ลักษณะของต่อมไทรอยด์
ต่อมไทรอยด์มีลักษณะเหมือนผีเสื้ออยู่ที่คอใต้ลูกกระเดือกมีขนาดยาว 4 ซม. กว้าง 1-2 ซม. ทำหน้าที่สร้างไทรอยด์ฮอร์โมน ซึ่งฮอร์โมนนี้จะทำหน้าที่ควบคุมการเผาผลาญของร่างกาย อุณหภูมิของร่างกาย ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ระดับไขมันในเลือด รวมทั้งอารมณ์และความรู้สึกปกติต่อมไทรอยด์จะหลั่งฮอร์โมนออกมาในปริมาณที่เหมาะสม ฮอร์โมนที่สำคัญคือ tetraiodothyronine (thyroxine หรือ T4) และ triiodothyronine (T3)โดยฮอร์โมนนี้จะมีธาตุไอโอดีนเป็นส่วนประกอบสำคัญ ถ้าฮอร์โมนหลั่งน้อยร่างกายจะเผาผลาญน้อยลง แต่ถ้าหากฮอร์โมนหลั่งมากร่างกายจะมีการเผาผลาญอาหารมากทำให้น้ำหนักลด
สาเหตุ
โรคไทรอยด์มากกว่าครึ่งมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของภูมิคุ้มกัน (หรือเม็ดเลือดขาวในกระแสเลือด หรืออิมมูนซิสเต็ม) ซึ่งโรคนี้ผู้ป่วยมีความเจ็บป่วยรุนแรงไม่เท่ากัน การรักษาจึงทำได้ในระดับที่ควบคุมให้ภาวะของโรคนั้นเบาลง หรือทำให้โรคสงบ และทำให้คนไข้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติมากที่สุด ซึ่งการรักษาในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะให้กินยาต่อเนื่องในระยะยาว ในขณะที่วงการแพทย์ยังพยายามหาทางแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุต่อไปสาเหตุที่มาจากพันธุกรรมและไวรัส เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมดูแลได้ แต่สำหรับความเครียด และภูมิคุ้มกันนั้น เป็นเรื่องที่เราสามารถดูแลป้องกันตัวเองได้ โดยธรรมชาติ เวลาคนเราเครียด ร่างกายจะมีกลไกที่ทำให้ฮอร์โมนหลั่งออกมาจากส่วนต่างๆ เพื่อช่วยให้มีพละกำลัง มีความสามารถ หรือมีอะไรบางอย่างที่มากกว่าภาวะปกติ มาขับดันตัวเราให้เอาชนะความกดดันนั้นไปได้ และผลจากการเปลี่ยนแปลงของกระบวนการในร่างกายนั้นมีมากมาย โดยเฉพาะในต่อมไร้ท่อ ไม่ว่าจะเป็นต่อมไทรอยด์ ต่อมหมวกไต หรือต่อมใต้สมอง รวมทั้งในระดับเซลล์ ระดับอวัยวะ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำงานของร่างกายตามมา ที่สำคัญคุณหมอยังเล่าให้ฟังถึงผลการวิจัยหลายชิ้นที่แสดงให้เห็นว่าความเครียดมีส่วนไปกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันตนเองที่อาจจะไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ทำให้เกิดเป็นโรคนี้ขึ้นมา
ประเภทความผิดปกติของไทรอยด์
ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์มี 3 แบบ คือฮอร์โมนไทรอยด์เกิน
ฮอร์โมนไทรอยด์เกิน คือ ภาวะที่ฮอร์โมนหลั่งออกมามากเกินความจำเป็น (ไฮเปอร์ฯ) สำหรับโรคไทรอยด์ที่เกิดจากฮอร์โมนไทรอยด์เกิน จะทำให้มีอาการหัวใจเต้นแรง ใจสั่น นอนไม่หลับ และน้ำหนักลด ที่สำคัญอารมณ์แปรปรวนบ่อยHyperthyroid คอพอกเป็นพิษ หมายถึงภาวะที่ต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนออกมามากว่าปกติเป็นผลทำให้ร่างกายมีการเผาผลาญมากเกินไป
สาเหตุ
- โรค Grave's disease เกิดภาวะที่มีภูมิไปกระตุ้นต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนออกมามาก ผู้ป่วยจะมีต่อมไทรอยด์โตทั้งต่อม
- โรค Multinudular toxic goiter หมายถึงภาวะที่ก้อน [nodule] ในต่อมไทรอยด์ทำงานสร้างฮอร์โมนเพิ่มขึ้น อาจก้อนเดียว หรือหลายก้อน
- Thyroiditis ช่องแรกของต่อมไทรอยด์อักเสบจะมีอาการของคอพอกเป็นพิษ
อาการ
- อารมณ์แปรปรวน
- นอนไม่หลับ
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ตาโปน
- มือสั่น
- ใจสั่น เหนื่อยง่าย
- คอพอก
- ประจำเดือนผิดปกติ
- ขี้ร้อน
- น้ำหนักลดแม้ว่าจะรับประทานอาหารได้ดี
การวินิจฉัย
- เจาะเลือดพบว่า ค่า T3หรือ T4 สูง และค่า TSH ต่ำ
- ทำไทรอยด์สแกน เพื่อดูว่าสภาพต่อมไทรอยด์โตทั้งต่อม หรือ มีก้อนในต่อมไทรอยด์ หรือเป็นต่อมไทรอยด์อักเสบ
การรักษา
การรักษามีได้หลายวิธีแพทย์จะพิจารณาจาก อายุ สภาพของผู้ป่วย ชนิดของคอพอกเป็นพิษ ความรุนแรงของโรค การรักษามีได้ 3 วิธี คือ- การรับประทานยาเพื่อลดการสร้างฮอร์โมน เช่น PTU, Methimazole
- การรับประทานน้ำแร่ radioactive iodineเมื่อผู้ป่วยรับประทานน้ำแร่เข้าไป ต่อมไทรอยด์ก็จะรับ iodine ที่มีรังสีเข้าไป รังสีนี้จะทำลายเนื้อต่อมไทรอยด์ แพทย์จะคำนวณขนาดยาที่เหมาะสม หากได้มากเกินไปจะเกิดภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยจำเป็นต้องได้รับยา thyroid hormone ไปตลอดชีวิต แต่ถ้าหากได้รับน้ำแร่น้อยไปผู้ป่วยยังคงเกิดอาการของต่อมไทรอยด์เป็นพิษแต่รุนแรงน้อยลง แพทย์จะนัดให้ยาอีกครั้ง
- การผ่าตัด ปัจจุบันการผ่าตัดมีความนิยมลดลงไปมาก โดยเลือกใช้กับผู้ป่วยบางราย เช่น เด็ก วัยรุ่น หรือหญิงตั้งครรภ์ที่มีปัญหากับยาที่รักษา หรือผู้ที่มีต่อมโตมาก มีอาการทางตารุนแรง หรือมีก้อนในต่อม
- ยาอื่น beta blocker เช่น propanolol, atenolol, metoprolol เพื่อลดอาการของโรค
ฮอร์โมนไทรอยด์ขาด
ฮอร์โมนไทรอยด์ขาด คือ ภาวะที่ฮอร์โมนหลั่งออกมาน้อยกว่าความต้องการของร่างกาย (ไฮโปฯ)ส่วนคนที่ฮอร์โมนไทรอยด์ขาด ชีพจรจะเต้นช้า ขี้หนาว ความจำเสื่อม บวม ท้องผูก หากเป็นมากๆ และนานๆ จะทำให้สมองเสื่อม ความจำเลอะเลือน ถ้าเป็นในเด็กจะทำให้ตัวเล็กแคระแกรน และเป็นโรคเอ๋อได้ สาเหตุของโรค
ลักษณะ
เป็นภาวะที่ต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนออกมาน้อย ทำให้ต่อมใต้สมอง (pituitary gland) สร้างฮอร์โมน Thyroid stimulating hormone (TSH) ออกมามากเพื่อกระตุ้นให้ต่อมไทรอยด์ทำงานมากขึ้นทำให้ต่อมไทรอยด์โตขึ้นที่เราเรียกว่าคอพอก goiterสาเหตุ
- เกิดจากการอักเสบของต่อมไทรอยด์ thyroiditis
- เกิดจาการตัดต่อมไทรอยด์มากเกินไป
- เกิดจากการได้น้ำแร่ที่ใช้รักษาคอพอกเป็นพิษ
อาการ
ผู้ป่วยที่เป็นไม่มากอาจจะไม่อาการอะไร หากไม่รักษาโรคจะเป็นมากขึ้นจนเกิดของอาการต่อมไทรอยด์ทำงานน้อย คือ- อ่อนเพลีย
- ผิวหยาบและแห้ง ผิวซีด และผมแห้ง
- อารมณ์ผันผวน
- เสียงแหบ
- ขี้ลืม
- น้ำหนักเพิ่ม
- กลืนลำบาก
- ขี้หนาว
- เบื่ออาหาร
การวินิจฉัย
โดยการเจาะเลือดตรวจหา TSH T3 T4จะพบว่าค่า T4 ปกติหรือต่ำแต่ค่า TSH จะสูงเป็นการยืนยันการวินิจฉัยการรักษา
- โดยการให้ thyroid hormone ไปตลอดชีวิตโดยจะต้องเริ่มให้ในขนาดน้อยแล้วค่อยปรับยาจนกระทั่งระดับ T4 และ TSH อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- ไม่ควรเปลี่ยนยาเองโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์
- ควรตรวจหาระดับ TSH เป็นระยะเพื่อปรับยาไทรอยด์การเจาะเลือดปีละครั้ง
ฮอร์โมนไทรอยด์ปกติ
ฮอร์โมนไทรอยด์ปกติ คือ ภาวะที่ฮอร์โมนหลั่งออกมาตามปกติ แต่เกิดความผิดปกติที่ต่อมไทรอยด์ และอาจส่งผลกระทบต่อการหลั่งปริมาณฮอร์โมนได้บ้างเช่นกันการวินิจฉัย
การตรวจเลือดหาระดับไทรอยด์ฮอร์โมน
ต่อมใต้สมอง pituitary gland จะสร้างฮอร์โมนที่เรียกว่า Thyroid stimulating hormone TSH ทำหน้าที่กระตุ้นให้ต่อมไทรอยด์ สร้างฮอร์โมน T3 (triiodothyronine) and T4 (thyroxine) เพื่อให้ร่างกายเผาผลาญอาหาร- หากต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนมากเกินไปเรียก Hyperthyroidism ตรวจเลือดจะพบว่า T3 หรือ T4 สูงแต่ TSH ต่ำ
- หากต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนน้อยเกินไปเรียก Hypothyroidism ตรวจเลือดจะพบว่า T3 หรือ T4 ต่ำแต่ TSH สูง
Thyroid scan
คือการตรวจต่อมไทรอยด์โดยการให้ผู้ป่วยรับประทานเกลือ Iodine ที่อาบสารรังสี หลังจากนั้นจึงนำผู้ป่วยเข้าเครื่องตรวจ ประโยชน์ Thyroid scan คือ- บอกว่าต่อมไทรอยด์มีการอักเสบหรือไม่ Thyroiditis
- บอกว่าต่อมไทรอยด์มีการสร้างฮอร์โมนเพิ่มหรือไม่ hyperthyroid
- แยกก้อนที่ไทรอยด์ว่าเป็น Hot หรือ Cold nodule
Needle aspirate
การใช้เข็มเจาะเนื้อไทรอยด์โดยการใช้เข็มเล็กๆดูดเนื้อเพื่อนำส่งตรวจทางกล้องจุลทัศน์เพื่อตรวจเนื้อเยื่อว่าเป็นมะเร็ง คอพอกเป็นพิษ หรือเป็น cystการตรวจ ultrasound
เพื่อตรวจดูว่าก้อนไทรอยด์ที่โตเป็นก้อนเนื้อหรือเป็น cystโรคของต่อมไทรอยด์
- ต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยไปเรียก Hypothyroid
- ต่อมไทรอยด์ทำงานมากไปเรียก Hyperthyroid
- ต่อมไทรอยด์เป็นพิษร่วมกับตาโปนเรียก Graves’ disease
- ต่อมไทรอยด์อักเสบ Hashimoto's Thyroiditis
- ก้อนที่ต่อมไทรอยด์เรียก Thyroid Nodules
- มะเร็งต่อมไทรอยด์ Thyroid cancer
- ไทรอยด์กับสุขภาพสตรี
- ยารักษาต่อมไทรอยด์
- I-131
มะเร็งต่อมไทรอยด์
มะเร็งต่อมไทรอยด์ แตกต่างจากการเป็นมะเร็งชนิดอื่นๆ เพราะมะเร็งต่อมไทรอยด์มักจะรักษาให้หายขาด ไม่มีอาการเจ็บปวด และการวินิจฉัยทำได้ง่ายพบได้ไม่บ่อย หากพบเร็วสามารถรักษาหายได้ผู้ป่วยมักจะมาพบแพทย์ด้วยเรื่องก้อนที่คอโดยที่ไม่มีอาการปวด แต่ต้องจำไว้ว่าก้อนที่ต่อมไทรอยด์ร้อยละ 90 ไม่เป็นมะเร็ง แต่เราไม่สามารถแยกเนื้อดีหรือมะเร็งโดยการตรวจร่างกายหรือจากประวัติหรือแม้กระทั่งการเจาะเลือด
การวินิจฉัยทำได้โดยการใช้เข็มเจาะเนื้อต่อมไทรอยด์ไปตรวจโดยการส่องกล้องจุลทรรศน์ แต่ก็มีบางรายที่มาด้วยเรื่องต่อมน้ำเหลืองโต หรืออาการเสียงแหบเนื้อจากก้อนไปกดเส้นประสาท
ชนิดของมะเร็งไทรอยด์
Well-Differentiated Thyroid Cancer
Well-Differentiated Thyroid Cancer เป็นมะเร็งที่มีลักษณะคล้ายเซลล์ปกติแบ่งเป็นสองชนิดคือ papillary และ follicular มะเร็งนี้พบประมาณร้อยละ 90 ของมะเร็งต่อมไทรอยด์ผลการรักษาค่อนข้างดี สาเหตุมักจะเกิดจากการได้รับรังสีรักษาในวัยเด็ก เช่นการรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองPapillary
เมื่อส่องจากกล้องจุลทัศน์จะพบเป็นตุ่มยื่นออกมา มะเร็งชนิดนี้พบบ่อยที่สุดของต่อมไทรอยด์คือพบได้ร้อยละ 70-80% มะเร็งชนิดนี้พบได้ทุกอายุ ก้อนมะเร็งโตช้า ประมาณหนึ่งในสามพบว่ามะเร็งแพร่กระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองแต่ผลการรักษาก็ได้ผลดีแม้ว่าจะมีการแพร่กระจายไปแล้ว ดังนั้นในการผ่าตัดรักษาจึงไม่จำเป็นต้องผ่าตัดแบบมากมายFollicular
มะเร็งชนิดนี้พบได้ร้อยละ 10-15% ของมะเร็งไทรอยด์ พบในคนสูงอายุกว่าชนิด papillary มะเร็งชนิดนี้แพร่กระจายง่ายกว่าชนิดแรก หากมะเร็งไม่แพร่กระจายการรักษามักจะได้ผลดีการรักษา
การผ่าตัดเป็นการรักษาหลัก หากเป็นมะเร็งชนิดที่แพร่กระจายก็อาจจะต้องตัดต่อมไทรอยด์ทิ้งทั้งหมด แต่หากเป็นชนิดที่ไม่แพร่กระจายอาจจะตัดเนื้อต่อมไทรอยด์บางส่วนออก การให้ไอโอดิน 131การติดตามการรักษา
เนื่องจากมะเร็งต่อมไทรอยด์อาจจะเกิดซ้ำได้ดังนั้นอาจจะต้องซักประวัติและตรวจร่างกายเป็นระยะ ทำ ultrasound ที่คอ หรือทำ thyroid scan การเจาะเลือดเพื่อตรวจ thyroglobulin จะพบว่าสูง การให้ฮอร์โมน เนื่องจากว่าการรักษามีการตัดต่อมไทรอยด์ฮอร์โมนและมีการรับประทานน้ำแร่จึงต้องให้ฮอร์โมนไปตลอดชีวิต และการได้รับฮอร์โมนยังป้องกันการกลับเป็นซ้ำของมะเร็งต่อมไทรอยด์กับสตรี
จะพบผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่เป็นโรคต่อมไทรอยด์ขณะตั้งครรภ์ซึ่งทำให้วิตกกังวลเกี่ยวกับสุขภาพตัวเองและบุตร ปัญหาที่พบได้บ่อยคือการตั้งครรภ์
พบว่าผู้ป่วยที่เป็นคอพอกเป็นพิษหรือเป็นโรค Graves' disease เมื่อสามารถควบคุมอาการได้ก็สามารถตั้งครรภ์ได้ แต่ถ้าจะให้ดีควรรักษา Graves' disease ด้วยการผ่าตัดหรือให้น้ำแร่ก่อนการตั้งครรภ์ โดยแนะนำว่าให้สามารถตั้งครรภ์หลังจากรักษาอย่างน้อย 6 เดือนการรักษาโรคคอพอกเป็นพิษ Graves' disease ขณะตั้งครรภ์
มีข้อแตกต่างจากการรักษาในคนปกติคือไม่สามารถให้รับประทานน้ำแร่ และการให้ยา PTU Metimazole ต้องให้ขนาดน้อยที่สุดที่คุมโรค เนื่องจากไม่ต้องการให้ยาไปมีผลต่อเด็กเพราะยานี้สามารถผ่านรกไปสู่เด็กได้การให้ฮอร์โมนไทรอคซิน Thyroxin ระหว่างการตั้งครรภ์
ฮอร์โมนนี้ใช้รักษาภาวะที่ต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยหรือเป็นต่อมไทรอยด์อักเสบ เนื่องจากฮอร์โมนชนิดนี้ผ่านรกได้น้อยมากจึงไม่มีผลต่อเด็กในครรภ์ระหว่างการให้นมบุตร
ไม่ควรตรวจทาง thyroid scan หรือรับน้ำแร่เพื่อรักษาในระหว่างการตั้งครรภ์ สำหรับยาที่ใช้รักษาเช่นฮอร์โมน Thyroxinและ PTU สามารถให้ระหว่างการให้นมเพราะผ่านสู่เด็กได้เพียงเล็กน้อยการเป็นหมัน
ทั้งคอพอกเป็นพิษหรือต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยจะมีบุตรยาก เมื่อรักษาดีแล้วก็สามารถมีบุตรได้เหมือนคนปกติ นอกจากนั้นหากไม่รักษาความต้องการทางเพศก็จะลดลง.การมีประจำเดือน
คอพอกเป็นพิษจะมีประจำเดือนน้อยกว่าคนปกติ ส่วนคนที่ต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยจะมีประจำเดือนมากกว่าคนปกติข้อแนะนำสำหรับผู้ป่วย
การดูแลตัวเอง
นั่งสมาธิ
ขณะนั่งสมาธิ ระบบต่าง ๆ ในร่างกายจะทำงานช้าลง เช่น ชีพจร การเต้นของหัวใจ การหายใจ ทำให้ปริมาณการใช้ออกซิเจน ตลอดจนการเผาผลาญในร่างกายลดลงด้วย เราจึงรู้สึกผ่อนคลาย เมื่อวัดระดับกรดแล็คติค (Lactic Acid) ในเลือดก็มีค่าลดลงเช่นกัน โดยคนที่มีระดับกรดแล็คติคมากเกินไป จะส่งผลให้มีอาการเครียด วิตกกังวล จนถึงขึ้นตื่นตระหนกทีเดียว และเมื่อตรวจคลื่นไฟฟ้าในสมองก็จะพบว่ามีคลื่นอัลฟ่า (Alfa Wave) ในสมองเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ ซึ่งเป็นคลื่นที่ส่งผลทำให้จิตใจสงบ เพราะในสมองของคนเรามีสารสื่อประสาทหรือสารเคมีอยู่มากมาย หากสารบางอย่างลดน้อยหรือเพิ่มมากเกินไป ย่อมทำให้ระบบเสียสมดุล จนแสดงออกมาเป็นความผิดปกติต่างๆ ทั้งร่างกายและจิตใจ เช่น ถ้า"ซีโรโตนิน" ลดน้อยลง คนนั้นจะมีอาการซึมเศร้า หดหู่ หรือถ้ามี "เอ็ปเป็บนิซิน" หรือ "นอร์เป็บนิซิน" มากเกินไป ก็จะมีอาการเครียด วิตกกังวลการนั่งสมาธิจึงมีบทบาทอย่างหนึ่งในการช่วยปรับให้สารสื่อประสาทเหล่านั้นกลับเข้าสู่ภาวะสมดุล และทำงานเป็นระบบ นอกจากนี้ สารเอ็นโดรฟินซึ่งเปรียบได้กับฝิ่นที่มีอยู่ในคนเรานั้นเอง ที่จะหลั่งออกมาเมื่อนั่งสมาธิได้ถึงระดับหนึ่ง ก็ยิ่งทำให้จิตใจเราเป็นสุข รู้สึกปีติ อิ่มเอิบ จึงคลายเครียดได้ดีร้อยเปอร์เซ็นต์
ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายยืดเส้นยืดสาย ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของอิมมูนซิสเต็มได้เป็นอย่างดี ทำให้ร่างกายผลิตเม็ดเลือดขาวที่มีคุณภาพอาหารสุขภาพ
ควรทานอาหารที่ผ่านการปรุงแต่งน้อย เพราะอาหารจากธรรมชาติจะยังคงคุณค่าสารอาหารไว้ได้มากที่สุด เช่น ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ แป้งไม่ขัดขาว พืชผักผลไม้ในท้องถิ่นตามฤดูกาล(รสไม่หวาน)โดยเฉพาะกล้วยมีสารที่ช่วยลดแล็คติค เอเบค ( Lactic Acid)ช่วยลดอาการเครียด ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคไทรอยด์ เนื้อปลา ตลอดจนธัญพืชนานาชนิด ทั้งนี้ เพื่อให้ร่างกายสามารถ "ใช้อาหารเป็นยา และใช้ยาเป็นอาหาร" อาหารที่มีโปรตีนสูง (โดยเฉพาะจากธัญพืช) วิตามินและเกลือแร่จากธรรมชาติเพื่อสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกายสำหรับคนที่ดื่มชากาแฟ ให้ลองเปลี่ยนมาดื่มน้ำชาสมุนไพรแทน เช่น ตะไคร้ ขิง ดอกคำฝอย ก็จะช่วยเป็นทั้งยาและเครื่องดื่มที่ทำให้ร่างกายแข็งแรง สดชื่นได้เป็นอย่างดี
มองโลกในแง่ดี
การมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ จะช่วยรักษาสมดุลจิตใจของคนที่ป่วยเป็นโรคไทรอยด์ได้ดี วิธีนี้ช่วยลดความวิตกกังวล และความฟุ้งซ่านได้ โดยเริ่มจากการรู้จักชื่นชมตัวเองและชื่นชมคนรอบข้าง ลองนึกถึงสิ่งดีๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตและรู้จักขอบคุณธรรมชาติมีเพื่อนไว้พูดคุยคลายทุกข์
ควรพูดคุยระบายออกมากับครอบครัว หรือเพื่อนที่รู้ใจ โดยเฉพาะเพื่อนที่มีปัญหาเดียวกัน ซึ่งจะคอยรับฟังและดูแลซึ่งกันและกันได้เป็นอย่างดีหากิจกรรมทำเพื่อความเพลิดเพลิน
ไม่ว่าการวิธีเขียนไดอารี่ วาดภาพ อ่านหนังสือ หรือกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย ช่วยทำให้จิตใจดีขึ้นกว่าการนั่งจมจ่อมอยู่กับปัญหาการรับประทานน้ำแร่
เนื่องจากว่าไอโอดินเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของฮอร์โมนไทรอยด์ การให้ไอโอดินที่อาบรังสีจะทำให้รังสีทำลายเนื้อมะเร็ง การรักษาโดยวิธีนี้แพทย์จะให้ผู้ป่วยรับประทาน Iodine ที่อาบรังสีซึ่งอาจจะทำเป็นรูปสารละลาย หรือแคปซูล I-131 นี้จะไปจับกับเนื้อไทรอยด์อย่างรวดเร็ว และเริ่มทำลายเนื้อไทรอยด์ โดยจะเห็นผลใน 6-18 สัปดาห์ ก่อนได้รับสารนี้ควรตรวจการตั้งครรภ์ก่อนทุกครั้งข้อห้ามใช้
ห้ามใช้ Radioactive iodine ในคนท้อง หญิงให้นมบุตร ควรตรวจการตั้งครรภ์ก่อนให้สารนี้และควรจะคุมกำเนิดหลังจากได้ยานี้อีก 4 เดือนการปฏิบัติตัวสำหรับผู้ที่ได้รับน้ำแร่
หลักการรักษาผู้ป่วยด้วยน้ำแร่คือการนำเอา Iodine ไปอาบรังสีเพื่อรักษา เมื่อท่านกินน้ำแร่ต่อมไทรอยด์จะจับแร่ดังกล่าวไว้ รังสีก็จะทำลายต่อมไทรอยด์ แม้ว่ารังสีที่ได้รับจะมีปริมาณไม่มากแต่ท่านควรป้องกันคนใกล้ชิดของท่านมิให้ได้รับรังสีนั้นโดยวิธีการดังนี้- ให้อยู่ไกลผู้อื่น ช่วง 2-3 วันแรกให้แยกตัวจากผู้อื่น โดยการแยกห้องนอน งดการกอด หรือมีเพศสัมพันธ์ หลีกเลี่ยงคนท้อง และเด็ก
- ลดระยะเวลาที่ต้องสัมผัสกับผู้อื่น เนื่องจากการปริมาณรังสีที่ได้รับขึ้นกับระยะเวลาที่สัมผัสดังนั้นควรอยู่ใกล้ชิดกับผู้อื่นให้น้อยที่สุด
- รักษาสุขลักษณะให้ดีที่สุด ให้ล้างมือด้วยสบู่และน้ำทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำ ให้ชักโครก 3-4 ครั้ง แยกถ้วยชามอาหารในระยะแรก ล้างห้องน้ำหรืออ่างล้างหน้าทุกครั้งที่เปื้อนน้ำลายหรือเหงื่อของผู้ป่วย
ข้อควรระวัง
- ถ้าหากท่านตั้งครรภ์ควรแจ้งแพทย์ก่อนได้รับน้ำแร่
- ถ้าท่านเลี้ยงบุตรด้วยนมตัวเองให้งดให้นมบุตรเนื่องจากน้ำแร่สามารถผ่านทางน้ำนมได้
อ้างอิง
- นิตยสารชีวจิต ฉบับวันที่ 16 มกราคม 2550
- http://www.siamhealth.net/Disease/endocrine/thyroid/index.htm
- http://www.siamhealth.net/Health/Lab_interprete/thyroid_test.htm
- http://www.siamhealth.net/Disease/endocrine/thyroid/Hypothyroid.htm
- http://www.siamhealth.net/Disease/endocrine/thyroid/Hyperthyroid.htm
- http://www.siamhealth.net/Disease/endocrine/thyroid/Graves.htm
- http://www.siamhealth.net/Disease/endocrine/thyroid/cathyroid.htm
- http://www.siamhealth.net/Disease/endocrine/thyroid/women.htm
- http://www.siamhealth.net/Disease/endocrine/thyroid/ptu.htm
- http://www.siamhealth.net/Disease/endocrine/thyroid/i131.htm
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น