วันศุกร์, พฤศจิกายน 20, 2552

จีนปล่อยเงินหยวนแข็งค่าต่อไป กดให้เงินบาทแข็งค่าตามไปด้วย

 จีนปล่อยเงินหยวนแข็งค่าต่อไป กดให้เงินบาทแข็งค่าตามไปด้วย : นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจ และตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า การประชุมเอเปคในครั้งนี้ อาจจะมีมวยสองคู่ คือไทย-กัมพูชา และ จีน-สหรัฐฯ โดยสถานการณ์ของไทยและกัมพูชานั้นยังต้องติดตามว่าผลกระทบจะขยายวงกว้างออกไปเพียงใด ส่วนสถานการณ์ของจีนและสหรัฐฯ จะยังมีการกีดกันทางการค้าที่ประเด็นที่สำคัญสุดหลังจากที่จีนและสหรัฐฯใช้มาตรการที่เข้าข่ายการตอบโต้ทางการค้ามากขึ้น เพื่อพยุงสถานะเศรษฐกิจของประเทศตน
นอกจากนี้ จีนยังมีความเห็นไม่ตรงกับสหรัฐฯ เพราะจีนจะยังมีแนวโน้มปรับให้ค่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้นต่อไป ขณะที่นโยบายการคลังของสหรัฐฯจะสนับสนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐให้แข็งค่าขึ้นเช่นกัน เพื่อสร้างความอุ่นใจให้เจ้าหนี้ว่าเงินต้นจะไม่ปรับลดลง ทั้งนี้ การที่จีนปล่อยให้ค่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้น จะทำให้ค่าเงินบาทและค่าเงินอื่น ๆ ในภูมิภาคแข็งค่าขึ้นตาม แต่ยังเชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะยังรักษาค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพเป็นอันดับที่ 3 ในภูมภาครองจากฮ่องกง และจีนต่อไป เพราะหากค่าเงินบาทแข็งค่าเร็วเกินไป จะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้ปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้ โดยให้กรอบค่าเงินบาทในวันนี้ที่ 33.25 – 33.35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐสำหรับตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ประกาศออกมาเช้าวันนี้นั้น มีตัวเลขที่ค่อนข้างกระจัดกระจาย ทั้ง ดัชนีเงินเฟ้อของผู้บริโภค ยอดค้าปลีก และดัชนีการผลิต เป็นต้น ซึ่งจะตัวชี้นำทิศทางการลงทุนในภูมิภาคต่อไปได้ โดยประเทศต่าง ๆ ยังคงฝากความหวังการฟื้นตัวไว้ที่ประเทศจีน (Money Line News)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น