัวใจอย่างวิตามินซีและอี เพื่อรสชาติอร่อยแปลกใหม่ ลองใส่อาโวคาโดในสลัดแทนชีสได้รสชาติหอมมันไม่แพ้กัน

9. ตุนอาหารมีประโยชน์ ผู้หญิงที่ทำอาหารกินเองบ่อยๆ มีแนวโน้มกินผักและผลไม้มากขึ้น และรับไขมันเข้าสู่ร่างกายน้อยลง เมื่อเทียบกับคนที่มักกินตามร้านหรือซื้อมากิน นั่นเพราะคุณสามารถเลือกส่วนผสมที่ดีต่อสุขภาพมาใส่ในจานโปรดของคุณได้ ทุกสัปดาห์ ควรซื้อผักผลไม้สดและเนื้อสัตว์ไขมันต่ำ อย่างเนื้อปลามาเก็บไว้ในตู้เย็น และเดือนละครั้ง หาอาหารแห้งมาตุนไว้ สิ่งที่ควรซื้อติดบ้าน ได้แก่ ข้าวซ้อมมือ น้ำมันมะกอก ปลาทูน่ากระป๋อง ซอสมะเขือเทศ เครื่องเทศต่างๆ รวมทั้งของกินเล่น ประเภทผลไม้อบแห้งและถั่วต่างๆ

10. ทำความสะอาดบ้าน บ้านช่องที่สะอาด ปราศจากฝุ่นและเชื้อโรค นอกจากดีต่อสุขภาพกาย เพราะช่วยป้องกันคุณจาดโรคหวัดภูมิแพ้ และหอบหืดแล้ว ยังทำให้จิตใจแจ่มใสและอารมณ์ดีด้วย พบว่า ๙๘ เปอร์เซนต็ของคนทั่วไปรู้สึกว่าชีวิตดีขึ้นเมื่อบ้านสะอาด ดังนั้นเพียงจัดบ้านให้สะอาดสะอ้านและเป็นระเบียบ ก็ช่วยลดเครียดได้แล้ว

11. พักการดูโทรทัศน์บ้าง จะทำให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเลิกดูโทรทัศน์ไปเลย เพียงเลือกดูเฉพาะรายการที่อยากดูจริงๆ เท่านั้น พบว่าคนที่ไม่เปิดโทรทัศน์นานสองสัปดาห์มีแนวโน้มเข้านอนเร็วขึ้น ทำให้ตื่นขึ้นมาด้วยความกระปรี้กระเปร่า จัดสรรหนึ่งวันในสัปดาห์ให้เป็น “วันปลอดโทรทัศน์” แล้วใช้เวลากับตนเอง ครอบครัว หรือเพื่อนฝูงมากขึ้น โดยชวนกันไปออกกำลังกาย กินมื้อเย็น ไปเดินห้าง หรืออาจฉกฉวยช่วงเวลานี้ทำสิ่งที่ชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นการขลุกอยู่กับหนังสือเล่มโปรด หรือขัดสีฉวีวรรณครั้งใหญ่ นอกจากรู้สึกผ่อนคลาย ผิวยังสวยขึ้นด้วย

12. วัดรอบเอว ไม่ใช่เพื่อรูปร่างที่ดูดีเท่านั้น แต่เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย หากคุณมีรอบเอว ๓๕ นิ้วหรือเกินกว่านั้น แสดงว่าคุณมีไขมันหน้าท้องมากเกินไปแล้ว ทำให้เสี่ยงต่อความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เบาหวาน และมะเร็ง

เริ่มวัดรอบเอวเดือนละครั้งตั้งแต่วันนี้ หากพบว่ามีขนาดเกินมาตรฐาน ควรหาหนทางลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี เช่น ออกกำลังกาย ลดปริมาณอาหาร กินผัก ผลไม้ ข้าวไม่ขัดสี และเนื้อสัตว์ไม่ติดมันเป็นประจำ ฯลฯ

13. อยู่ใกล้ดอกไม้ การเห็นดอกไม้สดใกล้ๆ ตัว ทำให้ผู้หญิงอารมณ์ดีขึ้นและวิตกกังวลน้อยลง การศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดพบว่า เพียงได้ชมดอกไม้ชั่วครู่ในตอนเช้าช่วยให้สดชื่นไปตลอดทั้งวัน นอกจากในบ้านแล้ว ควรหาดอกไม้มาประดับแจกันบนโต๊ะทำงานด้วย หากไม่ชอบดอกไม้ เปลี่ยนเป็นไม้กระถางต้นเล็กๆ ก็ได้ ทำให้คุณหายใจสะดวกขึ้น เพราะช่วยเพิ่มก๊าซออกซิเจนและลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

วันเสาร์, พฤษภาคม 22, 2553

เปิดประวัติ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด





พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด

          ถึงจะไม่ใช่ดาราหน้าจอ แต่ ณ เวลานี้ คิวออนแอร์ทางจอแก้วของ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกําเนิด ในฐานะโฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. ก็ปรากฎหน้าจอวันละหลายเวลา เพื่อที่จะชี้แจงทำความเข้าใจสถานการณ์บ้านเมืองให้ประชาชนได้รับทราบข่าวสารจากรัฐบาลในภาวะวิกฤต

          และด้วยเหตุนี้ก็ทำให้ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกําเนิด มีแฟนคลับไปแบบไม่รู้ตัว เพราะด้วยหน้าตาที่จัดว่าหล่อ ประกอบกับท่าทีสุขุมนุ่มลึกในมาดนายทหาร ทำให้สาว ๆ ชาวเน็ตออกอาการปลื้ม พ.อ.สรรเสริญ แก้วกําเนิด กันเป็นแถว พร้อมทั้งถามถึงประวัติของ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกําเนิด กันมากมายก่ายกอง ว่าแล้ว วันนี้กระปุกดอทคอมจึงนำมาฝากกันค่ะ

          พ.อ.สรรเสริญ แก้วกําเนิด มีชื่อเล่นว่า ไก่อู อายุ 47 ปี ปัจจุบันปฏิบัติหน้าที่ โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ขณะเดียวกันยังเป็นรองผู้อำนวยการกองปฏิบัติการจิตวิทยา กรมกิจการพลเรือนทหารบก ก่อนหน้านี้เคยเป็นโฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย  (ศอ.รส.) และโฆษกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และอีกหลายงานเฉพาะกิจของกองทัพที่ เสธ.ไก่อู มักสวมบทเป็นพิธีกร
          สำหรับพื้นเพของ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกําเนิด เดิมเป็นชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีพี่น้อง 3 คน โดย เสธ.ไก่อู เป็นลูกคนกลาง มีพี่ชายชื่อ ไก่โรส และน้องชายชื่อไก่งวง คุณพ่อเป็นตำรวจ คุณแม่เป็นครู แต่ชีวิตวัยเด็กของ เสธ.ไก่อู ต้องถูกแยกจากครอบครัว เมื่อพ่อและแม่นำเขาไปฝากเลี้ยงไว้กับป้าและย่าที่เพชรบุรี เนื่องจากฐานะครอบครัวไม่ค่อยจะดี ก่อนจะพาน้องชายและพี่ชายไปตั้งรกรากที่จังหวัดนนทบุรี

          เมื่อเรียนจบชั้น ม.ศ.1 พ.อ.สรรเสริญ แก้วกําเนิด ก็ย้ายมาอยู่กับครอบครัว โดยเข้าเรียนต่อ ม.ศ.2-3 ที่โรงเรียนวัดบางขวาง จ.นนทบุรี ครั้นพอจบชั้น ม.ศ.3 ครอบครัวไม่มีเงินให้ไปเรียนกวดวิชาเพื่อจะสอบเข้าเรียนต่อ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกําเนิด จึงไปซื้อหนังสือเก่าย่านสนามหลวงมาศึกษาเอง และลองสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร ปรากฎว่า สอบติด ได้เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 23 ซึ่งถือเป็นรุ่นสุดท้ายที่เรียนในโรงเรียนนายร้อย ถนนราชดำเนิน



พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด

          พ.อ.สรรเสริญ แก้วกําเนิด เล่าชีวิตในรั้วโรงเรียนเตรียมทหารว่า บทเรียนโหด ๆ หนัก ๆ อย่างที่เห็นในหนังว่าทหารต้องฝึกหนักอย่างไรนั้น ได้เจอมากับตัวหมดแล้ว ซึ่งตอนแรกยอมรับว่าไม่เข้าใจ แต่เมื่อเรียนสูงขึ้นก็ได้รู้ว่า บทเรียนสุดโหดเหล่านั้นเป็นการฝึกความกดดันทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพื่อให้คุ้นเคยกับอารมณ์ของความผิดหวัง ความเหนื่อย ความหิว ความง่วง แต่ก็ยังสามารถทำงานได้ ปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายได้

          สำหรับบทบาทที่มักจะได้รับเลือกให้ปฏิบัติหน้าที่โฆษกนั้น พ.อ.สรรเสริญ แก้วกําเนิด บอกว่า เริ่มต้นในช่วงที่ได้ไปช่วยงานการวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสารของ คปค. ที่แปรไปเป็น คมช. โดย พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม เรียกให้ไปพบ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่โฆษก คมช.

          และที่เห็นจ้อหน้าจอเป็นโฆษก แต่แท้จริงแล้ว พ.อ.สรรเสริญ แก้วกําเนิด ไม่ใช่คนพูดเก่ง และไม่ถนัดเรื่องพูด เจ้าตัวยอมรับว่า ชอบเรื่องการร้องเพลงมากกว่าเป็นไหน ๆ โดยจะร้องคาราโอเกะก่อนนอนแทบทุกคืน เพราะเป็นคนนอนดึก

          อย่างไรก็ตาม ในชีวิตการทำงาน แม้ทุกอย่างดูจะราบรื่น แต่ก็มีเรื่องให้ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกําเนิด เครียดไม่น้อย โดยเฉพาะประเด็นที่ถูกกล่าวหาว่า “ได้ดีเพราะเป็นเด็กถือกระเป๋าให้นาย” เรื่องนี้เจ้าตัวค้านหัวชนฝา ยืนยันว่า เกิดมาไม่เคยถือกระเป๋าให้ใคร และความก้าวหน้าในสายงานเป็นความสามารถที่ผู้บังคับบัญชามองเห็น ไม่ใช่ได้มาเพราะเป็นทาสใคร หรือมีญาติเป็นใหญ่เป็นโต



พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด

          ด้านชีวิตครอบครัว พ.อ.สรรเสริญ แก้วกําเนิด แต่งงานแล้วเมื่อปี 2542 กับภรรยาชื่อ ศิขริน แก้วกำเนิด นามสกุลเดิม เอกะวิภาต หญิงสาวหน้าตาสวยคม เจ้าของรีสอร์ทในจังหวัดราชบุรี ท่านเสธ.ไก่อู ออกตัวว่า ภรรยาเป็นคนมีเงิน ตนเองไม่ใช่คนมีเงิน  แต่ก็ไม่เคยเอาเงินภรรยามาใช้ และต้องให้ในฐานะสามี มากน้อยตามแต่กำลัง ที่สำคัญภรรยาเป็นคนโกรธยากและลืมง่าย
          ส่วนบทบาทหน้าที่ปัจจุบันในฐานะ โฆษก ศอฉ. พ.อ.สรรเสริญ แก้วกําเนิด ต้องปฏิบัติงานอย่างเคร่งเครียดในภาวะวิกฤตของบ้านเมือง ทำให้แฟนคลับอดห่วงไม่ได้ อ่ะ อ่ะ...เดี๋ยวจะหาว่าโม้ เรามีหลักฐานความเป็นห่วงเป็นใยจากชาวเน็ตที่ได้ไปเจอในเว็บไซต์ pantip.com ...เขาบอกว่าคลิปนี้เพื่อ เสธ.ไก่อู  มามะ มาดูกัน...
 


คลิปที่ทำขึ้นเพื่อ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด

ข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอบคุณภาพประกอบจากคุณ หมวยแก้มป่อง , Pantip.com , วิกิพีเดีย , praitawan