1. เวลาคุณภาพไม่ต้องรอโอกาสพิเศษ
หยุดมือที่กำลังพลิกปฏิทินมองหาตัวแดงๆ ของวันหยุด เพราะเวลาคุณภาพนั้นซ่อนตัวอยู่ในทุกนาทีที่เข็มนาฬิกาหมุนติ้วๆ ถ้าคุณมองปฏิทินแล้วครุ่นคิดเพียงว่า ...จันทร์-ศุกร์คุณต้องออกไปทำงาน ส่วนลูกก็ต้องวิ่งหน้าตั้งไปเรียนหนังสือ...เสาร์-อาทิตย์ก็แสนเหนื่อย นอนเปิดพุงดูทีวีอยู่ที่บ้านอย่างเดียวดีกว่า...เวลาคุณภาพสำหรับลูกจะพลันหายไปโดยปริยายดังนั้น ขอให้คุณหันมามองตัวเลข 1-31 เป็นทุกวันแห่งคุณภาพ แบบนี้แล้ว คุณจะรู้สึกว่ามีเวลาเพิ่มขึ้นอีกเยอะค่ะ
2. โฉมใหม่...ประทับใจทุกนาทีที่อยู่ใกล้
เด็กๆ เขาไม่ปลื้มคุณพ่อคุณแม่ที่ทำหน้ายุ่งเป็นสัญญาณว่างานยุ้ง...ยุ่งตลอดเวลาหรอกค่ะ ดังนั้นถึงแม้ภารกิจของคุณจะแสนรัดตัวขอให้เริ่มจัดทรงผม หน้าตา กับเสื้อผ้าอันยุ่งเหยิงให้เข้าที่ก่อนค่ะ บอกตัวเองสั้นๆ ว่า “เรื่องเหล่านี้ใช้เวลาแค่นิดเดียว แต่ทำให้บรรยากาศแต่ละช่วงเวลาที่คุณอยู่กับลูกดูน่าอภิรมย์ขึ้นเยอะ” (โดยเฉพาะเวลาที่ลูกแอบเห็นคุณตอนกำลังหน้ายุ่งเพราะปวดหัวกับเอกสารการประชุมเดี๋ยวจะร้องจ๊าก กระโดดหนีซะก่อน)
จากนั้นอย่าลืมจัดโต๊ะทำงานแสนรกให้เป็นระเบียบเรียบร้อยปัดฝุ่นก่อนหามุมงามๆ วางกรอบรูปที่มีรอยยิ้มแป้นของลูกให้ชื่นใจทุกครั้งที่เงยหน้าขึ้นมอง กระตุ้นเตือนให้คุณทำจิตใจให้ Bright ตลอดเวลา แบบถึงตัวจะไกล...แต่ใจพ่อ/แม่ก็คิดถึงหนูทุกเวลานะลูก
3. สำรวจตนเองก่อนสวมบทนักบริหาร (เวลา)
เมื่อจัดการกับตัวคุณเองให้เป็นบุคคลผู้น่า “ใช้เวลาด้วย” เรียบร้อยแล้ว ลองสำรวจดูสิคะว่าคุณบริหาร “เวลา” ของตนเองได้ดีพอหรือยัง ง่ายๆ แค่ตรวจสอบว่าคุณเผลอใช้เวลาส่วนไหนไปอย่างฟุ่มเฟือยหรือเปล่า เช่น การอ้อยอิ่งทาเล็บในตอนเช้า ช่วงเวลาสาละวนอยู่กับการค้นหาเน็กไทเส้นใหม่ที่ซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้าใบเบ้อเริ่ม เวลาฟุ่มเฟือยที่ลดน้อยลง นั่นหมายถึงเวลาที่คุณจะมีให้ลูกเพิ่มมากขึ้นโดยปริยาย
4. หาเวลา (ว่าง) ง่ายนิดเดียว
เข้าใจค่ะว่าคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่เป็น Working-Dad/Mom กันทั้งนั้น ปัจจุบันนี้หลายบ้านใช้บริการรถรับ-ส่งของโรงเรียน ซึ่งจะทำให้คุณคลายใจว่าลูกถึงบ้านแล้ว เราคงไม่ต้องรีบร้อน ทว่าลูกสุดที่รักกลับต้องซะเง้อคอรอเป็นยีราฟตัวน้อย อยากโชว์การบ้านที่ทำสุดฝีมือให้คุณพ่อคุณแม่ชื่นชมเลยไม่ได้อวดสักที
แต่ถ้าคุณเคลียร์ภารกิจงานได้ตรงตามเวลา เข้าประชุมครบทุกครั้ง ติดตามความคืบหน้าของงานได้แน่นหนีบ ข้อมูลไม่ดีหลุดคุณก็จะได้เร่งเคลียร์คิวงาน ตรงแน่วกลับบ้านตั้งแต่หัวค่ำค่ะ
5. ทำตัวติดหนึบกับบ้านได้แล้ว
เมื่อเวลาเพิ่มขึ้นก็อย่าเพิ่งเริงร่ากับภารกิจส่วนตัวอย่างตีกอล์ฟกับก๊วนเพื่อน หรือช้อปสนั่นซัมเมอร์เซลล์อย่างเดียวนะคะ ลองทบทวนสิคะว่าเวลาที่เคยมีร่วมกับลูกแบบไหนที่หายหน้าไปจากครอบครัวมาแสนนาน เช่น เวลาของการเล่านิทานก่อนนอน เป็นต้น
ลองสละเวลาทำงานของคุณแวะร้านหนังสือ ซื้อนิทานเล่มใหม่ที่ลูกร่ำร้องอยากอ่าน หรือสำหรับลูกประถมอาจต้องการเวลาในการทำกิจกรรมร่วมกันแบบที่ตรงตามความสนใจของเขา คุณอาจหาเวลาระหว่างวันซ้อมมือกับบาสเกตบอล เพื่อจะได้กลับไปชู๊ตกับลูกประถมในตอนเย็นหลังเลิกเรียน เชื่อเถอะค่ะว่าประทับใจลูกมากกว่าการที่เขาจะต้องมาใช้เวลาเล่นบอลกับคนอื่นเสียอีก
6. “มีเวลา” ต้องมาพร้อม “มีใจ”
ปิดท้ายด้วยเทคนิคสั้นๆ เวลา+ความใส่ใจที่มีให้ลูกอย่างเสมอต้นเสมอปลาย จะทำให้ลูกรู้สึกได้ถึงความมั่นคงอันแสนอบอุ่นของคุณพ่อคุณแม่ เพราะไม่มีสายใยไหนหรอกค่ะที่เกิดขึ้นได้โดยขาดซึ่งเวลาแห่งการถักทออย่างประณีตเบามือทุกฝีเข็มเทียบได้กับช่วงเวลานาที...และทุกวินาทีที่คุณสามารถมอบให้ลูกอย่างมีคุณภาพนี้
ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณแล้วล่ะค่ะ เพียงคุณเริ่มเท่านั้น คุณจะลบคำว่า “ไม่มีเวลา” ออกไปจากพจนานุกรมของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่...ผู้ใส่ใจเวลาคุณภาพสำหรับลูกได้แน่นอน ขอเอาใจช่วยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ฉบับเดือนมิถุนายน 2552
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น