แป้งสาลีบัวแดง 180 กรัม
ผงฟู 1/2 ช้อนชา
เบกกิ้งโซดา 3/4 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 190 กรัม
เกลือ 1/2 ช้อนชา
น้ำมันพืช 170 กรัม
ไข่ไก่ 2 ฟอง (เบอร์ 0)
กลิ่นวานิลลาหรือกลิ่นกล้วยหอม 1 ช้อนชา
กล้วยหอมสุกงอมบดละเอียด 200 กรัม
นมสด (จืด) 60 กรัม
โยเกิร์ต (รสธรรมชาติ) 40 กรัม
วิธีทำ
- อุ่นเตาอบอุณหภูมิ 200-210 องศาเซลเซียส ไฟบนและล่าง ไม่เปิดพัดลมกระจายความร้อน
- วางกระทงกระดาษหรือกระทงอลูมินัมฟอล์ยลงในพิมพ์อลูมิเนียมที่ขนาดเหมาะสมกัน แล้วเรียงไว้ในถาด
- ชั่งแป้ง ตวงผงฟูและเบกกิ้งโซดา ร่อนรวมกัน 2 ครั้ง ใส่ชามผสมใบกลาง
- ชั่งน้ำตาล ใส่เกลือ เทลงในของแห้ง ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน พักส่วนนี้ไว้
- ปอกกล้วยหอมแล้วหั่นเป็นชิ้นย่อม ๆ ใส่ชามผสมใบเล็ก
- เทโยเกิร์ตและนมสดลงไป ใช้ที่บดกล้วยบดให้ละเอียดและเข้ากัน
- เติมกลิ่นกล้วยหอมหรือกลิ่นวานิลลาลงในส่วนผสมกล้วยบด คนให้เข้ากัน พักส่วนนี้ไว้
- ชั่งน้ำมันพืชให้ได้ตามสูตร ตอกไข่ไก่ 2 ฟอง ใส่ชามผสมใบเล็ก
- คนด้วยส้อมหรือตะกร้อมือให้น้ำมันพืชและไข่เข้ากันดี
- เทส่วนของไข่และน้ำมันพืชลงในของแห้ง
- คนด้วยตะกร้อมือให้เข้ากัน ไม่เห็นผงแป้งแล้วหยุดคนเลย พยายามกวาดตะกร้อมือให้ถึงก้นชามผสม ส่วนผสมจะข้นและหนืดมาก ไม่ต้องตกใจค่ะ
- เทส่วนของกล้วยที่บดไว้ลงไป โดยแบ่งใส่ 2 ครั้ง
- ใส่ครั้งแรกลงไปแล้วคนด้วยตะกร้อมือพอเข้ากัน อาจจะยังไม่เข้ากันดี ไม่เป็นไรค่ะ
- ใส่กล้วยบดส่วนที่เหลือลงไป คนด้วยตะกร้อมือให้เข้ากันดี ส่วนผสมจะเหลว ไม่หนืดค่ะ
- ตักใส่ถ้วยที่เตรียมไว้ให้เกือบเต็มถ้วย เหลือพื้นที่ขอบถ้วยไว้ 2-3 มิลลิเมตร
- นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 200-210 องศาเซลเซียส ไฟบนและล่างไม่เปิดพัดลมกระจายความร้อน 10 นาที
- ครบ 10 นาทีแล้ว ลดอุณหภูมิของเตาอบลงเหลือ 180 องศาเซลเซียส ยังคงไม่เปิดพัดลม อบต่อจนเค้กสุก เช็คสุกโดยใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มตรงกลางเค้ก ยกไม้จิ้มฟันแล้วไม่มีเศษเค้กแฉะ ๆ ติดขึ้นมาค่ะ
- เค้กสุกแล้วนำออกจากเตา พักไว้บนตะแกรง 5 นาที แล้วหยิบออกจากถ้วยวางผึ่งบนตะแกรงจนเย็น
- แม่หลิ่มทำได้ 18 ถ้วย ขึ้นกับขนาดถ้วยด้วยนะคะ อาจจะมากหรือน้อยกว่านี้
- กล้วยหอมที่แม่หลิ่มใช้ไม่งอมมาก แม่หลิ่มเลยใส่น้ำตาลทราย 190 กรัม ถ้าได้กล้วยหอมงอม ๆ แบบเปลือกดำแล้วใส่ 180 กรัมก็น่าจะพอแล้ว ไม่เช่นนั้นเค้กจะหวานไป
- ขั้นตอนการบดกล้วยหากชอบแบบละเอียดเลยจะใช้เครื่องปั่นน้ำผลไม้ปั่นให้ละเอียดเลยก็ได้ค่ะ
- ขั้นตอนการนำขนมเข้าอบแล้วให้ได้หน้าปูดแบบนี้ ที่สำคัญคืออุณหภูมิในเตาอบต้องถึง 200-210 องศาเซลเซียส แล้วจึงนำเค้กเข้าเตา ดูเทอร์โมมิเตอร์ในเตาอบก่อนนำขนมเข้าค่ะ ถึงแม้เราจะตั้งอุณหูมิ 200-210 องศาเซลเซียสก็จริง แต่เตาอบเค้าจะตัดและอุณหูมิลดลงเป็นพัก ๆ อาจจะลงมาถึง 180 องศาเซลเซียส ถ้านำขนมเข้าตอนนั้นหน้าขนมจะปูดไม่เต็มที่ค่ะ
- ลองสังเกตดูเมื่อหน้าขนมปูดจนสุดสักพักแล้วเค้าจะแตก จะไม่เรียบเนียนนะคะ แล้วถึงลดอุณหภูมิลงอบต่อจนเค้กสุก แม่หลิ่มนำเค้กออกนาทีที่ 18-19 ค่ะ ถ้าอบด้วยความร้อนเท่าเดิม หน้าจะไหม้และสีเข้ม เปลือกขนมอาจจะแข็งเกินไปค่ะ ระยะเวลาในการสุกของเค้กขึ้นกับขนาดถ้วยด้วยนะคะ
- ถ้าไม่มีโยเกิร์ตรสธรรมชาติใส่นมสดแทนในอัตราส่วนที่เท่ากันแล้วบีบมะนาวลงไป 1 เสี้ยว







ขอบคุณ http://www.maesalim.com/desserts/easy-time-banana-cup-cake/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น