วันอังคาร, กรกฎาคม 23, 2556

พระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 2522 และ 2524 และ 2536 (บางตอนหนึ่ง)


"สามัคคีหรือการปรองดองกัน ไม่ได้หมายความว่าคนหนึ่งพูดอย่างหนึ่ง คนอื่นต้องพูดเหมือนกันหมด
ลงท้ายชีวิตก็ไม่มีความหมาย ต้องมีความแตกต่างกัน แต่ต้องทำงานให้สอดคล้องกัน
แม้จะขัดกันบ้างก็ต้องสอดคล้องกัน"
(พระราชทานแก่ คณะบุคคลต่างๆในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 4ธันวาคม 2536)
.......................................................
"การที่จะให้งานประสานกัน เพื่อช่วยให้ งานของทุกฝ่าย ดำเนินก้าวหน้า ไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และรวดเร็วนั้น ทุกฝ่ายจะต้อง ไม่แบ่งแยกกัน ไม่แย่งประโยชน์ ไม่แย่ง ความชอบ กัน
แต่ละฝ่ายแต่ละ คนต้องทำงานด้วยความบริสุทธิ์ใจ มุ่งหวัง ผลสำเร็จ
ในการงานเป็นใหญ่ยิ่งกว่า สิ่งอื่น..."
ความตอนหนึ่ง ในพระบรมราโชวาท
ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาของสถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้ เชียงใหม่ วันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๒
......................................................
"ประโยชน์หรือการสร้างสรรค์ในทางที่ดีนั้น จะเกิดขึ้นได้ก็ ด้วยการลงมือทำ
หมายความว่าจะต้อง นำความรู้ความสามารถที่มีอยู่นั้น มาใช้งาน ลงมือใช้เมื่อไหร่ เพียงใดประโยชน์ ก็เกิด เมื่อนั้น เพียงนั้น
เมื่อ ยังไม่ลงมือ ทำประโยชน์ก็ยังไม่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นจะมีความรู้ ความสามารถมากมายเพียงใด ถ้าไม่นำใช้ก็ ปราศจากประโยชน์"
ความตอนหนึ่ง ในพระบรมราโชวาท
พระราชทานแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาณ อาคารใหม่ สวนอัมพร วันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๒๔

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น