วันศุกร์, พฤศจิกายน 20, 2552

5 ความเชื่อผิด ๆ ในเรื่องงานที่ต้องกำจัดทิ้ง

  1. ความเชื่อผิด ๆ คุณต้องหาความสมดุลระหว่างชีวิตกับการทำงานให้ได้
          ความเป็นจริง หยุดพยายามทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เสียที
           ถ้าคุณพยายามให้เวลาแก่การทำงาน ครอบครัว และเรื่องส่วนตัวเท่า ๆ กัน คุณจะลงเอยด้วยการไม่ประสบความสำเร็จกับอะไรสักอย่าง ฉะนั้น มองชีวิตเป็นช่วง ๆ ไป เลือกสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ และเน้นไปที่สิ่งนั้น และการบอกปฏิเสธบางอย่าง ไม่ได้หมายความว่าจะต้องปฏิเสธมันไปตลอดชีวิต
          2. ความเชื่อผิด ๆ มีเพียงความที่มีอำนาจวาสนาเท่านั้นที่ควรค่าแก่การสร้างสานสัมพันธ์
          ความเป็นจริง สนิทสนมกับดาวรุ่งของพรุ่งนี้
          การสร้างสานความสัมพันธ์ที่ดีเป็นโปรเจ็กต์ระยะยาวแทนที่จะประจบแต่คนที่มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดีอยู่แล้วในวันนี้ มองหาคนที่มีความสามารถอย่างแท้จริง และมีแววจะก้าวหน้าขึ้น วิธีนี้จะทำให้คุณดูไม่เป็นคนขี้ประจบ และสร้างสัมพันธภาพที่จะส่งผลดีในระยะยาว
          3. ความเชื่อผิด ๆ คุณต้องรู้ว่าคุณอยากทำงานอะไรตั้งแต่แรก
          ความเป็นจริง ใช้ชีวิตและเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ
          การวางแผนเส้นทางการทำงานและยึดตามนั้นเป็นความคิดเก่าแก่ ในความเป็นจริงคนส่วนใหญ่อยู่ในสภาวะที่เปลี่ยนแปลงอยู่สมอ หาดูว่าเราอยากที่จะทำอะไรต่อไป คุณต้องเป็นสถาปนิกสร้างอาชีพการงานของคุณเอง ซึ่งหมายความถึงการลองผิดลองถูกและการคันหาตัวเอง
          4. ความเชื่อผิด ๆ คุณต้องเปลี่ยนงานบ่อย ๆ เพื่อที่จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสุดยอด
          ความเป็นจริง ตรึงเท้าของคุณให้ติดกับที่เอาไว้
          ทุกวันนี้บริษัทจำนวนมากเน้นการสร้างคนที่มีความสามารถในองค์กรของตัวเอง ซึ่งจะเข้าใจความเป็นไปในองค์กรอย่างลึกซึ้ง แต่ถ้าคุณเบื่อบทบาทของตัวเองลองหาความรับผิดชอบใหม่ ๆ เพื่อสร้างแรงจูงใจใหม่ ๆ แต่ถ้าลองแล้วและรู้สึกว่าคุณยังคงไม่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ มันอาจถึงเวลาที่จะจากไปก็ได้
          5. ความเชื่อผิด ๆ คุณต้องแสดงออกจึงจะเป็นที่สังเกตเห็น
          ความเป็นจริง มันไม่เกี่ยวกับว่าคุณพูดเสียงดังแค่ไหน แต่สิ่งที่คุณพูดต่างหากที่สำคัญกว่า
          การกล้าแสดงออกทำให้คนอื่นรู้ว่า คุณทำงานได้ดีแค่ไหน แต่หัวใจสำคัญไม่ใช่การตะโกนให้ดังที่สุด แต่เป็นการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ขอคำแนะนำ และแบ่งปันเครดิตให้คนอื่นบ้าง คนจะขอบคุณและอยากช่วยคุณอีก แต่คนที่แสดงออกก็มีข้อได้เปรียบคือพลังงานของพวกเขาเป็นที่ดึงดูดใจ สิ่งที่ดีที่สุดก็คือการสลับไปมาระหว่างการแสดงออกกับเก็บความรู้สึกตามแต่สถานการณ์



ขอขอบคุณข้อมูลจาก Lisa และ www.kapook.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น