วันจันทร์, ธันวาคม 14, 2552

ธ.ก.ส. ห่วงผู้ที่เข้าร่วมโครงการประกันรายได้เกษตรก

ธ.ก.ส. ห่วงผู้ที่เข้าร่วมโครงการประกันรายได้เกษตรกรได้รับเงินส่วนต่างน้อยจากราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงที่สูงขึ้น เชิญชวนเกษตรกรให้เร่งมาทำสัญญาตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในโครงการ นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จนถึงวันที่ ธ.ค. 52 มีเกษตรกรผู้ปลูกข้าวขึ้นทะเบียนเข้าร่วมโครงการประกันรายได้เกษตรกร 3.21 ล้านราย ธ.ก.ส. จัดทำสัญญาให้แล้ว 2.67 ล้านราย หรือร้อยละ 83.21 ในจำนวนนี้มีสัญญาที่ได้รับการอนุมัติรอการใช้สิทธิ์ 1.82ล้านราย และมีเกษตรกรใช้สิทธิ์รับเงินชดเชยส่วนต่างราคารวม 4.58 แสนราย เป็นเงินทั้งสิ้น 5,340.44 ล้านบาท ส่วนเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังขึ้นทะเบียน 4.43 แสนราย ธ.ก.ส.จัดทำสัญญาให้แล้ว 4.21 แสนราย หรือร้อยละ95.02 สัญญาได้รับการอนุมัติรอการใช้สิทธิ์แล้ว 2.96 แสนราย และมีเกษตรกรใช้สิทธิ์ 5.45 หมื่นราย เป็นเงิน 472.48 ล้านบาท  “ธ.ก.ส. ห่วงว่าเกษตรกรจะเสียสิทธิ์รับเงินส่วนต่างหรือได้รับน้อยลง เนื่องจากในขณะนี้ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงของข้าวเปลือกและมันสำปะหลังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างเช่น เมื่อวันที่ ธ.ค. ที่ผ่านมา ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงข้าวเปลือกหอมมะลิอยู่ที่ตันละ 13,720 บาท ข้าวหอมจังหวัดตันละ 13,388บาท ข้าวเปลือกเจ้าตันละ 9,242 บาท ข้าวหอมปทุมตันละ 10,565 บาท และข้าวเปลือกเหนียวตันละ 9,591บาท ส่วนราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงมันสำปะหลังอยู่ที่กิโลกรัมละ 1.64 บาท ซึ่งจากแนวโน้มราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงสูงขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้ส่วนต่างระหว่างราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงกับราคาประกันแคบลงทุกขณะ ดังนั้น หากเกษตรกรยังไม่รีบมาทำสัญญา โอกาสที่จะได้รับเงินชดเชยจะลดน้อยลงไปเรื่อยๆ ทั้งนี้ ธ.ก.ส. จะยุติการทำสัญญาประกันรายได้เกษตรกรในวันที่ 15 ธ.ค. นี้ ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในโครงการ” นายลักษณ์กล่าว (ที่มา : กระทรวงการคลัง ผู้นำเสนอ : กลุ่มสารนิเทศการคลัง  สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น