นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง บอกว่า รัฐบาลเตรียมเปิดโครงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบให้ประชาชนในวันพรุ่งนี้ โดยนายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 1-30ธันวาคม 2552 ที่ ธนาคารออมสิน 600 สาขา และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส.900 สาขาทั่วประเทศ หลังจากนั้นจะจัดแยกประเภทหนี้ จัดลำดับความสำคัญของการเป็นหนี้ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต หรือหนี้เพื่อประกอบอาชีพ เป็นหลัก
สำหรับหลักเกณฑ์ในการรับโอนหนี้นอกระบบ ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. จะให้กู้รายละ 2 แสนบาท อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 12% ต่อปี ระยะเวลาชำระคืนเงินกู้ 8 ปี และต้องเป็นหนี้นอกระบบก่อนวันที่ 19 พฤศจิกายนเท่านั้น โดยใช้บุคคลค้ำประกันในการขอกู้ ซึ่งหากกู้ไม่เกิน 1 แสนบาท ใช้บุคคลค้ำประกัน 1 ราย และ ตั้งแต่1-2 แสนบาท ใช้บุคคลค้ำประกัน 2 ราย
นอกจากนี้ยังกำหนดเงื่อนไขให้ผู้เข้าโครงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบจะต้องเข้า โครงการฝึกอบรมเพื่อเข้าสู่กระบวนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โครงการฟื้นฟูอาชีพ เพื่อไม่ให้ประชาชนกลับเข้าสู่วงจรการเป็นหนี้นอกระบบอีก โดย ธ.ก.ส.และธนาคารออมสิน จะจัดสรรเงิน มาจัดโครงการฝึกอบรมประชาชนภาคบังคับ เพื่อให้ความรู้พื้นฐาน ปรับทัศนคติ และเข้าใจพิษภัยของการดำรงชีวิตจากหนี้นอกระบบ
สำหรับกลุ่มมิจฉาชีพที่เตรียมจัดทำหนี้ปลอมหรือเจ้าหนี้ปลอมเพื่อเข้าโครงการหวังกู้เงินในระบบนั้น รัฐบาลมีระบบการตรวจสอบที่ชัดเจน โดยโครงการดังกล่าวจะมีคณะกรรมการระดับชาติ มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานที่ปรึกษาโครงการ มีการประสานงานจากหลายหน่วยงาน
ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสรรพากร เพื่อพิจารณากระบวนการดำเนินโครงการตั้งแต่การขึ้นทะเบียน การจัดหาแหล่งเงิน การกำหนดดอกเบี้ยที่เป็นธรรม กระบวนการเจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้นอกระบบ ที่มีผู้บริหารระดับท้องถิ่นร่วมรับผิดชอบ รวมทั้ง เจ้าหนี้และลูกหนี้ต้องสาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า เป็นเจ้าหนี้และลูกหนี้นอกระบบจริง และต้องรับทราบด้วยว่า การให้ข้อมูลที่เป็นเท็จถือเป็นความผิดที่มีสิทธิถูกกล่าวโทษหรือติดคุกได้ในภายหลัง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง บอกด้วยว่า รัฐบาลจะดำเนินโครงการแก้ปัญหาหนี้สินนอกระบบไปจนถึงสิ้นปีงบประมาณ 53 หลังจากนั้นจะมีการประเมินโครงการอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมโครงการ เป็นหลักล้านราย
ด้านนายเอ็นนู ซื่อสุวรรณ รองผู้จัดการ ธ.ก.ส. บอกว่า อัตราดอกเบี้ยที่กำหนดไว้ไม่เกิน 12 % นั้นจะคิดในช่วง3 ปีแรก และหลังจากนั้นจะขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคารเป็นผู้กำหนด เพราะในช่วงแรกของการเปิดโครงการ ควรจะใช้มาตรฐานเดียวกัน เพียงแต่การชำระหนี้อาจจะแตกต่างกันไป แต่ต้องไม่เกิน 8 ปี เช่น ธ.ก.ส. อาจให้ชำระปีละ 1 ครั้ง หรือ 2 ครั้ง ตามการเก็บเกี่ยวผลผลิต แต่ธนาคารออมสินอาจจะให้ชำระทุกเดือนเป็นต้น (Money Line News)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น