หลายวันมานี้ได้รับรู้เรื่องไม่สบายใจจากเพื่อนสนิทสมัยเรียนมหาวิทยาลัย เธอเลิกกับสามีที่แต่งงานมาเป็นเวลา 5 ปี “เพิ่งเลิกกันเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา คงเพราะอยู่ไกลกันและอีกฝ่ายมีคนใหม่ที่อยู่ใกล้กันมาดูแล คงเป็นประเภทรักแท้แพ้ใกล้ชิด และขอย้ายแล้วไม่ได้ย้ายเสียที ถึงน้ำเสียงจะไม่เจือไปด้วยน้ำตา และยืนยันว่าไหวอยู่ แต่เข้าใจดีว่าคงอยู่ในภาวะเสียใจจนพูดอะไรไม่ออก และไม่อยากให้ใครเป็นห่วงมากนัก บ่อยครั้งที่ได้ยินข่าวคราวการหย่าร้างของสามีภรรยา แต่ละครั้งสร้างความสั่นสะเทือนในหัวใจไม่น้อย เพราะนึกถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจของคนสองคน กรณีที่ยังไม่มีลูกแรงกระเทือนนั้นอาจจะไม่มาก แต่เกิดผลกระทบที่ญาติพี่น้องของสองฝ่ายเข้าหน้ากันไม่ติดและอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ส่วนบ้านที่มีลูกโดยเฉพาะลูกเล็กแรงสั่นสะเทือนนั้นไม่ต้องพูดถึง หากไม่ดูแลปล่อยให้เกิดรอยแผลขึ้นในใจก็จะกระทบกับการเติบโตไม่น้อยเลย และได้อ่านหนังสือเล่มเล็กเล่มหนึ่ง “คู่แท้ คู่ธรรม หลักการครองชีวิตคู่ตามวิถีพุทธ” โดยมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว อยากเล่าให้คุณผู้อ่านฟังในแง่ของธรรมะที่หลายคนบอกว่าน่าเบื่อ และทำได้ยาก แต่ธรรมะของพระพุทธเจ้าช่วยให้มนุษย์รอดมานักต่อนักแล้ว รวมถึงคนมีครอบครัวด้วย 4 ข้อของธรรมะครองคู่
1. สัจจะ (ความจริง จริงใจ)
ความจริงใจเป็นคุณธรรมพื้นฐานของการอยู่ร่วมกันของสามีภรรยา ความจริงใจสัมผัสได้จากคำพูด การกระทำ พูดแล้วควรทำให้ได้อย่างที่พูด ไม่โกหก เพราะคำพูดที่ไม่มีพื้นฐานความจริงเป็นรากฐานที่ไม่มั่นคงของความรัก แล้วไม่มีใครที่จะอยู่ได้นานกับคนที่ชอบโกหกและขาดความจริงใจที่จะอยู่ด้วยกัน
2. ทมะ (รู้จักข่มใจ ฝึกฝน ปรับตัว)
คนสองคนต่างที่มา ต่างการเลี้ยงดู เมื่อมาอยู่ร่วมกันก็ต้องมีการไม่ลงรอยกัน การรู้จักข่มใจไม่ให้มีการทะเลาะ และเรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้าหากันเป็นหนทางที่จะทำให้ชีวิตรักยืนยาว เพราะคนเราเปลี่ยนไปทุกวัน เหตุการณ์ที่มากระทบ คนที่พบเจอ ล้วนหล่อหลอมให้เราเป็นคนใหม่ เมื่อชีวิตไม่หยุดนิ่งคนสองคนที่มาอยู่ร่วมกันก็ควรต้องเติบโตและเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน ชีวิตคู่จึงจะไปรอด
3. ขันติ (อดทน เข้มแข็ง ทนทาน)
พระพรหมคุณภรณ์ กล่าวไว้ว่า “ขันติ ไม่ใช่แค่การอดทน อดกลั้นในสิ่งที่เราไม่ชอบเท่านั้น แต่หมายถึง ศักยภาพในการเข้าใจและยอมรับสิ่งที่ผิดพลาด สิ่งที่เราไม่พึงปราถนาว่าเป็นธรรมดาของชีวิตด้วย และนี่คือภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดที่เราสามารถอดทน ทนทาน และทนได้ โดยที่ใจไม่ทุกข์”ยิ่งปัจจุบันสิ่งยั่วยุมีมากเหลือเกินค่ะ หากมีความอดทนเป็นที่ตั้งไม่ไขว้เขวไปที่ใดง่ายๆ ก็ทำให้ชีวิตคู่มีความสุขผ่านพ้นอุปสรรคไปได้
4. จาคะ (ความเสียสละ)
การเสียสละไม่ใช่แค่การที่สามีภรรยาทำงานหนัก หาเงินเพื่อจุนเจือครอบครัวเท่านั้น แต่หมายถึงการมีความรัก ความปารถนาดีให้อีกฝ่ายมีความสุข ความรักที่มีพื้นฐานของความเมตตา ความปราถนาดีให้อีกฝ่ายมีความสุข เป็นน้ำใจ ที่นึกถึงครั้งใดก็เหมือนเป็นน้ำที่คอยหล่อเลี้ยงให้ใจของกันและกันชุ่มฉ่ำ ไม่มีข้องแวะไปมองใครและพร้อมให้อภัยเมื่อใดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำผิด ก็ถือเป็นการเสียสละความเป็นตัวเองเพื่อทำให้ชีวิตยาวนานขึ้น
ข้อสุดท้ายที่ไม่ได้มีในเล่มแต่เป็นเรื่องง่ายที่อยากย้ำบอกคือ “สติ” เพราะสติตัวเดียวเท่านั้นที่จะทำให้เราก้าวผ่านทุกอย่างไปได้ เอาใจช่วยให้ทุกคู่มีชีวิตรักที่ยืนยาว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น