คาดว่ายอดขายรถยนต์โดยรวมปีนี้จะหดตัวลง

 บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย  จำกัด คาดว่ายอดขายรถยนต์โดยรวมปีนี้จะหดตัวลง โดยยอดขายรถยนต์ในประเทศตลอดปี 2552 คาดว่าจะมีจำนวนประมาณ 532,000 คัน ลดลงประมาณร้อยละ 13 จากปี2551 : ซึ่งเป็นการหดตัวต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 นับตั้งแต่ปี 2549  ส่วนปี  2553 คาดว่าจะอยู่ระหว่าง 570,000-590,000 คัน หรือขยายตัวร้อยละ 7 - 11 จากที่คาดว่าจะหดตัวร้อยละ 13 ในปี 2552  อย่างไรก็ตาม  ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ เช่น ทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ราคาน้ำมัน และเสถียรภาพของรัฐบาล ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่อาจฉุดให้ตลาดเติบโตต่ำกว่าที่คาดได้ อย่างไรก็ตาม ด้วยปัจจัยบวกต่าง ๆ โดยเฉพาะการเข้ามาของรถเซกเมนต์ใหม่ของตลาด เช่น รถอีโคคาร์ ในช่วงต้นปี ประกอบกับฐานที่ต่ำในช่วงครึ่งแรกปี 2552 จะทำให้ยอดขายรถยนต์ในประเทศช่วงครึ่งปีแรกขยายตัวค่อนข้างสูงต่อเนื่องจากที่ตลาดรถยนต์เริ่มขยายตัวในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2552ศูนย์วิจัยกสิกรไทยวิเคราะห์ว่า ระยะต่อจากนี้รถยนต์นั่งขนาดเล็กและประหยัดพลังงานจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในตลาดมากขึ้นเรื่อย  ๆ  จากสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงและทิศทางราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้การลงทุนในโครงการรถอีโคคาร์จะเริ่มมีบทบาทในไทยมากขึ้น ซึ่งการที่มีรถยนต์นั่งขนาดเล็กและรถอีโคคาร์ เข้ามาแข่งขันในตลาด จะทำให้ตลาดรถระดับ 400,000-600,000  บาท  มีประเภทรถยนต์เข้ามาแข่งขันมากขึ้น  จากเดิมที่มีรถปิกอัพเป็นประเภทหลักที่ทำตลาดรถระดับราคาดังกล่าวอย่างไรก็ตาม  ปีหน้าแม้ราคาน้ำมันจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น  แต่ตลาดรถปิกอัพจะยังไม่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันมากนัก เนื่องจากรัฐบาลน่าจะยังคงตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อไปอีกระยะหนึ่ง  เพื่อลดภาระต้นทุนการผลิตในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งยังคงได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก ทำให้ขณะนี้ราคาน้ำมันดีเซลอยู่ในระดับต่ำกว่าน้ำมันประเภทอื่น ๆ ยกเว้นแก๊สโซฮอล์ อี 85. (สำนักข่าวไทย)