
และหากเมื่อใดจิตใจอาจระส่ำระสาย สะดุดกับอะไรขึ้นมาบ้าง ก็จงหยุดพักตรึกตรอง อย่าปล่อยให้พายุอารมณ์โถมพัด “สิ่งดีดี” จนกระจัดกระจาย เพราะ “การให้ความหมาย” ไม่ใช่ “การตั้งความหวัง” คนสองคนให้ความหมายซึ่งกันและกัน แต่คนสองคน “จะไม่ตั้งความหวังในกันและกัน” เพราะการตั้งความหวังมักนำพาซึ่ง “การเรียกร้อง” “ความอยากเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ” โดยที่ไม่รู้ตัว มันร้อนนัก หนาวนัก และไม่เป็นสุข เราต้องไม่ลืมปรับอุณหภูมิจิตใจเอาไว้ที่องศาอุ่นๆ หากเริ่มรู้สึกตัวว่า ความร้อนเริ่มทวีขึ้น เราต้องค่อยๆ เดินออกมาสูดอากาศเย็น หากตรงกันข้ามเราก็ต้องหลบเร้นจากความหนาวมาหาไอแดดเช่นกัน และอย่าลืมว่า “ความพิเศษ” ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นพิเศษมากหรือพิเศษสุด หรือพิเศษอย่างยิ่งในคนคนเดียว ทั้งเราและเขาอาจจะมีคนพิเศษในวิถีชีวิตได้หลายลักษณะ พิเศษในเรื่องนั้น พิเศษในเรื่องนี้ ในเมื่อหัวใจเป็นของเรา เราก็ย่อมเลือกให้ความพิเศษกับใครก็ได้ที่เราจะไม่ต้องแลกกับความทุกข์อย่างพิเศษกลับมา จงให้ “ความพิเศษ” เป็นชีวิตชีวา เป็นแววตาที่แจ่มใส เป็นความห่วงใยที่เมื่อนึกถึงทีไรก็ยิ้มได้ ไม่วิ่งหนี แต่ไม่วิ่งตาม ไม่หักห้าม แต่ไม่กระโจนใส่ ไม่เป็นน้ำตาลที่หวานอ่อนไหว แต่เป็นความอบอุ่นในหัวใจและเอื้ออาทร จงเป็นความแจ่มใสในอารมณ์ของตัวเอง เป็นความชุ่มชื่น สดใส เช่นสายน้ำ เป็นสีสันงดงามเช่นมวลผกา เป็นสีเขียวของใบไม้ ที่เย็นที่ตาและที่ใจ และที่ตรงนี้ จะอีกนานเท่าใด ไม่ว่า “คนพิเศษ” คนนั้นจะอยู่ใกล้หรือต้องจากกันไกล “ความพิเศษ” นั้นก็จะคงอยู่อย่างมีคุณค่า ณ ที่เดิม ที่ซึ่งใจข้างซ้ายตรงกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น