วันอังคาร, กันยายน 15, 2552

บทความดีดี เมื่อชีวิตถึงที่สุด

หากชีวิตต้องเจอจุดวิกฤติที่สุด...เป็นช่วงเวลาที่สภาพจิตใจย่ำแย
มองไปทางไหนก็ดู เหี่ยวเฉา เหงา ไม่รักตัวเอง
สิ้นหวังกับทางที่เลือกเดิน อิจฉาริษยาผู้ที่ประสบความสำเร็จหรือเหนือกว่าตัวเอง
เหยียบย่ำและดูถูกตัวเองอยู่ตลอดเวลา...
คอยมองโลก มองผู้คน มองสังคมไปในแง่ร้ายมันเป็นลักษณะของ...
"คนที่ไม่รักตัวเอง" ...."รู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่า"....
เรามีสิทธิ์ที่จะติดลบกับชีวิตและสิ่งรอบข้างได้...
แต่ถ้าเรามัวจมปลักอยู่กับความรู้สึกนั้น  เรายังไม่รักตัวเอง และไม่รักใคร ๆ แล้วละก็...
สิ่งเหล่านี้ก็ทำให้ชีวิตเป๋ได้เหมือนกัน...
เราต้องแปรสภาพความรู้สึกที่ย่ำแย่นั้น
ให้เป็นเหมือนภาพเงาสะท้อนให้เห็นว่าถ้าเรารู้สึกอ่อนแอ และติดลบกับทุก ๆ สิ่ง 
ผลลัพธ์ของการกระทำนั้นจะออกมาเป็นเช่นไร...
เมื่อเราไม่ศรัทธาตัวเอง คนรอบข้างก็อาจจะไม่ศรัทธาในตัวเราไปพร้อม ๆ กัน 
ยิ่งเราแสดงออกมาก ยิ่งจะถูกต่อต้าน ยิ่งเราถูกต่อต้าน 
เราก็ยิ่งจะมองโลกในแง่ร้ายเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
แล้วเมื่อไหร่เราถึงจะหลุดพ้นจากสภาพที่มันเลวร้ายนั้นได้...
มีคนเคยบอกไว้ว่า ...
"คุณค่า..ไม่ใช่สิ่งที่เราเดินไปเจอแบบเกมล่าสมบัติ..แต่คุณค่าคือสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาเอง"
เพียงแค่เราลองหยิบยื่นความศรัทธาให้กับตัวเอง ไม่ยึดติดกับความโชคดีของผู้ใด
ไม่ทับถมตัวเองในทุก ๆ เรื่อง โดยเฉพาะสถานะและความเป็นอยู่และเป็นไป
"อย่าซ้ำเติมตัวเอง...อย่าดูถูกตัวเอง"
ลองมองความเป็นจริงของโลกใบนี้ดูสิ
ยังมีผู้คนที่เขาลำบากกว่าเรา ทุกข์ยากกว่าเรา เขาด้อยกว่าเรา
เขามีปัญหาชีวิตมากกว่าเราอีกเยอะแยะมากมาย
เราโชคดีแค่ไหน ที่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้ามีสุขภาพดี ไม่เจ็บป่วย
ซึ่งมีคนอีกเป็นร้อยที่ไม่มีชีวิตรอดผ่านสัปดาห์นี้ไปได้
เรายังโชคดีกว่าคนอีก 500 ล้านคนบนโลกนี้
ที่เขาต้องอยู่ในสภาพสงคราม ติดคุก ถูกทรมาน และอดอยาก
เรายังร่ำรวยกว่าคนอีก 7.5% ของโลกนี้
ที่เขาไม่มีอาหารเก็บไว้ในตู้เย็น ไม่มีเสื้อผ้าใส่ ไม่มีแม้กระทั่งบ้าน
ลองค้นหาทางออกให้กับตัวเองดู
แม้ว่าวันนี้จะยังมืดมน หรือไม่มีใครสักคนที่เข้าใจในตัวเรา
แต่เราต้องเข้าใจตัวเอง สร้างพลังใจพลังภายในให้กับตัวเอง
"เราทุกคนมีแสงสว่างที่อยู่ในหัวใจ
คอยส่องนำทางอยู่แล้วคนละ 1 ดวง
ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมองเห็นมันหรือไม่เห็น
และรู้จักนำมันมาใช้หรือเปล่า...ก็เท่านั้น"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น